กระแสความนิยมเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในตลาดสหรัฐอเมริกา

จากงานวิจัยของ YouGov CategoryView ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย และค้นหาข้อมุลระดับโลกพบว่า ในปี 2567 1 ใน 3 ของชาวอเมริกันดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง รวมทั้ง ในปี 2568 ผู้บริโภคหันมาทบทวนพฤติกรรมการดื่มและกระแสการงดดื่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเดือนมกราคม หรือ Dry January นี้กระแสความนิยมเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในตลาดสหรัฐอเมริกา

การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง
   1 ใน 3 ของชาวอเมริกันบริโภคเคริ่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงในปี 2567 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากข้อจำกัดทางการเงิน โดยเบียร์เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ร้อยละ 35) ตามมาด้วยไวน์ (ร้อยละ 27) และเหล้า (ร้อยละ 24) ซึ่งรายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มไปสู่การดื่มแบบมีสติมากขึ้นของผู้บริโภคชาวอเมริกัน

กระแสความนิยมเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในตลาดสหรัฐอเมริกา

เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
     เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ตอนต้นในช่วงอายุ 21-29ปี เกือบร้อยละ 27 ของประชากรกลุ่มนี้ดื่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ทุกสัปดาห์ โดยคำนึงถึงสุขภาพ ราคา และรสชาติเป็นหลัก โดยพบว่าเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่กำลังได้รับความนิยมมากในกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์

กระแสความนิยมเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในตลาดสหรัฐอเมริกา

ขาขึ้นของเบียร์ไร้แอลกอฮอล์
    เนื่องจากกระแสความนิยมของเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ โรงงานผลิตเบียร์คราฟท์ก็หันมาผลิตเบียร์สูตรใหม่เพื่อเอาใจนักดื่มที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น  บริษัท Athletic Brewing และบริษัท Best Day เป็นผู้นำในการผลิตเบียร์ไร้แอลกอฮอล์               ในสหรัฐฯ ส่วนบริษัทระดับโลก เช่น Mash Gang และ Guinness ก็เข้าสู่ตลาดของเบียร์ไร้แอลกอฮอล์พร้อมกับข้อเสนอที่น่าสนใจ โดยคนดังแม้แต่ Tom Holland ซึ่งเป็นที่รู้จักจากบทบาท Spider Man ก็เปิดตัวแบรนด์เบียร์ไร้แอลกอฮอล์ของตัวเองที่มีชื่อว่า Bero

การเติบโตของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกา

ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริโภคอายุน้อยเป็นกำลังซื้อหลักของเครื่องดื่มชนิดนี้ ผู้บริโภคหลายคนระบุว่าสุขภาพและรายได้เป็นแรงจูงใจหลักในการซื้อเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ จากงานวิจัยล่าสุดของ YouGov พบว่า ปัจจัยหลักของผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำทุกสัปดาห์นั้นมาจาก ความสะดวกในการซื้อ (ร้อยละ 34) การหลีกเลี่ยงอาการมึนเมา (ร้อยละ 30) และการหลีกเลี่ยงอาการเมาค้าง (ร้อยละ 23) โรงงานผลิตเบียร์อิสระก็ใช้ประโยชน์จากกระแสนี้โดยการผลิตเบียร์ตัวหลักของโรงงานในรูปแบบไร้แอลกอฮอล์หรือเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่เน้นผลิตเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เท่านั้น อาทิ  Athletic Brewing ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตคราฟท์เบียร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐฯ และผลิตเฉพาะเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เท่านั้น

กระแสความนิยมเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในตลาดสหรัฐอเมริกา

เหตุใดโรงงานผลิตเบียร์ควรหันมาสนใจเบียร์ไร้แอลกอฮอล์
     เบียร์ไร้แอลกอฮอล์นั้นไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่เป็นตลาดที่กำลังเติบโตและมีศักยภาพในระยะยาว การนำเสนอตัวเลือกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์จะทำให้โรงงานผลิตเบียร์สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มนักดื่มที่ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มคนขับรถ หรือกลุ่มลูกค้าที่ตามกระแสการงดดื่มในเดือนมกราคม (Dry January) การเติบโตของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค โรงงานผลิตเบียร์ที่มีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์คาดว่าจะสามารถเป็นผู้นำในตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้

ตลาดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์จะเติบโตต่อไปเพราะผู้บริโภคชาวอเมริกันหันมาดื่มอย่างระมัดระวังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ตอนต้นที่หันมาใส่ใจสุขภาพ ไปจนถึงกลุ่มคนรักเบียร์ที่มองหาเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ที่มี่รสชาติดี ความต้องการเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในตลาดไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสทองของโรงงานเบียร์อิสระที่จะตอบรับกระแสเบียร์ไร้แอลกอฮอล์นี้และขยายความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตเพื่อให้สามารถครองใจของลูกค้าชาวอเมริกันได้

ความคิดเห็นของสคต.นิวยอร์ก

การเติบโตของตลาดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ กระแสการงดดื่มในเดือนมกราคมและการหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค ส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์เบียร์ไร้แอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ ดังนั้น เป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยที่จะพัฒนาเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เพื่อให้ตอบรับกับกระแสความนิยมของผู้บริโภคชาวอเมริกัน และหาช่องทางในขยายตลาดเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกาให้มากยิ่งขึ้น

ข้อมูลอ้างอิง: Craft Brewing Business, YouGov

jaJapanese