สหภาพยุโรป ได้อนุมัติเงินจำนวน 1 พันล้านยูโร ให้แก่รัฐบาลโปแลนด์ ตามคำร้องขอของโปแลนด์ที่เสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาสินค้าการเกษตร อาทิ ปุ๋ย และอาหารสัตว์ มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยมาตรการ State Aid Temporary Crisis and Transition Framework เป็นมาตรการที่รัฐบาลโปแลนด์นำมาใช้ในการปฏิรูปการเกษตรกรรมในโปแลนด์เพื่อเข้าสู่ net-zero economy อาทิ การลดการใช้พลังงาน และ decarbonization นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโปแลนด์จากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ การเมือง และภาวะสงคราม
โดยเงินสนับสนุนจาก EU ในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินชดเชย สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการเกษตรในโปแลนด์ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม เป็นจำนวนสูงสุดไม่เกิน 250,000 ยูโรต่อราย และมีแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 นี้
ข้อมูลเพิ่มเติม/ข้อคิดเห็นของสคต.
1. ในช่วงภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน สหภาพยุโรปเคยอนุมัติเงินสนับสนุนให้แก่รัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในโปแลนด์ไปแล้ว 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงินประมาณ 1.3 พันล้านยูโร ซึ่งการอนุมัติเงินสนับสนุนในครั้งนี้อีก 1 พันล้านยูโร เป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่เกษตรกรโปแลนด์ออกมาประท้วงในกรณีการนำเข้าสินค้าเกษตรจากยูเครน
ในตลาดโปแลนด์และสภาพยุโรปส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรของผู้ผลิตท้องถิ่นจนรัฐบาลโปแลนด์ต้องออกประกาศห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากยูเครนเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
2. ราคาสินค้าการเกษตร อาทิ ปุ๋ย และอาหารสัตว์ในโปแลนด์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงการระบาดของ COVID-19 มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากการเริ่มต้นของภาวะสงครามและสหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าสินค้าจากรัสเซียและเบลารุส ส่งผลให้ราคาปุ๋ย และอาหารสัตว์มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ราคาปุ๋ยปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรของเกษตรกรและผู้ประกอบการในโปแลนด์เป็นอย่างมาก
ที่มา : Polish Press Agency