เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับผู้บริหารของซูเปอร์มาร์เก็ต Sp@ce Supermarket ห้างสรรพสินค้า Rainbow ณ เมืองตงก่วน ในการดำเนินการส่งเสริมการขายผ่านช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ในเมืองตงก่วน เพื่อกระตุ้นปริมาณการบริโภคสินค้าไทยและการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ เพื่อสร้างการตระหนักรู้และสร้างทัศนคติที่ดีตลอดจนความนิยมในสินค้าไทยให้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดจีน โดยเฉพาะเมืองตงก่วน ซึ่งเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและเป็นเมืองที่มีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สำคัญของจีนให้ออกไปสู่ภูมิภาคต่างๆ จึงเป็นจุดกระจายสินค้าที่น่าสนใจและมีศักยภาพอีกแห่งหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง
ภายในงาน ได้มีการนำเสนอสินค้าไทยที่หลากหลายให้ชาวเมืองตงก่วนได้เลือกซื้อ โดยมีตั้งแต่สินค้าอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงามและการดูแลผิวของไทย โดยสามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคในเมืองตงก่วนให้เลือกซื้อกันอย่างคึกคัก เช่น ข้าวหอมไทย ทุเรียน มังคุด ส้มโอ ลำไย นมถั่วเหลือง น้ำมะพร้าว น้ำอัดลมและเครื่องดื่มอื่นๆ มาส์กหน้า เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว น้ำยาทำความสะอาดผิวหน้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของขบเคี้ยว เครื่องปรุงรส และอาหารอื่นๆ อีกหลายรายการ นอกจากนี้ ในพิธีเปิดยังมีการให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความเป็นไทยและวัฒนธรรมไทย อาทิ การเต้นรำไทย การแสดงมวยไทย และกิจกรรมรายการที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ อีกทั้ง มีข้าวหอมมะลิแจกให้สำหรับผู้เข้าชมงานฟรี ตลอดจนการสาธิตการทำของหวานและอาหารไทยโดยเชฟชาวไทยและการแจกให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองชิม ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในพื้นที่เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ สคต.กวางโจวยังได้มีการประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมผ่านสื่อออนไลน์/ Social Media ต่างๆ อาทิ Douyin/ Weibo/ Wechat ผ่าน KOL/Net Idol ที่มีชื่อเสียงในมณฑลกวางตุ้ง เพื่อให้สินค้าไทย สามารถขยายตลาดเข้าสู่เมืองรองผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่/แพลตฟอร์มออนไลน์ในภูมิภาคจีน และส่งเสริมให้ผู้บริโภคในเมืองรองของจีนได้เข้าถึงและสร้างการรับรู้สินค้าไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขยายการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดจีนให้เพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยได้มากยิ่งขึ้น
ตลาดจีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย เนื่องด้วยสินค้าที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพผลิตภัณฑ์ของไทยจึงทำให้ได้รับความนิยมและยอมรับจากผู้บริโภคชาวจีนมาโดยตลอด ทั้งนี้การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคและเป็นวิธีการนำเสนอสินค้าผ่านช่องทางใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น การขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ภายใต้แพลตฟอร์มวีดีโอสั้น การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์จะทำให้การประชาสัมพันธ์ข้อมูลและส่งเสริมการขายสินค้าไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ในเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจของจีน เนื่องด้วยประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นจำนวนมาก อีกทั้งปัจจุบันจีนชาวจีนมีรายได้สูงขึ้น ทำให้ชาวจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคในตลาดจีน มีกำลังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศมากขึ้นด้วย ตามข้อมูลรายงาน การบริโภคของจีน ปี 2567 ระบุว่า เมืองรองของจีนมีการบริโภคสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะนำโอกาสมาสู่สินค้าส่งออกของไทย ที่จะสามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การจัดงานประชาสัมพันธ์สินค้าไทย เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยสู่เมืองตงก่วน เมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในมณฑลกวางตุ้งของประเทศจีนในครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ค่อยๆ กลายเป็นกำลังหลักของการบริโภคในเมืองตงก่วน ด้วยการปลูกฝังรูปแบบการบริโภคใหม่ๆ ที่คนหนุ่มสาวชื่นชอบ ส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงวันหยุด เศรษฐกิจช่วงกลางคืน และ เศรษฐกิจร้านค้าแห่งแรก (first-store economy) ในเมืองตงก่วน มีความเฟื่องฟูอย่างมาก และมีส่วนทำให้ตลาดผู้บริโภคของเมืองตงก่วนมีความโดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
โดยจากรายงาน “การพัฒนาเศรษฐกิจกลางคืนในเมืองต่างๆ ของจีนประจำปี 2023 ” ที่เผยแพร่โดยเว็บไซต์ Ocean Engine (www.oceanengine.com) ของจีน ระบุว่า 15 เมืองในมณฑลกวางตุ้งติดอันดับ TOP100 ของเมืองที่มีมูลค่าการพัฒนาของเศรษฐกิจกลางคืนขยายตัวสูงขึ้นของจีน โดยในจำนวนนี้ เมืองกวางโจว เมืองเซินเจิ้น และเมืองตงก่วนอยู่ในขั้นของการพัฒนาในระดับแรก โดยทางรัฐบาลเมืองตงก่วนยังได้มีนโยบายส่งเสริมการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านเศรษฐกิจวันหยุดและเศรษฐกิจกลางคืน อาทิ เศรษฐกิจช่วงวันหยุด เมืองตงก่วนใช้แผนนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐบาลและการทำกลยุทธ์ทางการตลาด ในการสร้างเทศกาลดนตรีในท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็พัฒนาและสร้างเทศกาลทะเลสาบซงซาน (Songshan Lake) อาทิ เทศกาลวัฒนธรรมกาแฟ และเทศกาลเศรษฐกิจกลางคืน ฯลฯ เพื่อเพิ่มอุปทานที่มีประสิทธิภาพ และสำรวจเทรนด์การบริโภคใหม่
กอปรกับ ปัจจุบัน เมืองตงก่วนได้สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับต่างประเทศและภูมิภาคต่างๆ มากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และกลายเป็นเมืองที่ 15 ของจีนที่มี GDP เกิน 1 ล้านล้านหยวนและมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน โดยในปี 2566 เมืองตงก่วน GDP มีมูลค่าถึง 1.14 ล้านล้านหยวน มีผู้เล่นในทุกภาคส่วนของตลาด (market entity) จำนวนมากกว่า 1,700,000 รายและองค์กรภาคอุตสาหกรรมจำนวน 220,000 แห่ง รวมถึงมีบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Industrial Enterprises above Designated Size) 14,000 แห่ง ซึ่งครองอันดับหนึ่งในบรรดาเมืองระดับจังหวัด (prefecture level cities) ของจีน และมีมูลค่าการนำเข้าส่งออกสูงถึง 1.28 ล้านล้านหยวน ซึ่งติดอันดับหนึ่งในห้าอันดับแรกของประเทศจีนเป็นเวลา 29 ปีติดต่อกัน จึงถือได้ว่าเมืองตงก่วน เป็นอีกหนึ่งเมืองรองของจีนที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ที่ผู้ส่งออกควรจับตามอง เพื่อหาโอกาสและช่องทางในการขยายการส่งออกสินค้าไทย
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
จากข้อมูลเศรษฐกิจและการบริโภคในเมืองตงก่วน จะเห็นได้ว่าเป็นเมืองที่มีศักยภาพในทางเศรษฐกิจ กอปรกับนโยบายทางภาครัฐที่สนับสนุนด้านการบริโภค จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าไทย
นอกจากนี้ เนื่องด้วยกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ กลายเป็นกำลังหลักในการบริโภคในเมืองตงก่วน โดยหลายปีมานี้ ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีแนวคิดในการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับส่วนประกอบที่ดีต่อสุขภาพ และปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการการบริโภคสินค้าที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค นอกจากนี้ เนื่องด้วยความสะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งท่ามกลางชีวิตเร่งรีบของชาวจีนในปัจจุบัน อาหารในรูปแบบกึ่งสำเร็จรูปพร้อมรับประทานและพกพาได้สะดวกได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถประหยัดเวลาในการทำอาหาร และมีความสะดวกรวดเร็ว ผู้ประกอบการควรปรับเปลี่ยนให้สินค้ามีวิธีการอุปโภค บริโภคที่สะดวกขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการในชีวิตที่เร่งรีบของผู้บริโภคในจีน รวมถึงผู้ส่งออกต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สอดคล้องกับมาตรฐานสินค้าที่จีนกำหนด เพื่อส่งเสริมให้การส่งออกสินค้าเข้าสู่ประเทศจีนเป็นไปอย่างราบรื่น จนนำไปสู่การขยายการส่งออกให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
ที่มา:
กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช
https://baijiahao.baidu.com/sid=1797637041433347402&wfr=spider&for=pc
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
Japanese 
Thai 
English 
Chinese 
German