ภาพรวมของตลาด
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (U.S. Department of Agriculture – USDA) ประมาณการณ์มูลค่าการผลิตกัญชงเพื่อการอุตสาหกรรม (industrial hemp) ในสหรัฐฯในปี 2021 ที่ 824 ล้านเหรียญฯ
กฎหมายสหรัฐฯในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกัญชง (hemp)
กฎหมาย 2018 Farm Bill สหรัฐฯเปิดโอกาสให้แก่กัญชง (hemp) โดยมีสาระสำคัญ คือ
- จัดทำคำจำกัดความความตามกฎหมายของกัญชง (hemp) ว่า คือ “พืชสายพันธุ์ Cannabis sativa L. และส่วนต่างๆของพืชหรือสารสกัดจากพืช ที่ทั้งหมดต้องมีความเข้มข้นของ THC (delta-9-Tetrahydrocannabinol) ไม่เกิน 0.3% คิดตามน้ำหนักที่เป็น dry weight” ถ้า THC เกินกว่า 0.3% ถือว่าเป็นกัญชา (marijuana) และเป็น Schedule I Controlled Substances หรือยาเสพติดในกลุ่มเดียวกับ heroin, lysergic acid diethylamide (LSD), marijuana (cannabis), 3,4-methylenedioxymethamphetamine (ecstasy), methaqualone, และ peyote
- ถอดกัญชงที่มี THC (Tetrahydrocannabinol) ไม่เกิน 0.3% หรือที่เรียกว่า Industrial hemp ออกจากรายชื่อสารควบคุม (controlled substance) และอนุญาตการผลิต Industrial hemp ในสหรัฐฯเพื่อวัตถุประสงค์ในการนำเส้นใยและเมล็ดไปใช้เพื่อการผลิตสินค้าต่างๆ และไม่ใช่การใช้เพื่อเป็นยาหรือเพื่อกระตุ้นสภาวะจิตใจ
- อนุญาตการขนส่งกัญชงระหว่างมลรัฐ (interstate transportation/shipments) ซึ่งทำให้การค้าระหว่างมลรัฐสามารถเกิดขึ้น
กฎหมาย 2018 Farm Bill เป็นกฎหมายของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ และไม่มีอำนาจเข้าไปปรับเปลี่ยนกฎหมายของหน่วยงานราชการอื่น ดังนั้น แม้ว่าปัจจุบันการปลูกและการค้าสินค้า กัญชง (hemp) ในสหรัฐฯสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขกฎระเบียบที่เข้มงวดและจำกัดของแต่ละหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง U.S. Food and Drug Administration (USFDA) และรัฐบาลมลรัฐต่างๆที่เกี่ยวข้องที่อาจมีรายละเอียดของกฎระเบียบแตกต่างออกไป
สินค้ากัญชง (hemp) ที่อาจสามารถเข้าสู่ระบบการค้าระหว่างประเทศและการค้าในประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย ภายใต้รายละเอียดเงื่อนไขที่กำหนด คือ ต้นและเมล็ดพันธุ์ที่มี THC (Tetrahydrocannabinol) ต่ำกว่าร้อยละ 0.3 ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ผลิตจากต้นหรือเมล็ดพันธุ์ที่ปลอดสาร THC หรือมี THC ที่ติดมาตามธรรมชาติจากการสัมผัสปนเปื้อนกับพืชอื่นและมี THC ในระดับต่ำเป็นอย่างมากจนไม่สามารถทำให้เกิดสภาวะ “high” ได้เมื่อบริโภค
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (U.S. Department of Agriculture – USDA) ควบคุมกัญชงในส่วนที่เป็นสินค้าเกษตรที่ยังไม่แปรรูป คือ ต้น และเมล็ดพันธุ์
กฎหมาย 2018 Farm Bill สหรัฐฯ
- กำหนดให้หน่วยงาน Agricultural Marketing Service กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (U.S. Department of Agriculture – USDA) จัดทำกรอบการทำงานเรื่องการผลิตกัญชง (hemp production) ในสหรัฐฯ สาระสำคัญคือ การจัดทำกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการปลูกและผู้ปลูกในสหรัฐฯ โดยกำหนดให้ต้องขอและได้รับใบอนุญาตให้ปลูกได้ และการตรวจสอบผลผลิตโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการรับรองจาก USDA แล้วเท่านั้น วันที่ 19 มกราคม 2021 USDA จัดทำกฎระเบียบสุดท้าย (final rule) เรื่องการผลิตกัญชง (hemp) ในสหรัฐฯ ภายใต้โปรแกรมการผลิตกัญชงในประเทศ (U.S. Domestic Hemp Production Program) คาดว่าภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2023 USDA จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่กำหนดให้กัญชงทั้งหมดต้องผ่านการตรวจสอบจากห้องทดลองที่จดทะเบียนไว้กับ Drug Enforcement Agency (DEA) สหรัฐฯเท่านั้น
- กำหนดให้หน่วยงาน Plant Health Inspection Service (APHIS) กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ควบคุมการนำเข้าสหรัฐฯต้นและและเมล็ดพันธุ์กัญชงที่เป็น industrial hemp seeds/plant) เพื่อวัตถุประสงค์นำไปปลูก ภายใต้เงื่อนไขว่า
(1) การนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง (hemp seed) ต้องมีหนังสือรับรองสุขอนามัยของพืช หรือ phytosanitary certificate จากหน่วยงานคุ้มครองพืชในประเทศต้นสังกัด (National Plant Protection Organization – NPPO ประเทศไทยคือ กรมวิชาการเกษตรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) รับรองแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์และการปลอดจากแมลงศัตรูพืช
(2) การนำเข้าต้นกัญชง (hemp plant)
(2.1) ต้องยื่นขอและได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าได้จาก USDA
(2.2) ต้องมีหนังสือรับรองสุขอนามัยของพืชจากหน่วยงาน NPPO ของประเทศต้นสังกัด รับรองว่าปลอดจากแมลงศัตรูพืช
(3) สินค้าที่เดินทางถึงสหรัฐฯจะถูกตรวจเข้มงวดที่ด่านนำเข้าโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร (U.S. Customs and Border Protection – CBP)
หน่วยงาน U.S. Food and Drug Administration – USFDA ควบคุมสินค้าที่เป็นผลผลิตจากกัญชง (hemp) ที่อยู่ภายใต้คำจำกัดความของกฎหมาย 2018 Farm Bill ที่ถูกนำไปใช้ในการผลิตสินค้าอาหาร เครื่องสำอาง และยา
แม้ว่ากฎหมาย 2018 Farm Bill จะถอดกัญชง (hemp) ที่มี THC ไม่เกิน 0.3% ออกจากการเป็น Schedule I Controlled Substance แล้วก็ตาม แต่ U.S. Food and Drug Administration (USFDA) ยังคงปฏิบัติตามกฎหมาย FD&C Act และ section 351 Public Health Service Act (PHS Act) ที่ให้อำนาจ USFDA ควบคุมสินค้าในความรับผิดชอบ คือ ยารักษาโรค อาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง
กฎระเบียบปัจจุบันของ USFDA ที่ควบคุมสินค้าในความรับผิดชอบที่มีส่วนผสมของ cannabis หรือ สารสกัดจาก cannabis (กัญชงถือเป็นพืชกลุ่ม cannabis) สรุปได้ ดังนี้
- แม้ว่าสินค้า CBD จะมีคุณสมบัติเข้าข่ายคำจำกัดความเป็นกัญชง (hemp) ตามกฎหมาย 2018 Farm Bill แต่สินค้าที่มีส่วนผสมกัญชงอยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกับสินค้าอื่นๆที่ USFDA ควบคุม และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆเหล่านั้นเช่นกัน
- ปัจจุบันมียาที่มีส่วนผสม CBD ที่ USFDA ยอมรับให้ในทางการแพทย์ได้มีเพียง 4 รายการเท่านั้น คือ Epidiolex, Marinol, Syndros, และ Cesamet สินค้าอื่นที่มีส่วนผสมของ cannabis หรือสารสกัด cannabis ไม่ได้รับอนุญาตให้ระบุสรรพคุณในทางรักษาโรคใดๆมิฉะนั้นจะถือว่าเป็นยารักษาโรคที่ผิดกฎหมาย
- ปัจจุบันการบรรยายลักษณะของ THC หรือ CBD ไม่มีปรากฎอยู่ในคำจำกัดความตามกฎหมายของ USFDA ของคำว่า dietary supplement จึงห้ามนำ THC หรือ CBD มาใช้ในการผลิต dietary supplement ฉะนั้นสินค้า dietary supplement และสินค้าอาหารปกติทั่วไปที่มีส่วนผสมของ THC หรือ CBD ถือเป็นสินค้าที่มีการเจือปนสกปรกและผิดกฎหมาย
- อย่างไรก็ดี สินค้า dietary supplement และสินค้าอาหารทั่วไปที่มีส่วนผสมต่างๆที่ได้มาจากส่วนต่างๆของพืชกลุ่ม cannabis ที่ปลอดจาก THC หรือ CBD เช่น กัญชง (hemp) อาจจะสามารถวางตลาดได้ ทั้งนี้
เจ้าของสินค้าต้องแจ้ง USFDA ระบุข้อมูลต่างๆที่มีเหตุมีผลเชื่อได้ว่าปลอดภัยหากมีการใช้ตามที่ระบุแนะนำไว้บนฉลากสินค้า เพื่อขอรับคำรับรองจาก USFDA ปัจจุบัน USFDA ถือว่า
- เมล็ดกัญชงที่ปอกเปลือกออกแล้ว (hulled hemp seed) (USFDA ระบุว่าเมล็ดกัญชง (hemp seed) ตามธรรมชาติแล้วจะไม่มี THC หรือ CBD แต่ถ้ามีก็อาจจะติดมาจากส่วนอื่นของพืชในระหว่างการเก็บเกี่ยวและการจัดการ และมีระดับต่ำมากจนไม่สามารถทำให้เกิดสภาวะ “high” ได้เมื่อบริโภค
- ผงโปรตีนจากกเมล็ดกัญชง (hempseed protein powder) และ
- น้ำมันเมล็ดกัญชง
สินค้าทั้งสามรายการข้างต้น USFDA ถือว่าเป็น GRAS (GenerallyRecognized as Safe) สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่มสำหรับการบริโภค ของมนุษย์ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยต้องมีการแจ้งชื่อส่วนผสมนี้อย่างชัดเจนไว้บนฉลากสินค้าในส่วนที่เป็น ingredient list
ตัวอย่างสินค้าอาหารที่มีส่วนผสมกัญชงที่วางจำหน่ายในตลาดค้าปลีกสหรัฐฯปัจจุบัน
5. ที่ผ่านมา USFDA ไม่มีข้อห้ามชัดเจนเรื่องการใช้กัญชงเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง แต่ปัจจุบัน USFDA กำลังอยู่ในระหว่างการจัดทำกฎระเบียบเข้มงวดสำหรับสินค้าเครื่องสำอาง ในลักษณะเดียวกับกฎระเบียบเข้มงวดของสินค้าอาหาร ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
6. ปัจจุบันกฎหมายยังไม่ยอมรับการนำกัญชง (hemp) ในการผลิตสินค้าอาหารสำหรับสัตว์
7. กฎหมาย FD&C Act ห้ามสินค้าอาหารทุกชนิด ทั้งสำหรับการบริโภคของมนุษย์และสัตว์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ USFDA ที่มีส่วนผสม THC หรือ CBD เข้าสู่ระบบการค้าข้ามมลรัฐ (Interstate commerce) ที่รวมถึงการเสนอขาย การขนส่งและจัดส่งสินค้า
8. การนำเข้าสินค้าภายใต้การควบคุมของ USFDA ที่มีส่วนผสมของ cannabis หรือสารสะกัด cannabis ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบพื้นฐานต่างๆที่ USFDA กำหนดไว้สำหรับสินค้าอื่นที่ USFDA ควบคุม และต้องพิจารณากฎหมายและกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องของหน่วยงาน Drug Enforcement Administration (DEA) ด้วยเช่นกัน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส | 14 มิถุนายน 2566