เมื่อช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีได้มีการประกาศใช้กฎระเบียบการนำเข้าสินค้าใหม่นับสิบฉบับในรัฐกิจจานุเบกษา ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การเปิดใช้ระบบในการยื่นเอกสารสำหรับการนำเข้าสินค้าต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ ระบบการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การกำหนดและปรับปรุงหลักเกณฑ์การนำเข้าสินค้าชนิดต่างๆ อาทิ สารให้ความหวาน อุปกรณ์แผนที่ อากาศยานพลเรือน เคมีภัณฑ์ เป็นต้น รวมไปถึงการกำหนดมาตรฐานการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่เข้มงวดมากขึ้น

 

กฎระเบียบการนำเข้าต่างๆ ที่น่าสนใจและเพิ่งประกาศใช้ในครั้งนี้ อาทิ “Authorization Communique for Electronic Application in Import Transactions” ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การยื่นเอกสารสำหรับการนำเข้าสินค้าต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ “Communique on the generalized System of Preferences” เป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีซึ่งได้ระบุถึงชนิดสินค้าและประเทศที่ได้รับสิทธิ “Communique on Permission to be Obtained for Import by Public Institutions and Organizations” เกี่ยวกับการขอยกเว้นภาษีนำเข้าโดยองค์กรสาธารณะ และ “Communique on the Suspension System” ที่เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินงาน “ระบบการระงับการเก็บภาษีนำเข้า” ซึ่งเป็นระบบที่ตุรกีและสหภาพยุโรป (อียู) ใช้ร่วมกัน เพื่อให้สินค้าที่เป็นวัตถุดิบ วัสดุสิ้นเปลือง หรือสินค้าที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นสำหรับกระบวนการผลิต สามารถได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า

 

นอกเหนือจากประกาศต่างๆ ที่เป็นการวางกฎระเบียบสำหรับการนำเข้าเป็นการทั่วไปดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายฉบับที่เป็นการกำหนดและปรับปรุงหลักเกณฑ์การนำเข้าสินค้าชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “Communique on the Importation of High Intensity Sweeteners” ที่ควบคุมการนำเข้าสารให้ความหวานประเภทต่างๆ โดยเฉพาะสารให้ความหวานที่มีความเข้มข้นสูง “Communique on the Importation of Maps and Goods Containing Map Information” :ซึ่งได้กำหนดกฎระเบียบใหม่สำหรับการนำเข้าแผนที่ทุกชนิดรวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้แผนที่ หรือ “Communique on the Importation of Civil Aircraft” ที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับอากาศยานพลเรือน เป็นต้น

 

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ตุรกีได้มีการออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า การปรับปรุงนโยบายและระบบการนำเข้าดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานการลงทุน การผลิต และการส่งออก โดยคำนึงถึงความต้องการของเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก โดยระบุอย่างชัดเจนว่า “เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการผลิตในประเทศและปกป้องจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และความเสียหายที่เกิดจากการนำเข้าที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบระหว่างประเทศ นโยบายด้านการนำเข้าจึงจำเป็นต้องถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจากความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศ การพัฒนาของตลาดทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุน โดยยึดหลักความโปร่งใสและสามารถคาดการณ์ได้” ในแถลงการณ์ดังกล่าวยังได้กล่าวถึงการใช้มาตรการปกป้องทางการค้าของนานาประเทศที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น และการส่งออกจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกและที่อื่นๆ ว่ากำลังคุกคามและจะส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศตุรกี จึงมีความจำเป็นต้องวางแผนที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศโดยเร็ว

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในแถลงการณ์ยังได้ระบุถึงเป้าหมายในการลดการขาดดุลทางการค้าและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดโดยใช้มาตรการป้องกันการนำเข้าสินค้าคุณภาพต่ำราคาถูกเข้ามาในประเทศโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค โดยจะมีการจับตามาและตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ภาคการผลิตภายในประเทศขยายตัวมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ได้มีการออกประกาศที่เป็นการควบคุมคุณภาพสินค้าอีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ของเล่น วัสดุก่อสร้าง แบตเตอรี่ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าสำหรับแม่และเด็ก ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีการเพิ่มอัตราค่าปรับสำหรับผู้ที่พยายามหลีกลี่ยงหรือฝ่าฝืนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎระเบียบต่างๆ เหล่านี้ควบคู่กันไป

 

ข้อคิดเห็นจากสำนักงานฯ

 

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตุรกียังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินนโยบาย “ปรับโครงสร้างทางการค้าระหว่างประเทศ” ตามเป้าหมายที่จะลดการขาดดุลของประเทศต่อในปีนี้อย่างเข้มข้น โดยการควบคุมการนำเข้าอย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับความพยายามที่จะดึงความสนใจของประชาชนให้หันมาใช้สินค้าที่ผลิตขึ้นภายในประเทศมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในทางเศรษฐกิจมหภาคแล้ว นโยบายดังกล่าวไม่ได้ส่งกระทบเพียงกับผู้บริโภคทั่วไปเท่านั้น แต่ในภาคอุตสาหกรรมก็ต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นมากด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่ารัฐบาลพยายามหาช่องทางลดหย่อนให้สำหรับสินค้าประเภทวัตถุดิบที่มาจากประเทศต่างๆ ที่ตุรกีเป็นสมาชิกหรือภาคีอยู่ แต่ก็อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้น การหาสมดุลที่เหมาะสมในเรื่องนี้จึงเป็นประเด็นที่ควรจะต้องติดตามกันในระยะกลางและระยะยาวต่อไป

 

ที่มา: https://www.aa.com.tr/tr/ekonomi/ithalat-rejiminde-yeni-yila-iliskin-bazi-duzenlemeler-resmi-gazetede/3438937

jaJapanese