ผู้ประกอบการสินค้ารังนกของเวียดนามมองเห็นศักยภาพที่ดีในการส่งออกรังนกไปยังตลาดจีน เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศจีนและชุมชนชาวจีนในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีการบริโภครังนกและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากรังนกประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทและกรมศุลกากรจีนได้ลงนามในระเบียบและข้อกำหนดสำหรับการตรวจสอบสินค้าและสุขอนามัยสำหรับสินค้ารังนกของเวียดนามที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายนปี 2565
ในจังหวัดที่ราบสูงตอนกลางของเวียดนาม ฟาร์มนกนางแอ่นได้ลงทะเบียนรหัสพื้นที่การผลิตและกรอกเอกสารที่เกี่ยวข้องตามระเบียบที่กำหนดไว้ นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังสนับสนุนผู้ประกอบการในการจดทะเบียน เพื่อส่งออกรังนกไปยังประเทศจีน
นาย เหงียน ญูง (Nguyen Dung) รองประธานสมาคมฟาร์มและผู้ประกอบการการเกษตรเวียดนามกล่าวว่า การที่จีนนำเข้ารังนกเวียดนามผ่านช่องทางการนำเข้าอย่างเป็นทางการ จะนำโอกาสมาให้กับอุตสาหกรรมรังนกในประเทศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การส่งออกไปยังประเทศจีนและประเทศที่มีชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า
ปัจจุบันรังนกถือเป็นหนึ่งในอาหารที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เพื่อให้ผู้ประกอบการพัฒนาในการผลิตมากขึ้น เกษตรกรผู้เลี้ยง นกนางแอ่นจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับบริษัทต่างๆ เพื่อขอรับใบรับรองระดับสากล ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ขายได้ราคาดี นอกจากนี้เกษตรกรและหน่วยงานในอุตสาหกรรมรังนกควรที่จะกระจายสินค้า เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคที่มีศักยภาพมากขึ้น
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเลี้ยงนกนางแอ่นได้พัฒนาอย่างมากใน 42 จังหวัดและเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ทางตอนใต้ ตอนกลางและที่ราบสูงตอนกลาง มีการติดตั้งบ้านนกนางแอ่นมากกว่า 23,600 แห่ง เวียดนามมีการผลิตรังนกประมาณ 200 ตัน และส่งออกมากกว่า 120 ตัน มูลค่า 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในแต่ละปี
นาย จั่น เฟือง ตวัน (Tran Phuong Tuan) ผู้อำนวยการบริษัทรังนกเวียดนาม (VinBirdnest) กล่าวว่า พิธีสารเกี่ยวกับการส่งออกรังนกเวียดนามไปยังจีนนำมาเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรม เนื่องจากจีนเป็นตลาดรังนกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อประเทศจีนเปิดตลาด อุตสาหกรรมรังนกของเวียดนามจะปรับโครงสร้างใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้และผลกำไรให้กับเกษตรกร ผู้เลี้ยงรังนกและผู้ประกอบการแปรรูป
หลังจากลงนามในระเบียบการ กระทรวงฯ ขอให้หน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องระบุแหล่งเลี้ยงรังนก กฎระเบียบเกี่ยวกับการตรวจสอบแหล่งกำเนิดและความปลอดภัยของอาหารภายใต้พิธีสารฯ นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังขอให้ผู้ประกอบการแปรรูปรังนกศึกษาและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ฝ่ายจีนกำหนดไว้เกี่ยวกับการจัดการสถานประกอบการเลี้ยงนกนางแอ่นและโรงงานแปรรูป เพื่อให้มั่นใจในการควบคุมโรค ความปลอดภัยของอาหาร และการตรวจสอบแหล่งกำเนิด สมาคมและผู้ประกอบการจำเป็นต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานและภาคท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและจัดโครงการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกและนิวคาสเซิล (Newcastle) ในนกนางแอ่น และแผนรักษาความปลอดภัยของอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์รังนก กระทรวงฯ จะมีกลยุทธ์และแผนพัฒนาอุตสาหกรรมรังนกของเวียดนามอย่างยั่งยืน โดยรักษาคุณภาพแบรนด์รังนกของเวียดนามและให้สอดคล้องตามข้อกำหนดของจีน รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพอื่นๆ
(จาก https://vietnamnews.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
จีนเป็นตลาดนำเข้ารังนกที่ใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 80 ของส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก การที่ประเทศจีนเปิดตลาด ช่วยให้อุตสาหกรรมรังนกของเวียดนามเพิ่มยอดขายและเพิ่มผลกำไรให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงรังนกและผู้ประกอบการแปรรูปเพิ่มมากขึ้น โดยเวียดนามมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยหลายประการสำหรับการเลี้ยงนกนางแอ่น อาทิเวียดนามมีชายฝั่งที่ติดทะเล เกาะ และอ่าว ผลิตภัณฑ์รังนกของเวียดนามจึงมีคุณภาพดี และเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวจีน นอกจากนี้ เวียดนามยังมีพรมแดนยาวร่วมกับจีน ซึ่งสะดวกสำหรับการค้าและการขนส่งสินค้าไปยังตลาดจีน จึงสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับสินค้าของเวียดนามเป็นอย่างมาก