เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ผู้บริหารห้าง 99 Cents Only Store ร้านค้าปลีกสินค้าราคาประหยัดซึ่งก่อตั้งในปี 2525 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และประกอบธุรกิจจําหน่ายสินค้าราคาถูกในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา เนวาดา และเท็กซัส และมีพนักงานประมาณ 14,000 คน ประกาศจะปิดร้านค้าในเครืองทั้งหมดรวม 371 สาขา และแจ้งว่าบริษัทยืนคําร้องขอล้มละลาย Chapter 11 ในนรัฐเดลาแวร์และ ในเอกสารดังกล่าวแสดงรายการทรัพย์สินรวมและหนี้สินรวมมูลค่าใกล้เคียงกัน บริษัท 99 Cents Only สามารถจัดหาเงินทุนจํานวน 60.8 ล้านเหรียญฯ เพื่อใช้ในการยุติการดําเนินงานและขายอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นๆของบริษัทให้ได้รายได้มากที่สุดเพื่อชําระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ตามลําดับความสําคัญ ผู้บริหารให้เหตุผลหลายประการที่ทําให้บริษัทต้องเลิก กิจการ เช่น ผลกระทบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของการระบาดใหญ่ของโควิด- 19 ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แรงกดดันอย่างต่อเนื่องของ อัตราเงินเฟ้อ และการสูญเสียสินค้าคงคลังที่เกิดจากเหตุผลต่างๆ เช่น การ ขโมยสินค้าในร้านของลูกค้า การขโมยสินค้าของพนักงาน รวมถึงข้อผิดพลาด ในการบริหารกิจการ

 

การยื่นขอล้มละลายของห้าง 99 Cents Only เป็นสัญญานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกแบบ ดั้งเดิมจํานวนมาก ยังคงต้องพยายาอย่างหนักที่จะต่อสู้กับการแข่งขันจากร้านค้าออนไลน์ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของ
ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งร้านค้าปลีกอุปกรณ์ศิลปะและงานฝีมือ JOANN Inc. ก็ยื่นขอความคุ้มครอง Chapter 11 ในเดือนมีนาคม 2567 เช่นกัน เพื่อปรับ โครงสร้างหนี้ ในขณะที่ร้าน Rite Aid Corp. ก็เพิ่งประกาศการเจรจาข้อตกลง กับเจ้าหนี้เพื่อช่วยบริษัทให้พ้นจากการยกเลิกกิจการ

 

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านเครดิต Moody’s Investors Service รายงานว่า บริษัท 99 Cents Only พยายามอย่างหนักที่จะต่อสู้กับการขาดทุนติดต่อกันมานานหลายปี โดย มีการทําข้อตกลงขาย และคืนการเช่าหลายแห่งเพื่อเป็นการลดต้นทุนของบริษัท อย่างไรก็ดีอัตรา เงินเฟ้อในปัจจุบันก็ยังคงกดดันฐานลูกค้าหลักของบริษัทอย่างต่อเนื่อง Moody’s จึงตัดสินใจ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท 99 Cents Only จาก Caa2 เมื่อปี 2564 เป็น Caa3 ใน เดือนพฤศจิกายน 2566 (Caa3 = คุณภาพต่ําและมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงมาก)

 

การประกาศยกเลิกกิจการของ 99 Cents Only เกิดขึ้นหลังจากร้าน Dollar Tree (บริษัทบริหารร้านค้าสินค้าราคาประหยัดภายใต้แบรนด์ Dollar Tree, Family Dollar และ Dollar Tree Canada รวม 16,774 สาขา) ประกาศ ในเดือนมีนาคมว่าจะปิดร้านค้า Family Dollar ในเครือประมาณ 600 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ และจะปิดร้านภายใต้แบรนด์ Dollar Tree & Family Dollar เพ่ิม อีก 400 สาขาภายในไม่กี่ปีข้างหน้าเมื่อสัญญาเช่าสถานที่หมดอายุลง อย่างไรก็ตามการปิดร้านค้าดังกล่าวคิดเป็นปริมาณ เพียงร้อยละ 6 ของจํานวนร้านค้าทั้งหมดในเครือ บริษัทกําหนดเป้าหมายการปิดไป ยังสาขาที่ไมท่ํากําไรและสาขาที่บริษัทคิดว่าจะไม่มีอานคตในระยะยาว

 

ข้อมูลเพิ่มเติม และข้อคิดเห็น สคต.ลอสแอนเจลิส

ปัจจัยที่ทําให้ร้านค้าสินค้าราคาประหยัดจํานวนมากต้องปิดตัวลง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ร้านค้าสินค้าราคาประหยัดต่างได้รับผลกระทบ จากอัตราเงินเฟ้อ การลดสวัสดิการของรัฐบาลต่อโครงการความช่วยเหลือด้านโภชนาการเสริม (Supplemental Nutrition Assistance Program – SNAP) และการสูญเสียสินค้าคงคลัง นอกจากนี้ยังมีปัญหาการบริหารงานที่ผิดพลาดในสาขา เช่น เมื่อสิงหาคมปีที่แล้วหน่วยงาน Occupational Safety & Health Administration (OSHA) ของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯมีข้อตกลง (Corporate-Wide Settlement Agreement) กับ Dollar Tree & Family Dollar โดยบริษัทต้องจัดทําการประเมินสาเหตุที่แท้จริงของการละเมิดที่ OSHA ได้พบและเตือนร้านค้าในเครือ และมีการจัดทําแผนระบุสาเหตุและ ปรับปรุงวิธีดําเนินการเพื่อแก้ไขภายในระยะเวลา 2 ปี ในระหว่างนี้เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการปรับปรุงร้าน เพื่อไม่ให้มีการกีดขวางทางออกฉุกเฉิน การ เข้าถึงถัง/อุปกรณ์ดับเพลิงและแผงวงจรไฟฟ้า รวมถึงการจัดเก็บวัดสุดที่ไม่เหมาะสมในร้านค้าทั่วประเทศ บริษัทจะต้อง ดําเนินการแก้ไขอันตรายเหล่านี้ภายใน 48 ชั่วโมงนับจากการแจ้งของ OSHA และจะต้องส่งหลักฐานยืนยันว่ามีการแก้ไข อันตรายแล้ว หากไม่ปฏิบัติตามบริษัทจะถูกปรับสูงถึงวันละ 100,000 เหรียญฯ (ไม่เกิน 500,000 เหรียญฯ) นอกจากนี้บริษัท ยังตกลงจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1,350,000 เหรียญฯเพื่อยุติข้อโต้แย้งดังกล่าว และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Family Dollar ตกลงที่จะยอมจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 41.6 ล้านเหรียญฯ หลังจากสารภาพผิดว่ามีการจัดเก็บสินค้าอุปโภคบริโภค (อาหาร, ยา, เคร่ืองสําอาง และอุปกรณ์ทางการแพทย์) ในโกดังที่ตรวจพบหนู

 

สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลสิ เมษายน 2567

หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทําและนําเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สํานักงานส่งเสริม การค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นํามารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เน่ืองจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนําข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้ึนอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนําข้อมูลเหล่านี้ไ ปใช้

 

en_USEnglish