ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในสหรัฐอเมริกาปี 2565 มีมูลค่าประมาณ 23,490 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 47,740 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573 โดยมีการขยายตัวเฉลี่ย 8.30% ในช่วงระหว่างปี 2565-2573
สินค้า “เครื่องดื่มชูกำลัง” จัดอยู่ในหมวดของเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม (Soft Drink) ซึ่งในหมวดดังกล่าวครอบคลุมเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มอัดลม น้ำผักและผลไม้ น้ำดื่มบรรจุขวด เครื่องดื่มเกลือแร่ ชาพร้อมดื่ม กาแฟพร้อมดื่ม เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าเครื่องดื่มชูกำลังเป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดควบคู่ไปกับวิตามินเสริม (Multivitamins) สำหรับวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาวในสหรัฐอเมริกา ช่วงอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี เนื่องจากเครื่องดื่มดังกล่าวเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกาย เสริมสร้างพลังงานในร่างกาย พัฒนาความตื่นตัวของผู้ดื่ม ทำให้หายเหนื่อย และลดความเครียดอีกด้วย
ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของสหรัฐฯ
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในสหรัฐฯ ขยายตัวมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว วิถีชีวิตของประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป มีความต้องการเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เวลาขับรถ และดื่มเพื่อช่วยให้การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของสหรัฐฯ ยังเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าเครื่องดื่มอัดลม โดยเฉพาะสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เครื่องดื่มชูกำลังเป็นเครื่องดื่มที่มีทอรีน (Taurine) เป็นส่วนผสมหนึ่ง ซึ่งเป็นสารที่เสริมสร้างสมรรถนะของกล้ามเนื้อและระบบการทำงานหัวใจ และผู้ผลิตต่างรับประกันว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ จะช่วยลดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อและทำให้หัวใจแข็งแรง
ช่องทางจำหน่าย
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น แพลตฟอร์มออนไลน์ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ โดยคาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังจากตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ จะเติบโตขึ้นในช่วงปี 2565-2573 เนื่องจากความสะดวกในซื้อ และมีตัวเลือกผ่านบัตรเครดิต เนื่องจากผู้บริโภคหลีกเลี่ยงการใช้เงินสดมากขึ้น
บริษัทคู่แข่งที่สำคัญในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่ บริษัท Red Bull บริษัท Monster Beverage Corporation บริษัทRockstar Inc บริษัท The Coca-Cola บริษัท PepsiCo บริษัท Arizona Beverage บริษัท National Beverage Corp บริษัท Dr. Pepper Snapple Group บริษัท Living Essentials และบริษัท Cloud 9 เป็นต้น
เครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ที่ผ่านมาในระดับแบรนด์โลก Red Bull ถือว่าประสบความสำเร็จกับการเป็นผู้สนับสนุนกีฬาแข่งรถ Formula One (F1) และได้ขยายอาณาจักรไปยังวงการฟุตบอล Red Bull พยายามเจาะกลุ่มผู้บริโภคผ่านช่องทางเหล่านี้ เพื่อขยายแบรนด์ไปยังทั่วโลก และ Red Bull เป็นที่รู้จักกันดีในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของสหรัฐอเมริกา
การนำเข้าสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังของสหรัฐฯ (HS : 220210 เครื่องดื่มชูกำลังอยู่ภายใต้น้ำอัดลม)
ในปี 2565 สหรัฐอเมริกานำเข้าเครื่องดื่มชูกำลังจากทั่วโลกมูลค่าการนำเข้า 2,216.7 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากประเทศออสเตรเลียเป็นอันดับที่ 1 มูลค่าการนำเข้า 576.2 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากประเทศเม็กซิโกเป็นลำดับที่ 2 มูลค่าการนำเข้า 481.4 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นลำดับที่ 3 มูลค่าการนำเข้า 451.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำเข้าจากประเทศแคนาดาเป็นลำดับที่ 4 มูลค่าการนำเข้า 146 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำเข้าจากประเทศอิตาลีเป็นลำดับที่ 5 มูลค่าการนำเข้า 141 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากประเทศไทยเป็นอันดับที่ 13 มูลค่าการนำเข้า 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Source of data: U.S. Department of Commerce, Bureau of Census
ความคิดเห็นของสคต.นิวยอร์ก
ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของสหรัฐฯ มีการแข่งขันค่อนข้างสูงกับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ อาทิเช่น น้ำผลไม้บรรจุขวด เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม เป็นต้น ผู้ผลิตจะต้องพัฒนาสินค้าของตนให้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยการคิดค้นส่วนผสมที่นอกจากจะมีรสชาติที่ดีแล้ว ยังให้คุณประโยชน์แก่สุขภาพของผู้บริโภคเป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น
แหล่งที่มาของข้อมูล: https://www.verifiedmarketresearch.com/product/us-energy-drinks-market/
และสคต. นิวยอร์ก
24 พค. 2566