การใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจมาเลเซียจะเติบโตได้ดีขึ้น

นาย Rafizi Ramli รัฐมนตรีเศรษฐกิจของมาเลเซียกล่าวว่า “เศรษฐกิจของมาเลเซียสามารถเติบโตได้ประมาณร้อยละ 1.3 ภายในปี 2573 หากมาเลเซียใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น” อีกทั้ง ธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Green Business) ในเอเชียคาดว่าจะสูงถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (21.9 ล้านล้านริงกิตมาเลเซีย) เนื่องจากจะมีการสร้างงานในธุรกิจดังกล่าวกว่า 24 ล้านงานทั่วโลก

 

การเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยพลังงานสะอาดยังเป็นเรื่องใหม่ในมาเลเซีย รัฐบาลมาเลเซียมีความทะเยอทะยานและได้กำหนดนโยบายและกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งในระดับชาติและระดับภาค เพื่อลดความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ผ่านความร่วมมือการเติบโตที่สะอาด (การเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยพลังงานสะอาด) ระหว่างสหราชอาณาจักรและมาเลเซีย ซึ่งระบุถึงแผนงานการเปลี่ยนผ่านพลังงานเพื่อดำเนินนโยบายพลังงานแห่งชาติสำหรับปี 2022 ถึง2040 ที่ส่งเสริมเศรษฐกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม คู่มือดังกล่าวเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างคณะกรรมาธิการระดับสูงของอังกฤษและรัฐบาลมาเลเซียเพื่อส่งเสริมการเติบโตที่สะอาดในมาเลเซีย และแนะนำความร่วมมือระหว่างองค์กรของมาเลเซียและสหราชอาณาจักรเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งคู่มือดังกล่าวจัดทำโดย British High Commission ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ นอกจากนี้ ยังนำเสนอโอกาสความร่วมมือระหว่างบริษัทในสหราชอาณาจักรและองค์กรต่างๆ ของมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียวจากประสบการณ์ในทวีปยุโรป

 

นายชาร์ลส์ เฮย์ ข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำมาเลเซีย กล่าวว่า สหราชอาณาจักรได้ช่วยเหลือเป้าหมายด้านสภาพอากาศของมาเลเซียด้วยโครงการด้านพลังงาน การขนส่ง และการเงิน ผ่านทางการทำ“บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศทวิภาคีปี 2022 (MoU) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับมาเลเซียต่อไปเพื่อจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมผ่านนโยบาย การค้า และการทูต

 

ขณะเดียวกัน เจนนิเฟอร์ โลเปซ ผู้อำนวยการหอการค้าอังกฤษแห่งมาเลเซียเชื่อว่าคู่มือดังกล่าวเป็นตัวอย่างของการร่วมมือระหว่างสหราชอาณาจักรและมาเลเซียในการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการนำเสนอโอกาสพิเศษสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าสู่ตลาดที่เติบโตด้วยพลังงานสะอาดในมาเลเซีย ด้วยการทำงานร่วมกัน สหราชอาณาจักรและมาเลเซียสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมและพัฒนาแนวทางใหม่ๆ เพื่อสร้างอนาคตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสำหรับทั้งสองประเทศและโลกใบนี้

 

อย่างไรก็ตาม GDP ของมาเลเซียสำหรับไตรมาสแรกของปี 2023 (1Q23) ซึ่งจะประกาศโดย Bank Negara Malaysia (BNM) คาดว่าจะเป็นบวกมากขึ้นท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายถึงการสร้างสมดุลให้กับศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

 

ความคิดเห็น สคต.

มาเลเซียเดินหน้าตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจพร้อมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ได้รับความสนใจจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในมาเลเซีย ถือเป็นการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพอย่างมากมาเลเซียพลังดันธุรกิจสีเขียว (Green Business) ที่กำลังมาแรงและบุกกระแสการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือธุรกิจสีเขียว (Green Business) เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังปรับสู่ New Business Model ไปสู่อุตสาหกรรมที่เกิดเป็นภาพของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์ และลดการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโลกให้น้อยที่สุด จนเกิดเป็นธุรกิจสีเขียวมาแรงที่อุตสาหกรรมกำลังจับตาและทั่วโลกต่างฟันธงว่านี่คือธุรกิจแห่งอนาคต ปัจจุบันผู้บริโภคมาเลเซียให้ความสนใจสินค้าจากอุตสาหกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม อาทิ สินค้าที่ผลิตจากการรีไซเคิล เริ่มเป็นกระแสในหมู่วัยหมุ่มสาวและวัยทำงาน ซึ่งยังมีผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มดังกล่าวไม่มากนักในประเทศมาเลเซีย

มาเลเซียถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ประชากรมีกำลังซื้อ อีกทั้งกระแสการใช้สินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นกระแสในมาเลเซีย สำนักงานฯ สามารถแนะนำผู้ประกอบการไทยที่สนใจหากผู้ประกอบไทยส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวให้เข้ามาเปิดตลาดในมาเลเซียซึ่งยังมีการแข่งขันที่ไม่สูงมาก มีโอกาศประสบความสำเร็จสูง

 

クアラルンプールの海外貿易促進事務所

jaJapanese