ปัจจุบันโรงงานชิป 2 แห่งที่ตั้งอยู่ในเยอรมนีตะวันออกและมีมูลค่าการลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ต่างก็ได้รับเงินอุดหนุนที่สูงเป็นประวัติการณ์เหมือนกัน โดยแผนการก่อสร้างโรงงานของบริษัท TSMC ของไต้หวันและโรงงานของ Intel ของสหรัฐฯ ล้วนแล้วแต่มีความคล้ายคลึงกันมาก โดยทั้งสองแห่งได้ออกมาประกาศโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่ในช่วงฤดูร้อนปี 2023 พร้อม ๆ กัน แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การดำเนินงานของโรงงานทั้ง 2 แห่ง กลับรวดเร็วหรือล่าช้าไม่เท่ากัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นาย C. C. Wei ซึ่งเป็น CEO ของ TSMC ได้ทำการวางศิลาฤกษ์ โรงงานมูลค่าหมื่นล้านยูโรแล้ว ที่เมืองเดรสเดน ทั้งนี้ มีนาย Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีสังกัดพรรคสังคมนิยมเพื่อประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD – Sozialdemokratische Partei Deutschlands) และนาย Michael Kellner รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจสังกัดพรรคยุค 90 พันธมิตรสีเขียว (Bündnis 90/Die Grünen) ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย และยังมีแขกผู้มีเกียรติทางการเมืองที่ได้เตรียมของขวัญราคาแพงติดตัวไปด้วย ซึ่งของขวัญนั้นก็คือ ความมุ่งมั่นในการระดมทุนจำนวนห้าพันล้านยูโร โดยเป็นเงินมาจากรัฐบาลกลางเยอรมันที่ได้ให้สัญญาไว้ อย่างไรก็ดี คงต้องรอการอนุมัติด้านความช่วยเหลือผ่านภาครัฐจากคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (EU) ก่อนรัฐบาลฯ ถึงจะสามารถมอบเงินจำนวนนี้ให้กับ TSMC ได้ โดยในระหว่างการแถลงข่าวนี้ ก็ยังไม่ชัดเจนว่า เงินดังกล่าวจะมาทันวันวางศิลาฤกษ์หรือไม่ แต่ก็ถือว่ามีความเป็นไปได้มาก ซึ่งจากข้อมูลของ Handelsblatt กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและกระทรวงเศรษฐศาสตร์ได้เร่งประสานงานกับกรุงบรัสเซลส์ตลอดวันจันทร์เพื่อให้แน่ใจได้ว่า EU จะไฟเขียวทันเวลา ด้านนาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการ EU ซึ่งเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญเช่นกัน ได้เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งการร่วมงานของนาง von der Leyen นี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองมากกว่าที่จะเข้าไปผลักดันอะไรมากกว่านี้ได้ อีกทั้งไม่สำคัญว่าเงินสนับสนุนดังกล่าวจะมาทันวันวางศิลาฤกษ์วันอังคารหรือ 2 สัปดาห์หลังจากนั้น จากข้อมูลภายในของรัฐบาลฯ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า บรัสเซลส์จะให้การอนุมัติแก่ TSMC อย่างช้าที่สุดในเดือนกันยายน 2567 คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปจะไม่คัดค้านจำนวนเงินทุนประมาณห้าพันล้านยูโร ซึ่งจะเป็นเงินอุดหนุนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการจ่ายให้กับเอกชนในเยอรมนีเลยทีเดียว โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งปีตั้งแต่เริ่มประกาศโครงการ และการเปิดเผยตัวเลขเงินลงทุน ถือว่ารวดเร็วมากสำหรับการอนุมัติการช่วยเหลือภาครัฐขนาดนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องกล่าวให้ทราบว่า มีการความร่วมมือระหว่าง บรัสเซลส์ ข้าราชการของนาย Robert Habeck (Greens) รัฐมนตรีเศรษฐกิจฯ และบริษัท TSMC เป็นแบบอย่างที่ดี แน่นอนที่จะต้องมีความล่าช้าบ้าง นอกจากนี้จากข้อมูลในแวดวงรัฐบาล บริษัท Globalfoundries ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ TSMC ได้ออกมาคัดค้านการให้เงินทุนสนับสนุนต่อคณะกรรมาธิการ EU โดย Globalfoundries บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ มีฐานการผลิตอยู่ที่เมืองเดรสเดนอยู่แล้ว และต้องการขยายการผลิตออกไปอีก นาย Thomas Caulfield ซึ่งเป็น CEO ของ Globalfoundries ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หลายต่อหลายครั้งถึงความจริงที่ว่า รัฐบาลกลางเยอรมันให้เงินสนับสนุนกับ TSMC ในการตั้งโรงงานแห่งใหม่ แต่บริษัท Globalfoundries กลับไม่ได้ให้อะไรเลยในการขยายโรงงาน แต่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท Globalfoundries ก็ต้องยอมแพ้ให้กับคณะกรรมาธิการ EU เห็นได้ชัดว่า น่าจะมีการเจรจาในกรุงเบอร์ลินระหว่างสำนักนายกกับกระทรวงเศรษฐกิจฯ ถึงเงินทุนสำหรับสนับสนุนบริษัท Globalfoundries จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการสนับสนุนอย่างเป็นทางการออกมาเนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลกลางเยอรมันยังขาดเงินงบประมาณอยู่ อย่างไรก็ตามโฆษกของ Globalfoundries ออกมากล่าวว่า ในเวลานี้ยังมี “การหารือกับรัฐบาลกำลังเป็นไปด้วยดี และมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน”

 

แต่สิ่งที่ดำเนินไปของบริษัท TSMC ในรัฐ Sachsen กลับดำเนินแตกต่างไปจากการจัดการของ Intel ในรัฐ Sachsen-Anhalt ในระหว่างที่บริษัท Intel กำลังวางแผนสร้างโรงงานชิปในเมือง Magdeburg ในรัฐ Sachsen-Anhalt โดยมีปริมาณเงินลงทุนที่สูงกว่าของบริษัท TSMC อย่างมากอยู่ที่ 33 พันล้านยูโร เช่นเดียวกับเงินอุดหนุนของรัฐที่มากถึง 9.9 พันล้านยูโร อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของบริษัท Intel กำลังแย่ลงเรื่อย ๆ ในไตรมาสที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทขาดทุนสูงถึง 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากนั้นนาย Pat Gelsinger ซึ่งเป็น CEO ได้ประกาศโครงการประหยัดของบริษัทออกมา ภายในปี 2025 บริษัท Intel ประสงค์ที่จะลดจำนวนพนักงาน 15,000 ตำแหน่ง และประหยัดการใช้เงินให้ได้มากกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยนาย Gelsinger เน้นย้ำว่า เขาต้องการยึดถือกลยุทธ์ “IDM 2.0” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทในยุโรปเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นว่า โรงงานในเมือง Magdeburg ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ “IDM 2.0” อยู่หรือไม่ ตัวแทนของรัฐบาลกลางเยอรมันก็ยังคงมั่นใจว่า Intel จะยึดมั่นในโครงการนี้อยู่ และคนวงในกล่าวว่า ในเวลานี้ไม่มีข้อบ่งชี้ใด ๆ แสดงให้เห็นว่า บริษัทจะเปลี่ยนใจแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นาย Gelsinger ออกมาประกาศเรื่องดังกล่าว ก็ไม่มีการพูดคุยระดับสูงระหว่างรัฐบาลและบริษัท Intel เพิ่มเติมแต่อย่างใด ผู้ที่มีส่วนร่วมในการหารือดังกล่าวคนหนึ่งออกมากล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ “เราต้องมานั่งคุยกันอีกครั้ง” โดยผู้ที่เกี่ยวข้องคาดว่า น่าจะได้รับการอนุมัติเรื่องเงินลงทุนจากคณะกรรมาธิการ EU “ภายในสิ้นปีนี้” และไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเรื่องระดับเงินลงทุนที่จะได้รับการสนับสนุนอีกแล้ว สำหรับปีปัจจุบันรัฐบาลกลางเยอรมันได้สำรองเงินจำนวน 4 พันล้าน ไว้สำหรับบริษัท Intel ในกองทุนรวมเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (KTF – Klima- und Transformationsfonds) เรียบร้อยแล้ว จากข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องแจ้งให้ทราบว่า การที่ Intel ใช้เวลานานกว่าในการจัดการเรื่องนี้เมื่อเปรียบเทียบกับ TSMC ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากพฤติกรรมของ Intel เอง โดยบริษัทพยายามวิ่งขออนุมัติทางการเมืองผ่านทางนาง Margrethe Vestager กรรมาธิการ EU ด้านการแข่งขันเป็นหลัก อย่างไรก็ตามคนวงในอธิบายต่อว่า ขั้นตอนในปัจจุบันงานรายละเอียดในระดับการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ มีความสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ซึ่งในด้านดังกล่าวบริษัท Intel ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมืออย่างดีเสมอไป อีกทั้งการที่ Intel น่าจะยังยึดติดกับโครงการในเมือง Magdeburg นั้นก็สามารถดูได้จากการเตรียมการด้านสถานที่ก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง วันศุกร์ที่ผ่านมามีการก่อสร้างถนนที่จะนำไปสู่ไซต์งานของ Intel และไม่นานก่อนหน้านั้นงานก่อสร้างทางออกจากทางหลวงหมายเลข 81 ไปยังทิศทางที่โรงงานจะก่อสร้างก็แล้วเสร็จแล้ว นาย Sven Schulze รัฐมนตรีเศรษฐกิจแห่งรัฐ Sachsen-Anhalt สังกัดพรรคสหภาพคริสต์เตียนเพื่อประชาธิปไตยประเทศเยอรมนี (CDU – Christlich Demokratische Union Deutschlands) กล่าวว่า “ไม่มีข้อบ่งชี้จาก Intel ที่แสดงให้เห็นว่า เมือง Magdeburg จะถูกตัดออกจากแผนของบริษัทแต่อย่างใด” อย่างไรก็ตามสำนักพิมพ์ “Spiegel” รายงานว่า รัฐบาลของรัฐ Sachsen-Anhalt กำลังวางแผนทางเลือกการใช้พื้นที่ดังกล่าวในเมือง Magdeburg อยู่แล้วหาก Intel ถอนตัว แต่นาย Schulze กลับออกมาแย้งเรื่องที่มีการกล่าวถึงว่า “เรายังไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์ที่เราจะต้องตัดสินใจหาทางเลือกแต่อย่างใด”

 

จาก Handelsblatt 9 กันยายน 2567

jaJapanese