ยอดขายรถจักรยานยนต์ในอินโดนีเซียช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 มีจำนวน 6,236,992 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.44 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของสมาคมอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์แห่งอินโดนีเซีย (AISI) ในปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายอยู่ในช่วง 6.1 ล้านถึง 6.2 ล้านคัน
“โดยรวมแล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น แต่อยู่ในเกณฑ์ที่ผู้บริโภคยอมรับได้” Sigit Kumala หัวหน้าฝ่ายพาณิชย์ของ AISI กล่าว ด้วยกำลังซื้อในเกณฑ์ดี ประกอบกับการจัดบริการสินเชื่อและการสนับสนุนจากลีสซิ่ง รถจักรยานยนต์จึงเป็นอุตสาหกรรมที่ยังคงเติบโต” เขากล่าว
ในปี 2567 AISI มองในแง่ดียอดขายรถจักรยานยนต์จะเติบโตต่อเนื่อง ปัจจัยหนึ่งคือการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สม่ำเสมอที่ระดับร้อยละ 5 รวมถึง แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศ “ปีนี้เราตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6.2 ล้านถึง 6.5 ล้านคัน ซี่งถือเป็นจำนวนที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา และหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงในไตรมาสที่สองของปี 2024 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกในการเพิ่มยอดขาย”
สถิติการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของอินโดนีเซีย กลับสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดโรคระบาดซึ่งอยู่ที่ระดับ 6 ล้านคันต่อปี โดยครั้งสุดท้ายที่ยอดขายในประเทศแตะ 6.4 ล้านคัน คือในปี 2562 จากนั้นยอดขายก็ลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2563 เหลือเพียง 3.6 ล้านเครื่องต่อปี
วิเคราะห์ผลกระทบ โอกาส/แนวทางการปรับตัวของภาครัฐ/ภาคเอกชน/ผู้ประกอบการไทย
ยอดขายรถจักรยานยนต์ในอินโดนีเซียทั้งปี 2566 อยู่ที่ 6,236,992 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 19.44 และคาดว่าในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 ล้านคัน อินโดนีเซียจึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจยานยนต์และอะไหล่ของไทยในการส่งออกชิ้นส่วนและอุปกรณ์จักรยานยนต์ โดยเฉพาะผู้บริโภคอินโดนีเซียที่ชื่นชอบการดัดแปลงยานยนต์ มักจะคำนึงถึงชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์จากประเทศไทยเป็นอันดับแรก ด้วยคุณภาพที่โดดเด่นในราคาที่จับต้องได้ ด้วยโอกาสนี้ จะเป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริมการส่งออกชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ไปยังอินโดนีเซีย