เทศกาล “วันแห่งความตาย” กระตุ้นการใช้จ่ายในเม็กซิโกทะลุ 4.5 หมื่นล้านเปโซ

วันแห่งความตาย หรือ Día de los Muertos (Day of the Dead) เป็นเทศกาลสำคัญในเม็กซิโกที่จัดขึ้นทุกปี ในระหว่างวันที่ 1 – 2 พฤศจิกายน เพื่อรำลึกถึงและเฉลิมฉลองความทรงจำของผู้ล่วงลับ เทศกาลนี้มีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมชนพื้นเมืองของชาวแอซเท็กซึ่งเชื่อว่าดวงวิญญาณของบรรพบุรุษจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวในโลกมนุษย์ ดังนั้น ชาวเม็กซิกันจะเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ในครอบครัวโดยการจัดแท่นบูชาหรือในภาษาสเปนเรียกว่า “Ofrenda” ที่มีการประดับด้วยดอกดาวเรือง เครื่องหอม อาหารและสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อเป็นการต้อนรับและเชื่อมโยงกับวิญญาณของญาติผู้ล่วงลับ สะท้อนถึงความเชื่อที่ผสมผสานระหว่างชนพื้นเมืองกับศาสนาคริสต์

การใช้จ่ายในช่วงเทศกาล ในปี 2024 นี้ คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายในประเทศจะสูงถึง 4.5 หมื่นล้านเปโซ (ประมาณ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของเทศกาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักหลังการระบาดของโควิด – 19 โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีจำนวนกว่า 4.8 ล้านแห่งทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงร้านอาหาร/ผับ/บาร์/คารเฟ่ ร้านค้าขายสิ่งของ เครื่องประดับตกแต่ง เสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย ธุรกิจบริการขนาดเล็ก ที่ล้วนได้รับแรงกระตุ้นจากการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเทศกาลนี้

การแต่งกายในขบวนพาเหรด Photo credit: : pictures.reuters.com

เทศกาล “วันแห่งความตาย” กระตุ้นการใช้จ่ายในเม็กซิโกทะลุ 4.5 หมื่นล้านเปโซ

ภาคโรงแรมและการท่องเที่ยว: โรงแรมทั่วประเทศคาดว่าจะมีรายได้กว่า 4.2 พันล้านเปโซ จากอัตราการเข้าพักในช่วงเทศกาลที่สูงถึง 85% โดยจากสถิติในปี 2023 เมืองหลักอย่าง Mexico City, Oaxaca, และ Morelia มีผู้เข้าพักมากกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3.7 พันล้านเปโซ ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้มีรูปแบบผสมผสานมากขึ้น โดยนอกจากจะมีพิธีกรรมดั้งเดิมแล้ว ยังมีขบวนพาเหรด การแสดงดนตรี และกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่  เช่น ใน Mexico City มีการจัดขบวนพาเหรดบนถนน Paseo de la Reforma และงานพิเศษที่ Mixquic ในเมือง Oaxaca และ Michoacán ที่มีกิจกรรมอย่าง ขบวนเรือ บนทะเลสาบ Pátzcuaro และแท่นบูชาที่ส่องแสงบนเกาะ Janitzio ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจที่จะเดินทางมายังเม็กซิโกในช่วงเทศกาลมากขึ้น

ตัวอย่างการจัดตกแต่งแท่นบูชาเพื่อต้อนรับวิญญาณ (Ofrenda)

เทศกาล “วันแห่งความตาย” กระตุ้นการใช้จ่ายในเม็กซิโกทะลุ 4.5 หมื่นล้านเปโซ

ภาคเกษตร: ไม่เพียงแต่ภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ได้รับแรงกระตุ้นจากเทศกาลวันแห่งความตาย แต่ภาคการเกษตรก็ได้รับผลบวกเช่นกัน โดยเฉพาะการผลิตและจำหน่ายดอกดาวเรือง (ภาษาสเปน Cempasúchil) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำเทศกาลเนื่องจากชาวเม็กซิกันเชื่อว่าดอกดาวเรืองเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นและความตาย (The symbol of life and death) จึงถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในเครื่องสักการะบูชาคนตายในเทศกาลนี้  นอกจากนี้ สีเหลืองของดอกดาวเรือง ยังเปรียบเสมือนแสงของดวงอาทิตย์ ดังนั้น จะมีการนำดอกดาวเรืองมาประดับตั้งแต่ถนนหน้าบ้านไปจนถึงในบ้าน เพื่อเป็นเครื่องนำทางวิญญาณของบรรพบุรุษที่กลับมาเยี่ยมครอบครัวไปยังแท่นบูชา (Ofrenda) ที่จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ ในแต่ละปีการปลูกดอกดาวเรืองในเม็กซิโกมีปริมาณกว่า 2 หมื่นตัน โดยจะเริ่มปลูกในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน เพื่อรองรับความต้องการในช่วงเทศกาล Día de los Muertos ดังนั้น เทศกาลดังกล่าวจึงเป็นช่วงที่สร้างรายได้ให้กับตลาดดอกไม้ทั่วประเทศ

ภาคอุตสาหกรรมการเดินทางและขนส่ง: การเดินทางของผู้คนในช่วงเทศกาล Día de los Muertos เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นธุรกิจบริการด้านการขนส่ง โดยเฉพาะเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการจัดงาน เช่น Mexico City, Oaxaca, และ Michoacán การจองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองเหล่านี้เต็มอย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากเทศกาลนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สนามบินนานาชาติ Oaxaca (OAX) และ สนามบินนานาชาติ Benito Juárez (MEX) ใน Mexico City มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างมาก บริการรถรับ-ส่ง เช่น รถบัสและรถแท็กซี่ในสนามบินก็ได้รับความนิยม โดยเฉพาะการเดินทางจากเมืองไปยังจุดจัดงานต่างๆ เช่น Mixquic และทะเลสาบ Pátzcuaro ในรัฐ Michoacán ในแง่ของการขนส่งสาธารณะ รัฐบาลและบริษัทเอกชนต้องวางแผนเพิ่มเที่ยวรถโดยสารและรถไฟ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าร่วมงาน ในระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม ถึง 2 พฤศจิกายน ทั้งนี้ การเดินทางระหว่างเมืองด้วยรถบัสยังเป็นตัวเลือกยอดนิยม เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนมากเลือกเยี่ยมชมเมืองรอบนอกหลังจากเข้าร่วมเทศกาลหลักในเมืองใหญ่

ขนมหวานต่างๆ ที่จำหน่ายช่วงเทศกาล

เทศกาล “วันแห่งความตาย” กระตุ้นการใช้จ่ายในเม็กซิโกทะลุ 4.5 หมื่นล้านเปโซ

ภาคอาหารและเครื่องดื่ม: เทศกาลนี้มีอิทธิพลเชิงบวกต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น โดยเฉพาะร้านอาหารและแผงขายขนมที่จัดเมนูพิเศษ เช่น Pan de muerto (ขนมปังหวานรูปกระดูก) และ Tamales (อาหารพื้นเมืองของเม็กซิโก ทำจากแป้งข้าวโพด สอดไส้ต่างๆ) พร้อมกับเครื่องดื่มยอดนิยมอย่าง Mezcal (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นเมืองของเม็กซิโก) ร้านอาหารและตลาดในพื้นที่จัดกิจกรรม เช่น Cuauhtémoc และ Mixquic จะมีการจำหน่ายอาหารและขนมเพื่อรองรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น นอกจากนี้ การจัดงานอาหารและเทศกาลเครื่องดื่มก็เป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดผู้เข้าร่วมงาน โดยหลายเมือง เช่น Mexico City และ Oaxaca มักจัดเทศกาลอาหารคู่กับกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมต่างๆ

ปัจจุบันเทศกาล Día de los Muertos ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงประเพณีที่กลายมาเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเม็กซิโก แต่ยังเป็นเทศกาลที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเม็กซิโกให้กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลเม็กซิโกได้ให้ความสำคัญในผลักดันให้เทศกาลนี้กลายมาเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของกิจกรรมในเม็กซิโก โดยจัดการเฉลิมฉลองเทศกาลให้มีความยิ่งใหญ่ มีรูปแบบน่าสนใจ การจัดขบวนพาเหรด การแสดงศิลปะ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งนับเป็นตัวอย่างในการใช้ประโยชน์จาก Soft power ในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐิกิจของประเทศได้เป็นอย่างดี

 

——————————————————————

ที่มา

– Day of the Dead 2024 Consumer Spending (https://mexiconewsdaily.com/business/day-of-the-dead-2024-consumer-spending/)

– Day of the Dead (https://kids.nationalgeographic.com/celebrations/article/day-of-the-dead)

– Day of the Dead – statistics & facts (https://www.statista.com/topics/11458/day-of-the-dead/#topFacts)

 

de_DEGerman