ปัจจุบัน ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคของเวียดนาม (สินค้า Fast-moving consumer goods หรือ FMCG) มีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และมีแนวโน้มเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต
ตลาดสินค้า FMCG ของเวียดนามมีศักยภาพมากมาย
ตามรายงานของสํานักงานสถิติทั่วไป ยอดขายปลีกสินค้าทั้งหมดของเวียดนามมูลค่ารวม 180,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นสินค้า FMCG ผู้เชี่ยวชาญ Dinh Trong Thinh กล่าวว่าการเติบโตของสินค้า FMCG นั้นมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและรายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสินค้าต่าง ๆ มากขึ้น ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานไปจนถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
สินค้า FMCG เป็นสินค้าประเภทหนึ่งที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากการเติบโตของผู้บริโภครุ่นใหม่แล้ว ผู้สูงอายุหรือประชากรที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปในเวียดนามมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความต้องการบริโภคของผู้บริโภควัยกลางคนและผู้สูงอายุก็จึงเปลี่ยนไปเช่นกัน ผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวมีความต้องการสินค้าอุปโภคและบริโภคเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ความต้องการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และการส่งสินค้าถึงบ้านยังนําความสะดวกให้กับผู้บริโภค และยังเป็นปัจจัยที่ได้เปรียบที่ช่วยให้อุตสาหกรรมสินค้า FMCG เข้าถึงลูกค้าแต่ละรายเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเป็น มิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สินค้า FMCG จึงต้องตอบสนองด้านคุณภาพความปลอดภัยของอาหาร สุขอนามัยสิ่งแวดล้อม และลดขยะที่เกิดจากผลิตภัณฑ์
มุ่งสู่การบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากมุมมองของธุรกิจในอุตสาหกรรมสินค้า FMCG ที่กำลังมุ่งสู่แนวโน้มสีเขียว คุณ Shimada Shigeru หัวหน้าสํานักงานผู้อํานวยการทั่วไปของบริษัท Acecook Vietnam Joint Stock Company กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดําเนินการเชิงปฏิบัติหลายประการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และลดขยะพลาสติก การดําเนินการที่โดดเด่น ได้แก่ ทีม R&D ที่วิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนถ้วยบรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากถ้วยพลาสติกเป็นถ้วยกระดาษหรือถ้วยห่อกระดาษเปลี่ยนส้อมพลาสติก PP เป็นส้อมพลาสติกชีวภาพ ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ยังคงเท่าเดิม
รายงานแนวโน้มอุตสาหกรรม FMCG ของเวียดนามในปี 2567 ของบริษัท Kantar แสดงให้เห็นว่า ในปี 2567 อุตสาหกรรม FMCG ของเวียดนามจะมีศักยภาพมากมาย โดยมีแนวโน้มการฟื้นตัวและเติบโต อย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นอกจากโอกาสแล้ว ยังมีอุปสรรคและความท้าทายมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคในระยะสั้นอีกด้วย
แบรนด์และธุรกิจต่าง ๆ จําเป็นต้องติดตามความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจท้องถิ่น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของประชากรและแนวโน้มผู้บริโภค เพื่อปรับตัวได้อย่างยืดหยุ่นให้เข้ากับความท้าทายในระยะสั้น และสร้างกลยุทธ์ในระยะยาวได้
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร. Vu Trong Hong กล่าวว่า มีอุปสรรคหลัก 3 ประการสําหรับธุรกิจเวียดนามในกระบวนการเปลี่ยนไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ 1) แหล่งที่มาของเงินทุนไม่เพียงพอ 2) หากต้องการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ต้องพัฒนาด้านโลจิสติกส์ ภายในหลายภูมิภาคของเวียดนาม และ 3) ผู้บริโภคเวียดนามนิยมรับข่าวสารทางออนไลน์
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจต้องมีฉลากสีเขียวที่รับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงจะเข้าสู่ทั้งตลาดเวียดนามและตลาดต่างประเทศได้อย่างง่ายดาย ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ
(แหล่งที่มา https://english.haiquanonline.com.vn/ ฉบับวันที่ 21 กรกฎาคม 2567)
วิเคราะห์ผลกระทบ
ศักยภาพของอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคในเวียดนามมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจเวียดนาม และการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัว ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคเวียดนามมีแนวโน้มให้ความสำคัญผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นนี้ได้กระตุ้นให้ผู้ผลิตลงทุนในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างแบรนด์สีเขียวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
นำเสนอโอกาส/แนวทาง
กระแสการบริโภคสินค้า FMCG ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นกระแสในกลุ่มธุรกิจในเวียดนาม สินค้าและบริการที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการนำสินค้า FMCG เข้ามาในตลาดเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากสินค้าไทยได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคเวียดนามว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี มีความปลอดภัย และมีราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ผู้ส่งออกสินค้า FMCG ที่ต้องการเข้ามาจำหน่ายในตลาดเวียดนามควรคำนึงถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบรับกระแสการให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคเวียดนามดังกล่าว