ในที่สุดก็มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า Volkswagen (VW) จะส่งมอรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) รุ่นถัดไป ออกสู่ตลาดภายในปี 2028 โดยนาย Thomas Schäfer ผู้บริหารของ VW ออกมาเปิดเผยในงานฉลองครบรอบรถรุ่น Golf ที่เป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปรุ่นที่ขายดีที่สุดของ VW ว่า สายพานการผลิตรถ EV ที่ VW ได้มาตรฐานและกำลังจะออกรถรุ่นใหม่ในชื่อว่า Scalable Systems Platform (SSP) ซึ่ง “นี่ถือสถาปัตยกรรมใหม่ของเราและกำลังวางแผนจะเริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2028” โดยมีการกล่าวถึงสายพานการผลิตดังกล่าวครั้งสุดท้าย ในช่วงปลายทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนาย Schäfer ไม่ได้กล่าวว่า รถยนต์รุ่นไหนจะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ก่อน และมีความเป็นไปได้สูงที่ VW จะดำเนินการตามแผนการณ์ดังกล่าวได้จริง ซึ่งจากเอกสารภายในของ VW ที่หนังสือพิมพ์ Handelsblatt เปิดเผยออกมาว่า VW เร่งที่จะเริ่มต้นใช้งานสถาปัตยกรรม SSP ภายในปี 2028

 

อย่างไรก็ดี การออกมาประกาศในเรื่อง SSP มีความละเอียดอ่อน โดยหลังที่นาย Oliver Blume, CEO เข้ารับตำแหน่งฯ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 ได้ไม่นาน เขาก็ประกาศหยุดแผน SSP ของนาย Herbert Diess อดีต CEO ไว้ก่อน เนื่องจาก SSP ประสบปัญหาในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมาก ทำให้เกิดความล่าช้ากับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต หาก VW พลาดกำหนดเวลาสำหรับเทคโนโลยีนี้อีกครั้ง นาย Blume ที่อยู่ในตำแหน่ง CEO ก็ต้องประสบปัญหาที่ยากจะอธิบายได้ ซึ่งรวมถึงการอธิบายให้กับนักลงทุนด้วย ในช่วง12 เดือนที่ผ่านมา หุ้นของ Volkswagen เสียหายไปกว่า 7% โดยประมาณ บางครั้งหุ้นก็หลุดต่ำกว่าเกณฑ์ 100 ยูโรด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกัน VW ก็จำเป็นต้องทำการอัปเดตแพลตฟอร์มสายพานการผลิตรถ EV อีกด้วย เนื่องจากแพลตฟอร์มสายพานการผลิต EV ในปัจจุบันที่ VW ใช้ “แพลตฟอร์มสายพานการผลิตแบบแยกส่วน” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นปัจจุบันของ Volkswagen ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสายพานการผลิตที่ไม่สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้ตามที่ VW ต้องการ ในไตรมาสแรกของปี ยอดการส่งมอบรถ EV ของทั้งเครือ VW ลดลงเล็กน้อย ในช่วงสามเดือนแรกยอดจำหน่ายในยุโรปลดลง 24% ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา VW ต้องยกเลิกกะงานหรือ ส่งคนงานเข้าระบบการทำงานระยะสั้นที่โรงงานผลิตรถ EV ในเมือง Emden และเมือง Zwickau หลายต่อหลายครั้ง นอกจากนี้ภาคการเมืองที่วางแผนจะให้มีการสิ้นสุดในการใช้งานของเครื่องยนต์สันดาปในยุโรปก็เผชิญกับความสั่นคลอนครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากที่คำสั่งซื้อของ VW ที่เข้ามาในโรงงานได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้ทำให้ฝ่ายบริหารมั่นใจว่า จะสามารถเอาชนะ “สภาวะเงียบงัน” ของธุรกิจรถ EV ได้ในไม่ช้า โดย VW วางแผนที่นำเสนอตัวเลขยอดจำหน่ายใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกอีกครั้ง

 

Platform SSP ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้เป็นภายในเครือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มยานยนต์ทั้งหมด แพลตฟอร์มนี้จะช่วยลดการชาร์จพลังงานลงประมาณ 12 นาที และตอบสนองกับระบบการขับเคลื่อนยานยนต์อัตโนมัติในระดับ 4 (ในปัจจุบันสูงสุดอยู่ที่ระดับที่ 5) ซึ่งเป็นขั้นตอนสู่การขับขี่แบบอัตโนมัติเบื้องต้นแบบสมบูรณ์ โดยยานพาหนะสามารถโยกย้ายตนเองอย่างอิสระ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วว่า รถยนต์ยี่ห้อ VW, Audi และ Porsche จะใช้แพลตฟอร์มที่แตกต่างกันไป รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ VW จะใช้แพลตฟอร์มที่ SSP ของตัวเอง ในการวางแผนครั้งสุดท้ายในฤดูใบไม้ร่วงครั้งที่ผ่านมา Volkswagen กล่าวว่า รถยนต์รุ่น Prestige ในอดีตอย่างรุ่น “Trinity” ได้รับการวางแผนให้เป็นรถยนต์คันแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม SSP นี้ โดยวางแผนที่จะประกอบรถรุ่นดังกล่าวในเมือง Zwickau รัฐ Sachsen เดิมทีบริษัท Volkswagen ได้วางแผนที่จะสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเขต Warmenau ของเมือง Wolfsburg สำหรับรถยนต์รุ่นดังกล่าว แต่แผนเหล่านี้ถูกยกเลิกไปแล้วหลังจากที่นาย Blume, CEO และ นาย Schäfer ผู้บริหารยี่ห้อ VW ได้ร่วมกันปรับเปลี่ยนแนวคิดนี้ใหม่ทั้งหมด โดยแทนที่ Volkswagen จะส่งรถซีดานก่อนบริษัทก็เปลี่ยนมาผลิตรถ SUV ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติออกมาก่อนแทน นอกจากนี้รถยนต์รุ่น Golf เจเนอเรชันถัดไปจะเปรี่ยนมาใช้ระบบขัลเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และจะผลิตในโรงงานในเมือง Wolfsburg โดยใช้จะใช้แพลตฟอร์ม SSP เช่นกัน

 

จาก Handelsblatt 24 มิถุนายน 2567

en_USEnglish