แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูง แต่เทศกาลคริสต์มาสและการเฉลิมฉลองก็ไม่ทำให้ชาวฮังการีลดการจับจ่ายใช้สอยลง

📰 ข่าวเด่นประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 โดย สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์
www.thaitradebudapest.hu / Facebook Fanpage: @ThaiTradeBudapest

Photo by Krisztian Tabori on Unsplash

ผู้บริโภคชาวฮังการีให้ความสำคัญกับเทศกาลคริสต์มาสเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าสินค้าจะมีราคาสูงขึ้นมากจากภาวะเงินเฟ้อ แต่ในเทศกาลแห่งความสุขนี้ ชาวฮังการีก็ตั้งใจเก็บเงินมาทั้งปี รวมกับเงินโบนัสปลายปี เพื่อใช้จ่ายในช่วงเทศกาลฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% หรือราว 108,050 โฟรินท์ (ประมาณ 9,000 บาท) ของรายได้เฉลี่ยหลังหักภาษี (ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติฮังการี) ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยของเงินเดือนสุทธิหลังหักภาษีของแรงงานในประเทศฮังการีทุกช่วงอายุ ทั้งพลเมืองฮังการีและชาวต่างชาติ ประจำเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ประมาณ 432,200 โฟรินท์ หรือประมาณ 43,220 บาท ข้อมูลดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของชาวฮังการีที่ถึงแม้ว่าราคาสินค้าจะสูงขึ้นมาก แต่สำหรับเทศกาลแห่งความสุข ชาวฮังการีก็ยังมีความต้องการที่จะซื้อของขวัญในเทศกาลปลายปีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น การเลือกซื้อต้นคริสต์มาส โดยที่ผ่านมา ชาวฮังการีมักซื้อต้นสนจริง แต่ปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาซื้อต้นสนเทียมมากขึ้น เพราะราคาถูกกว่า และสามารถใช้ได้ในปีต่อๆ ไป

จากผลการสำรวจแนวโน้มพฤติกรรมการบริโภคช่วงเทศกาลคริสต์มาสของผู้บริโภคชาวฮังการี ในช่วงอายุ 18-69 ปี โดยบริษัท Cofidis Credit Monitor ระบุว่า ชาวฮังการีส่วนใหญ่ยังคงเลือกซื้อของขวัญสำหรับการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาสและปลายปี ทั้งนี้ ผู้บริโภครุ่นใหม่ นิยมใช้จ่ายด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต รวมทั้งการสั่งซื้อของออนไลน์มากขึ้น ต่างกับชาวฮังการีที่มีอายุมากที่ยังนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดเป็นส่วนใหญ่

สินค้าที่เป็นที่นิยมซื้อเป็นของขวัญให้กันในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอาง น้ำหอม ของเล่น และเสื้อผ้า โดยสินค้าที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบอาหาร อุปกรณ์สำหรับตกแต่งสวนที่บ้าน อุปกรณ์กีฬาต่างๆ และสินค้าที่ใช้ในครัวเรือน ทั้งนี้ ชาวฮังกาเรียนส่วนใหญ่เริ่มซื้อของขวัญให้กันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เนื่องจากยังมีสินค้าที่ออกมาหลากหลาย ซึ่งหากรอจนถึงเดือนธันวาคม สินค้าต่างๆ ก็จะมีให้เลือกไม่มากนัก จากแนวโน้มนี้เอง ทำให้บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าสำหรับใช้เป็นของขวัญในเทศกาลฯ เร่งทำโปรโมชั่นทั้งลดราคาสินค้า ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ฯลฯ โดยเฉพาะในช่วง Black Friday (กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม) เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคเลือกซื้อของในจำนวนที่มากขึ้น

💭 ข้อคิดเห็นของ สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ 💭

จากแนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยของชาวฮังการีในช่วงเทศกาลฯ จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก และอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็เริ่มเห็นแนวโน้มบางอย่างชัดเจนขึ้น เช่น การเก็บเงินตลอดทั้งปี เพื่อใช้สำหรับใช้จ่ายในเทศกาลฯ หรือการสั่งซื้อออนไลน์มากขึ้น เป็นต้น ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าตกแต่งบ้าน เครื่องประดับสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอาง ฯลฯ อาจพิจารณามาสำรวจตลาดในช่วงเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลองนี้หรือหากมีศักยภาพในการส่งออก ก็อาจเริ่มต้นทดลองวางขายสินค้าสำหรับใช้เป็นของขวัญในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคมีความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยสูงขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติในแต่ละปี

นอกจากนี้ การพิจารณาแสวงหาความร่วมมือกับบริษัทคู่ค้าในฮังการีเพื่อร่วมกันโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ก็จะเป็นอีกช่องทางที่สำคัญทางหนึ่งในการนำเสนอข้อมูลโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าช่วง Black Friday เลยไปถึงเทศกาลคริสต์มาสและสิ้นปี แม้ว่าการค้าแบบ e-commerce ในฮังการีเพิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ประมาณแค่สิบปี แต่ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงช่องทางการขายของที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะชาวฮังการีรุ่นใหม่ ที่เติบโตมาจนถึงวัยรุ่นก็เลือกใช้ประสบการณ์ซื้อของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว

ที่มาของข้อมูล

สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์
พฤศจิกายน 2567