7 เทคโนโลยีเปลี่ยนอุตสาหกรรม Foodservice ในสหรัฐอเมริกา
ในยุคสมัยที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีควบคู่กับความคาดหวังของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมด้านอาหาร (Foodservice) ทั่วโลกต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านอาหารตั้งแต่อุปกรณ์ทำอาหารที่ล้ำสมัยไปจนถึงการบริการลูกค้าด้วยระบบ AI เหล่านี้กำลังกำหนดนิยามใหม่ให้กับธุรกิจการให้บริการด้านอาหารทั่วโลก โดยสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Retail Federation: NRF) ได้ระบุ 7 เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรม Foodservice ในสหรัฐอเมริกา ไว้ดังนี้
- เครื่องครัวอัจฉริยะ (Advanced cooking equipment) นิยามใหม่ด้านประสิทธิภาพการ
ทำอาหาร ร้านค้าและธุรกิจที่ให้บริการอาหารกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง เครื่องครัวอัจฉริยะเข้ามามีส่วนช่วยให้การทำอาหารง่ายขึ้น เช่น ventless ovens หรือ เตาอบแบบไม่ต้องมีระบบระบายอากาศหรือควัน แต่มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการหมุนเวียนอากาศภายในตัวเตาอบ นวัตกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในครัวเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องคุณภาพอาหารและรสชาติที่คงที่ อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการปรุงอาหารให้สามารถส่งมอบบริการที่รวดเร็วให้กับลูกค้า
- Internet of Things (IoT) หรือ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง คือ หัวใจสำคัญของการดำเนินงานบริการ
ในธุรกิจอาหาร IoT หมายถึงเครือข่ายรวมของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อถึงกันหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต เป็นอีกหนึ่งรากฐานที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจบริการอาหารยุคใหม่ การใช้เทคโนโลยี IoT ช่วยในเรื่องของการตรวจสอบข้อมูล การจัดการอุปกรณ์ภายในครัว ความปลอดภัยทางอาหาร การบำรุงรักษาอุปกรณ์ และการจัดเก็บสินค้าได้แบบเรียลไทม์ เป็นต้น
กล่าวได้ว่า เทคโนโลยี IoT นี้นำไปสู่การประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างมาก ซึ่งนอกเหนือจากธุรกิจบริการอาหารแล้ว ธุรกิจร้านค้าปลีก ยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ IoT กำลังเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การดูแลลูกค้า การติดตามควบคุมคลังสินค้า จนไปถึงระบบการติดตามและประมวลผลพฤติกรรมลูกค้า ให้การบริหารจัดการมีความคล่องตัวมากขึ้น
- เทคโนโลยี AI ในการสื่อสารกับลูกค้า เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามาปฏิวัติธุรกิจร้านอาหารและร้านค้า
ปลีก ในเรื่องของการมอบบริการที่ดีและการสร้างความประทับใจต่อลูกค้า โดยร้านค้าสามารถใช้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI เหล่านี้เพื่อให้บริการในเรื่องของการสื่อสารกับลูกค้าได้หลายภาษาแบบเรียลไทม์ และสามารถแนะนำสินค้าที่เหมาะสมเฉพาะตัวบุคคลและช่วยในเรื่องของกระบวนการสั่งซื้อที่มีประสิทธิภาพทั้งต่อหน้าและทางออนไลน์ ซึ่งการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล จะช่วยยกระดับประสบการณ์ และสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างแบรนด์และลูกค้า
- เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision AI) ระบบอัจฉริยะของร้านค้า ที่ช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านบริการอาหาร โดยการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์วิทัศน์เข้ากับกล้องวงจรปิดของร้านค้า ทำให้สามารถคำนวณสถิติต่างๆ อาทิ การสนทนาระหว่างลูกค้ากับพนักงานในร้าน การสั่งสินค้ามีเปอร์เซ็นต์เท่าใด การตรวจสอบอุณหภูมิภายในร้าน การจัดการคลังสินค้า และการวิเคราะห์การเข้าออกของลูกค้า และยังสามารถช่วยกำหนดจำนวนพนักงานที่ประจำร้านว่าควรมีมากน้อยแค่ไหน เหล่านี้ ล้วนเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ร้านค้าสามารถนำข้อมูลไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านอาหารของตนได้
- ยุคของระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีที่ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติที่เห็นได้บ่อยในร้านค้าปลีกที่มี
การจำหน่ายหรือบริการด้านอาหาร อย่างระบบการชำระเงินด้วยตนเอง ระบบการช่างน้ำหนักของอาหารและระบบการแบ่งสัดส่วนของปริมาณอาหาร เทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงานด้านบริการอาหารที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับลูกค้าและสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เข้าสู่การดำเนินการแบบอัตโนมัตินี้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการประสบการณ์การช็อปปิ้งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) วิถีชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในทุกวันนี้ มีความเร่งรีบ มีกิจกรรมมากมายต่อวัน ดังนั้น การมอบบริการที่ครบวงจรจบในที่เดียวยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ โดยที่ผ่านมานอกจากร้านค้าปลีกจะมีการผนวกบริการจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและของสดภายในร้านแล้ว ในอนาคตผู้บริโภคจะได้เห็นตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่จำหน่ายอาหารสำเร็จรูป และสลัดหรือของสดมากขึ้น เหล่านี้เป็นการนำเสนอทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการบริโภคอาหารที่สะอาด สะดวกและรวดเร็ว
การนำเทคโนโลยีจำหน่ายสินค้าผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัตินี้มาใช้ ร้านค้าสามารถเจาะกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถให้บริการอาหารได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง นอกเวลาทำการปกติของร้านค้า หรือจำหน่ายในช่วงเวลาทำการปกติโดยสามารถลดจำนวนพนักงานลงได้
- เทคโนโลยี Drive-thru จากธุรกิจด้านอาหารสู่ร้านค้าปลีก อุตสาหกรรมบริการด้านอาหารเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบบ Drive-thru มาโดยตลอด เทคโนโลยี Drive-thru คือการติดตั้งบอร์ดสั่งอาหาร รวมทั้งระบบการสั่งอาหารและบริการแปลภาษา ที่ลูกค้าสามารถขับรถผ่านช่องสั่งอาหาร เหล่านี้ทำให้การสั่งอาหารผ่าน Drive-thru ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยลูกค้าไม่ต้องลงจากรถ มีความคล่องตัวของการจราจร ส่งผลให้ปัจจุบันร้านค้าปลีกกำลังพัฒนาและหาวิธีนำระบบการสั่งซื้อแบบ Drive-thru เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าโดยรวม
ความคิดเห็นของสคต. นิวยอร์ก
ในปัจจุบันความครบวงจรและความหลากหลายของสินค้า รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจร้านค้าปลีกและธุรกิจบริการอาหาร การนำระบบเทคโนโลยียุคใหม่มาปรับใช้เพื่อให้เข้ากับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงและพัฒนาสินค้าให้ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งเสมอ
ข้อมูลอ้างอิงจาก:
https://nrf.com/blog/7-ways-foodservice-technologies-are-redefining-tomorrows-retail-experience
สคต. นิวยอร์ก เดือนมกราคม 2567