ผลสำรวจชี้ไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงตรุษจีน

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงวันหยุดตรุษจีน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 Airbnb ได้เผยแพร่ข้อมูลของจีนว่า ชาวจีนมีการค้นหาเกี่ยวกับการเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศในช่วงวันหยุดตรุษจีนเพิ่มขึ้น 3 เท่า โดยจุดหมายปลายทาง 10 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น ไทย นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา อิตาลี และอินโดนีเซีย ซึ่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครองสัดส่วนถึงร้อยละ 70

สถานการณ์ตลาดการท่องเที่ยวของจีน

จีนนับว่าเป็นหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของโลก จากพื้นฐานประชากรจำนวนมาก การพัฒนาทางเศรษฐกิจและการขยายความเป็นเมือง ประกอบกับการคมนาคมที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมีความสะดวก ตั้งแต่ในปี 2566 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งด้วยแรงหนุนจากปัจจัยหลายด้านทั้งความต้องการที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนหลังจากหลังถูกระงับมาเป็นเวลา 3 ปีในช่วงโควิด และนโยบายจีนที่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยวขาเข้าและขาออก นอกจากนี้ หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย ได้ออกนโยบายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน อาทิ การยกเว้นวีซ่า หรือการลดขั้นตอนลดระยะเวลาในการขอวีซ่า ทำให้การออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวจีน

– ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศรวม 4,891 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 23.61 ล้านครั้งจากปีก่อน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 93.3 จากปีก่อน และร้อยละ 81.38 จากปี 2562 (ข้อมูลของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน)

– ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวน 100.96 ล้านครั้ง (ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน) และคาดการณ์จำนวน 130 ครั้งในปี 2567 (ข้อมูลของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวจีน (China Tourism Academy))

– นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังจีนจำนวน 82.03 ล้านครั้ง ในที่นี้เป็นชาวต่างชาติ 13.78 ล้านครั้ง และเป็นชาวฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวันจำนวน 68.24 ล้านครั้ง (ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน)

– ปี 2567 (มกราคม –กรกฎาคม) จีนมีคนเดินทางเข้าออกประเทศจำนวน 341 ล้านครั้ง ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 62.34 (ข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน)

นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหลัก เป็นวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคน อายุตั้งแต่ 22 – 41 ปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 82.8 มีระดับการศึกษาปริญญาตรีและวิทยาลัย มีสัดส่วนสูงที่สุดคิดเป็นร้อยละ 74.36 ผู้ประกอบอาชีพอิสระครองสัดส่วนสูงที่สุด และส่วนใหญ่เลือกเข้าพักในโรงแรมราคาประหยัด โดยนักท่องเที่ยวร้อยละ 33.33 เลือกโรงแรมราคาปานกลาง (โดยมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่เลือกพักที่โรงแรมหรูลดลง) ทั้งนี้พบว่า ความต้องการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวจีนเปลี่ยนแปลงไปโดยให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น เนื่องจากความกังวลต่อความเสี่ยงด้านสุขภาพ ความปลอดภัย ความกดดันทางด้านเศรษฐกิจทั่วโลก อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการชะลอแผนการท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือเปลี่ยนแผนมาเที่ยวในประเทศแทน

สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยและจีน

– จีนและไทยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่สำคัญซึ่งกันและกันมาโดยตลอด อีกทั้งยังเป็นตลาดท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัวค่อนข้างเร็ว ด้วยปัจจัยที่เอื้ออำนวยประโยชน์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน และการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินระหว่างกรุงปักกิ่ง- กรุงเทพฯ ได้ฟื้นตัวเท่ากับระดับก่อนการเกิดโควิด 19 เฉลี่ยประมาณ 8-9 ไฟท์ต่อสัปดาห์ และเกือบทุกเมืองหลวงของทุกมณฑลมีเที่ยวบินไปไทย โดยเมื่อช่วงวันหยุดวันชาติจีนที่ผ่านมามีเที่ยวบินจากจีนไปไทยกว่า 960 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 110 เที่ยวบินจากสัปดาห์ก่อนหน้า

– ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยเปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม2567 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยแล้วราว 5.71 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 105.20 จากปีก่อน (แม้จะยังไม่เท่าช่วงก่อนโควิดในปี 2562 ที่ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเกือบ 11 ล้านคน) ทั้งนี้ ในส่วนนักท่องเที่ยวไทยเยือนจีนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีจำนวน 477,100 คน/ครั้ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวยังเมืองจีน (สัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดที่คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3) โดยจุดหมายปลายทางหลัก คือ กรุงปักกิ่ง และมณฑลไห่หนาน

– นอกจากนี้ ยังได้มีการสำรวจความเห็นนักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศ พบว่าการให้คะแนนความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวจีนต่อเมืองไทย เท่ากับ 81.87 หรือเป็นอันดับ 6 ของประเทศจุดหมายปลายทาง โดยให้คะแนนสูงในด้านทัศนคติของชาวไทยท้องถิ่น ความคุ้มค่าคุ้มราคา การสันทนาการ และการช้อปปิ้ง ขณะที่คะแนนความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวไทยต่อเมืองจีนเท่ากับ 83.48 ซึ่งสูงกว่าความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยให้คะแนนประเมินสูงในด้านทำเลที่ตั้งของที่พัก ความสะอาดและสะดวกสบายของห้องพัก และคุณภาพการให้บริการระดับมืออาชีพของพนักงาน อย่างไรก็ดี ยังมีความไม่สะดวกในการสื่อสารภาษาอังกฤษของชาวจีน นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปท่องเที่ยวประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและวัยกลางคนมีอายุ 22-45 ปี และประมาณร้อยละ 80 เลือกไปเที่ยวเมืองไทยแบบอิสระ ซื้อแพ็กเกจของโรงแรมหรือเข้าร่วมทัวร์ส่วนตัวขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวมีความคาดหวังและพึงพอใจกับคุณภาพการท่องเที่ยวของไทย

คาดการณ์แนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศในอนาคต

– แม้ว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่ซับซ้อนหลายประการ อาทิ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศและภายในประเทศ การเกิดลัทธิปกป้องการค้าและนโยบายดำเนินการฝ่ายเดียว (Protectionism and Unilateralism) อย่างไรก็ตาม การพัฒนาการท่องเที่ยวขาออกของจีนยังมีแนวโน้มเป็นบวก จำนวนนักท่องเที่ยวของประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างจีนคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความแข็งแกร่งของตลาดการท่องเที่ยวจีน ผนวกกับความต้องการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนจีน การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ประชากรที่สูงขึ้น และนโยบายการขยายห่วงโซ่อุปทานของจีนที่เกี่ยวข้องกับทั้งการท่องเที่ยวทางธุรกิจ

– มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศถึง 130 ล้านครั้ง และจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวต่างประเทศยอดนิยมในอนาคตจะยังเป็นการเดินทางระยะใกล้ จึงคาดว่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะฟื้นตัวได้เร็ว และนักท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวอย่างชัดเจน

– นอกจากนี้ ด้วยการพัฒนาของอินเทอร์เน็ต บริษัทนำเที่ยวประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่และ AI ทำให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวสามารถเข้าใจความต้องการและความชอบของนักท่องเที่ยวได้ดีมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การบริการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทนำเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวต้องให้ความใส่ใจต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมและประหยัดทรัพยากร ส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขียว การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนจะกลายเป็นทิศทางการพัฒนาที่สำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศในอนาคต

ความเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว

ตลาดการท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนทยอยฟื้นตัว และไทยยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีน ปัจจุบันการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวของจีนกับไทยกำลังนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยกลางคนและกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีแนวคิดการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่รักความอิสระ สามารถยืดหยุ่นเวลาการทำกิจกรรม แสวงหาการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการท่องเที่ยวที่พ่วงการเจรจาธุรกิจ และการซื้อสินค้าจากไทยไปขายในแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ของ MSMEs ในจีน ก็เป็นโอกาสของทั้งการท่องเที่ยวและการค้าของไทย อย่างไรก็ดีปัจจุบันยังคงมีการสร้างกระแสในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยว่าเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ในด้านต่าง ๆ ของไทยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของจีน ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์และทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวจีนได้ รวมถึงสามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดียชื่อดังในจีนในการประชาสัมพันธ์สินค้าบริการด้านการท่องเที่ยวโดยร่วมมือกับ KOL ท้องถิ่น เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนได้เร็วและหลากหลายกลุ่มยิ่งขึ้น

แหล่งที่มา :

https://www.chinairn.com/hyzx/20241212/105637580.shtml

https://www.chinairn.com/hyzx/20241212/150112504.shtml

https://www.ctaweb.org.cn/index.php?m=home&c=View&a=index&aid=9885

https://baijiahao.baidu.com/s?id=1792200876269809047&wfr=spider&for=pc

https://www.gov.cn/zhengce/jiedu/tujie/202408/content_6969249.htm

******************************

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว