ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี

แม้ว่ายอดขายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2568 แต่การขู่ขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์อาจส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีเกิดความปั่นป่วนได้ รายงานฉบับใหม่จากสมาคมเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค Consumer Technology Association (CTA) และบริษัท Trade Partnership Worldwide LLC (TPW) ระบุว่าภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บจากการนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีต่างประเทศมายังสหรัฐฯ นั้น อาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน

รายงานฉบับนี้ได้ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบนโยบายการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะส่งผลผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค 10 รายการ คือ แล็ปท็อปและแท็บเล็ต สมาร์ตโฟน เครื่องเล่นวิดีโอเกม คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ ลำโพงและหูฟัง โทรทัศน์ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน อุปกรณ์เชื่อมต่อ และอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ ผ่านการตั้งสมมติฐาน 2 กรณี
1. กรณีการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรเพิ่มอย่างน้อยร้อยละ 10 จากทั่วโลกและกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบคงที่เพิ่มเติมอีกร้อยละ 60 นอกเหนือจากอัตราภาษีเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีน หรือเรียกว่ากรณี 10%/70%
2. กรณีการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรเพิ่มอย่างน้อยร้อยละ 20 จากทั่วโลกและกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแบบคงที่เพิ่มเติมร้อยละ 100 สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากจีนทั้งหมด หรือเรียกว่ากรณี 20%/120%

จากการศึกษาของ Trade Partnership Worldwide LLC (TPW)  นี้พบว่าการปรับขึ้นภาษีศุลกากรนี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อต้นทุนของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ 6 ใน 10 รายการที่ทำการศึกษา มีอัตราภาษีศุลกากรอยู่ที่ 0 หรือต่ำกว่าร้อยละ 1 ได้แก่ สมาร์ตโฟน วิดีโอเกม แล็ปท็อปและแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ และหูฟัง ส่วนผลิตภัณฑ์อีก 3 รายการในการศึกษานี้ มีอัตราภาษีศุลกากรปัจจุบันต่ำกว่าร้อยละ 2 ได้แก่ อุปกรณ์เชื่อมต่อ อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ ทีวี โดยมีเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเท่านั้นที่มีอัตราภาษีศุลกากรปัจจุบันที่ร้อยละ5
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
ทั้งนี้ ภายใต้อัตราภาษีศุลกากรที่ทรัมป์กำหนดใหม่ในกรณี 10%/70% จะทำให้อัตราภาษีศุลกากรพุ่งถึง 2 หลักและใน 5 กรณีจะสูงเกินร้อยละ 50 ซึ่งภาษีจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในผลิตภัณฑ์ที่จีนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่และมีทางเลือกในการจัดหาผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่ช่องทาง ตัวอย่างเช่น ในปี 2566 สหรัฐฯ นำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมจากจีนถึงร้อยละ 87 ของการนำเข้าทั้งหมด หรือในกรณีการนำเข้าจอมอนิเตอร์ของสหรัฐฯ มาจากจีนเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของการนำเข้าทั้งหมด
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
จากการศึกษาในสมมุติฐานของกรณีการขึ้นภาษี 10%/70% คาดการณ์ว่าผลกระทบต่อผู้บริโภค ดังนี้
1. แล็ปท็อปและแท็บเล็ต
ภาษีศุลกากรของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตจะถูกเก็บที่ร้อยละ 57.3 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ สำหรับแล็ปท็อปและแท็บเล็ตอยู่ที่ร้อยละ 0 และสหรัฐฯนำเข้าแล็ป-
ท็อปและแท็บเล็ตจากจีนถึงร้อยละ 79 ของการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
การผลิตแล็ปท็อปและแท็บเล็ตภายในสหรัฐฯ เพื่อชดเชยการนำเข้าที่หายไปมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น ราคาของแล็ปท็อปและแท็บเล็ตอาจเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45 หรือราคาแล็ปท็อปโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 357 เหรียญสหรัฐจากราคาขายปลีก และราคาแท็บเล็ตโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 201 เหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคสำหรับสินค้าเหล่านี้ลดลงร้อยละ 54.2 และผู้บริโภคจะสูญเสียอำนาจในการซื้อถึง 3.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยรวมแล้ว ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าผู้บริโภคต้องแบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
2. สมาร์ตโฟน
ภาษีนำเข้าของสมาร์ตโฟนจะถูกเก็บที่ร้อยละ 57 และเช่นเดียวกันกับแล็ปท็อปและแท็บเล็ต ในปัจจุบันการนำเข้าสมาร์ตโฟนมายังสหรัฐฯ นั้นปลอดภาษี สหรัฐฯนำเข้าสมาร์ตโฟนมาจากจีนถึงร้อยละ 79 ของการนำเข้าสมาร์ตโฟนทั้งหมด และการนำเข้าเหล่านี้อาจจะต้องเสียภาษีนำเข้าที่กำหนดใหม่ถึงร้อยละ 70
ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 213 เหรียญสหรัฐ จากราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน ผลจากภาษีที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดการซื้อโดยรวมลงร้อยละ 43.7 และสูญเสียอำนาจในการซื้อไป 2.56 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
3. อุปกรณ์เชื่อมต่อ
อุปกรณ์เชื่อมต่อ รวมไปถึงสินค้าที่ผู้บริโภคใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และเข้าถึงเว็บไซต์ เช่น เครื่องติดตามการออกกำลังกาย หูฟังบลูทูธไร้สาย นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ และลำโพงอัจฉริยะ เป็นต้น แม้ว่าการนำเข้าอุปกรณ์เชื่อมต่อส่วนใหญ่จะปลอดภาษี แต่อัตราภาษีโดยเฉลี่ยในปัจจุบันจะอยู่ที่ร้อยละ 1.5 เนื่องมาจากภาษีนำเข้าตามมาตรา 301 สำหรับสินค้าที่นำเข้ามายังสหรัฐฯจากจีน ข้อเสนอภาษีของทรัมป์จะเพิ่มอัตราภาษีเป็นร้อยละ 20.7 ทั้งนี้ สหรัฐฯ นำเข้าสินค้านี้จากจีนนั้นคิดเป็นร้อยละ 15 ของการนำเข้าอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหมด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าที่มาจากจีนที่ร้อยละ 70 ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น และการนำเข้าจากจีนจะลดลง ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ก็จะได้รับกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ราคาของอุปกรณ์เชื่อมต่อเหล่านี้เพิ่มขึ้นโดยรวมร้อยละ 10.2 และผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดการซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อลงร้อยละ 18.1 ราคาที่สูงขึ้นของสินค้าที่ผู้บริโภคยังคงซื้อต่อไปทำให้กำลังซื้อของครัวเรือนลดลง 7.9 พันล้านเหรียญสหรัฐภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
4. เครื่องเล่นวิดีโอเกม
การขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมมายังสหรัฐฯ ของทรัมป์จะทำให้ต้นทุนของเครื่องเล่นวิดีโอเกมสูงขึ้นอย่างมาก การนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมในปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษี แต่อาจจะมีการกำหนดภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 62.1 ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯนำเข้าเครื่องเล่นวิดีโอเกมจากจีนถึงร้อยละ 87
ตามข้อมูลของ TPW ราคาเครื่องเล่นวิดีโอเกมในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.9 หรือเพิ่มขึ้น 246 เหรียญสหรัฐจากราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของเครื่องเล่นวิดีโอเกมในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการซื้อเครื่องเล่นวิดีโอเกม และจะลดการซื้อโดยรวมลงร้อยละ 56.8 โดยรวมอาจทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผู้บริโภคต้องแบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
5. อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์
สินค้าเทคโนโลยีประเภทนี้ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ เครื่องสแกน แฟกซ์ คีย์บอร์ด เมาส์ แทร็กแพด ปากกาสไตลัส อุปกรณ์เชื่อมต่อUSB และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันอัตราภาษีของสินค้าประเภทนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.5 โดยการเพิ่มภาษีนำเข้านี้จะทำให้อัตราภาษีโดยเฉลี่ยสูงขึ้นเป็นร้อยละ 23 ทั้งนี้ สหรัฐฯนำเข้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์จากจีนร้อยละ 19 ของการนำเข้าสินค้าประเภทนี้ทั้งหมด ดังนั้นอัตราภาษีใหม่จะมีผลมากขึ้นกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆ การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่นำเข้าจากจีนจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 97.9 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 25.3 โดยในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะมีการผลิตเพิ่มเพียงร้อยละ 3.9
ราคาของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะลดการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ลงร้อยละ 22.8 เช่น ราคาเฉลี่ยของเครื่องพิมพ์อยู่ที่ 234 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะทำให้ราคาเครื่องพิมพ์สูงขึ้นถึง 25 เหรียญสหรัฐ ต้นทุนที่สูงขึ้นของอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการซื้อลดลง 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การสูญเสียอำนาจในการซื้อดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปตราบที่ภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นยังคงมีผลบังคับใช้ แม้จะคำนึงถึงผลกำไรของผู้ผลิตและรายได้จากภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นสำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว การสูญเสียของผู้บริโภคก็ยังสูงมากจนทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ สูญเสียรายได้ถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้แบกรับภาระส่วนใหญ่ไป
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
6.จอมอนิเตอร์
ภาษีนำเข้าที่กำหนดใหม่ของจอมอนิเตอร์ในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 50.7 ปัจจุบันสัดส่วน 2 ใน 3 การนำเข้าจอมอนิเตอร์ของสหรัฐฯมาจากจีน ดังนั้นภาษีที่เพิ่มขึ้นจะตกอยู่ที่สินค้าเหล่านี้ การนำเข้าจอมอนิเตอร์จากจีนมายังสหรัฐฯจะลดลงร้อยละ 80 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 44.3 ในขณะที่การผลิตในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 10 ซึ่งไม่เพียงพอที่จะป้องกันการขึ้นราคาสำหรับผู้บริโภค ราคาจอมอนิเตอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.2 ซึ่งราคาจอมอนิเตอร์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 349 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาสูงขึ้นจอละ 109 เหรียญสหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคเสียอำนาจในการซื้อถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มจากผู้ผลิตและจากการจัดเก็บภาษี แต่ผู้บริโภคจะสูญเสียอำนาจในการซื้อจำนวนมากและความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
7.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
อัตราภาษีนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 11.3 สหรัฐฯนำเข้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจากจีนคิดเป็นเพียงร้อยละ2 ของการนำเข้าทั้งหมด ดังนั้นภาษีนำเข้าใหม่ที่ร้อยละ 10 นี้จะตกอยู่ที่คอมพิวเตอร์ที่มาจากแหล่งนำเข้าประเทศอื่น โดยส่วนใหญ่มาจากเม็กซิโก
โดยรวมแล้ว ราคาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯจะลดการซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะลงถึงร้อยละ 14 จากการตรวจสอบราคาของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 11 โมเดล พบว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,193 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสูงขึ้นเครื่องละ 74 เหรียญสหรัฐ ราคาที่เพิ่มขึ้นนี้จะทำให้ผู้บริโภคเสียอำนาจในการซื้อถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
8. โทรทัศน์
อัตราภาษีนำเข้าโทรทัศน์โดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.6 โดยภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 17.5 สหรัฐฯนำเข้าโทรทัศน์จากจีนเพียงเล็กน้อย ดังนั้นภาษีใหม่ที่ร้อยละ 10 นี้อาจจะถูกเรียกเก็บจากการนำเข้าโทรทัศน์จากแหล่งนำเข้าประเทศอื่น การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับโทรทัศน์ที่นำเข้าจากจีนจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 89.7 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 15.7 ในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มการผลิตเพียงร้อยละ 1.5
ภาษีนำเข้าจะมีผลกระทบทางลบต่อชาวอเมริกันที่ต้องซื้อโทรทัศน์ในราคาที่สูงขึ้น ราคาโทรทัศน์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากการตรวจสอบราคาปัจจุบันของโทรทัศน์จากหลายช่องทางพบว่าราคาโทรทัศน์เฉลี่ยอยู่ที่เครื่องละ 528 เหรียญสหรัฐ ภาษีนำเข้าจะทำให้ราคาโทรทัศน์สูงขึ้นเครื่องละ 48 เหรียญสหรัฐ ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันลดการซื้อโทรทัศน์ลงร้อยละ 16.3
แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะมีรายได้เพิ่มจากผู้ผลิตและจากการจัดเก็บภาษี แต่การสูญเสียอำนาจในการซื้อของผู้บริโภคนั้นสูงมาก ซึ่งทำให้ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ที่ 171 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
9. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
อัตราภาษีนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 50.5 สหรัฐฯนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมากกว่าครึ่งหนึ่งจากจีน ดังนั้นภาษีนำเข้าใหม่จะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อสินค้าที่มาจากจีนและประเทศอื่นๆ การนำเข้าแบตเตอรี่จากจีนจะลงร้อยละ 97.7 และการนำเข้าทั้งหมดจะลดลงร้อยละ 54.4 ผู้ผลิตในสหรัฐฯจะเพิ่มการผลิตที่ร้อยละ 10
ราคาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ผู้บริโภคชาวอเมริกันลดการซื้อลงร้อยละ 25 อัตราภาษีนำเข้าใหม่จะทำให้ราคาแบตเตอรี่สูงขึ้นถึง 29 เหรียญสหรัฐ เป็นการบังคับให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อแบตเตอรี่ต่อไป
           ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี
10.ลำโพงและหูฟัง
การเก็บภาษีนำเข้าใหม่จะสร้างผลกระทบทางลบต่อผู้บริโภค อัตราภาษีนำเข้าลำโพงและหูฟังโดยเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ภาษีนำเข้าที่จะถูกกำหนดใหม่จะเพิ่มค่าเฉลี่ยขึ้นถึงร้อยละ 39.4 สหรัฐฯนำเข้าลำโพงและหูฟังจำนวนครึ่งหนึ่งจากจีน ดังนั้นภาษีใหม่จะถูกเรียกเก็บจากสินค้าที่มาจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน
การกำหนดภาษีที่สูงขึ้นสำหรับลำโพงและหูฟังที่นำเข้าจากจีนนั้นจะทำให้การนำเข้าจากจีนลดลงร้อยละ 97.5 และการนำเข้าโดยรวมจะลดลงร้อยละ 36.8 ในส่วนของผู้ผลิตในสหรัฐฯ นั้นจะเพิ่มการผลิตร้อยละ 11.1
อัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคด้วยราคาลำโพงและหูฟังที่แพงขึ้น โดยราคาของลำโพงและหูฟังจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 ราคาของเฉลี่ยของลำโพงอยู่ที่ 270 เหรียญสหรัฐ และ ราคาเฉลี่ยของหูฟังอยู่ที่ 21 เหรียญสหรัฐ การกำหนดอัตราภาษีใหม่จะทำให้ราคาลำโพงเพิ่มขึ้น 29 เหรียญสหรัฐ และราคาหูฟังเพิ่มขึ้นอีก 2 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ผู้บริโภคจะลดปริมาณการซื้อลงร้อยละ 22.7
ภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี

ผลกระทบโดยประมาณต่อผู้บริโภคจากอัตราภาษีที่เสนอ: สถานการณ์ 20%/120%
ผลกระทบของการเพิ่มภาษีศุลกากรในกรณี 20%/120% นี้จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก หากพิจารณาจากระดับและรูปแบบการค้าในปัจจุบัน ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของเครื่องเล่นวิดีโอเกมซึ่งปัจจุบันปลอดภาษี จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 107 ภาษีศุลกากรเฉลี่ยของแล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรใดๆ จะอยู่ที่เกือบร้อยละ 100 ภาษีศุลกากรของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไม่ใช้ไฟฟ้าและจอมอนิเตอร์ ซึ่งปัจจุบันต้องเสียภาษีศุลกากรต่ำ จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 80 ถึงร้อยละ 90
สรุป
อัตราภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้าเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลต่อผู้บริโภคในตลาดสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดยจากการศึกษาของ TPW พบว่าภาษีนำเข้าจะสูงขึ้นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้าจากผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่จีนเป็นผู้ส่งออกหลักมายังสหรัฐฯ และไม่เพียงแต่จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยสำหรับสินค้าจากทุกประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างภาระหนักให้กับผู้บริโภคชาวอเมริกันอีกด้วย โดยจะเป็นการลดอำนาจการซื้อของผู้บริโภคลง ระหว่าง 9 หมื่นล้านถึง 1.43 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ถึงแม้จะมีแหล่งนำเข้าอื่นๆ และฐานการผลิตใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ก็ตาม อัตราภาษีศุลกากรที่จะถูกเก็บนี้จะส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ เช่น แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน และวิดีโอเกมเพิ่มขึ้นอย่างมาก การขึ้นราคาดังกล่าวจะลดยอดการซื้อโดยรวมลงและส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องแบกรับภาระภาษีเหล่านี้
ข้อมูลอ้างอิง: Consumer Technology Association (CTA)
en_USEnglish