เวียดนามเตรียมสร้างระบบนิเวศการชำระเงินแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการชำระเงินแบบไร้เงินสด

ด้วยเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบล็อกเชน เวียดนามมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อสร้างระบบนิเวศการชำระเงินแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ณ นครโฮจิมินห์

นาย Pham Tien Dung รองผู้ว่าการธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม (SBV) กล่าวในงานสัมมนาที่จัดขึ้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Cashless Day ปี 2566 ว่าการเชื่อมต่อข้อมูลเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพเต็มรูปแบบของการชำระเงินแบบไร้เงินสด ด้วยการแบ่งปันข้อมูลและการทำงานร่วมกันทั่วทั้งระบบนิเวศ เราสามารถสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนการเข้าถึงทางการเงินและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามมีเป้าหมายที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อสร้างระบบนิเวศการชำระเงินแบบบูรณาการที่เข้าถึงได้ สะดวก และปลอดภัยสำหรับทุกคน

นาย Pham Anh Tuan ผู้อำนวยการฝ่ายการชำระเงินของธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม กล่าวว่า เราได้ตั้งเป้าหมายให้การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการทำธุรกรรมทั้งหมดภายในปี 2568 เราจะจัดลำดับความสำคัญของการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่ครอบคลุม เข้าถึงได้และปลอดภัยมากขึ้นทั่วประเทศ เพื่อให้การชำระเงินแบบดิจิทัลเป็นรูปแบบการทำธุรกรรมที่ต้องการสำหรับทุกคน

ด้วยโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินที่พัฒนาอย่างแข็งแกร่งแล้ว พบว่าเวียดนามมีการชำระเงินเฉลี่ย 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน ตามข้อมูลของผู้อำนวยการฝ่ายการชำระเงินของธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม

ธนาคารกลางกำลังร่างพระราชกฤษฎีกาใหม่เพื่อสร้างกรอบกฎหมายที่ส่งเสริมการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด เขาเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบล็อกเชนในการปรับปรุงการเชื่อมต่อข้อมูลและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เทคโนโลยีเหล่านี้ยังช่วยให้กระบวนการชำระเงินเป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดการทุจริตและข้อผิดพลาด และปรับประสบการณ์การชำระเงินให้เป็นส่วนตัวรวมทั้งเสนอผลประโยชน์และแรงจูงใจที่ตรงเป้าหมายแก่ผู้บริโภค

นาย Phan Van Mai ประธานคณะกรรมการประชาชน กล่าวในงานสัมมนาว่า “การชำระเงินแบบดิจิทัลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอนาคต” นาย Mai เสนอกฎระเบียบเฉพาะเพื่อเร่งการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด เช่น ธุรกรรมที่มีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านด่องต้องชำระเงินผ่านธนาคาร เพื่อเพิ่มการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด หน่วยงานต่างๆภายในเมือง เช่น หน่วยงานสาธารณสุข การศึกษาการประกันภัย และการขนส่ง ดำเนินการธุรกรรมต่างๆแบบไม่ใช้เงินสด ให้แต่ละเมืองได้กำหนดกลยุทธ์ด้านข้อมูล รวมถึงสิ่งจูงใจเพื่อสนับสนุนการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดและจะยังคงทำงานร่วมกับสมาคมธุรกิจและอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดผ่านการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง เขากล่าวเสริม

จากรายงานของธนาคารแห่งรัฐเวียดนาม ปัจจุบันผู้ใหญ่กว่าร้อยละ 75 ทั่วประเทศมีบัญชีธนาคาร การถอนเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการถอนลดลงร้อยละ 3.5 และคิดเป็นมูลค่าลดลงร้อยละ 5.5

งานสัมมนานี้จัดขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของงานวันไร้เงินสด 2566 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน ทั้งเจ้าของธุรกิจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และตัวแทนจากอุตสาหกรรมการธนาคารและฟินเทค

นอกจากนี้เทศกาล Cashless Town Festival จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายน 2566
ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานวันไร้เงินสด 2566 ได้รับความสนใจจากพ่อค้า ผู้บริโภค และผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก และภายในงานยังนำเสนอโปรแกรมส่งเสริมการขายที่หลากหลายสำหรับนักช้อปและนำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่หลากหลายรวมถึงการชำระเงินด้วยโมบายวอลเล็ตและการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด

จัดทำโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์

วิเคราะห์ผลกระทบ

ภาคการเงินและการธนาคารของประเทศเวียดนามมีความตื่นตัวเป็นอย่างมากกับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งปัญญาประดิษย์ (AI) และบล็อกเชน มาใช้ประโยชน์ในการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ทางการเงินแบบบูรณาการและส่งเสริมให้ประชาชนชาวเวียดนามหันมาชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายให้การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดเป็นครึ่งหนึ่งของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดภายในปี 2568 เพื่อการบรรลุเป้าหมายนี้ธนาคารกลางมีการร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อส่งเสริมการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด รวมทั้งมีการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานภายในเมืองเพื่อออกกลยุทธ์ที่สร้างแรงจูงใจให้กับประชาชน ซึ่งนโยบายส่งเสริมสังคมไม่ใช้เงินสด (Cashless Society) ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวเวียดนาม

นำเสนอโอกาส/แนวทาง

ในปี 2568 ธนาคารกลางของประเทศเวียดนามตั้งเป้าหมายให้ประชาชนชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดร้อยละ 50 ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาดำเนินธุรกิจภายในประเทศเวียดนามควรให้ความสำคัญกับการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิสด์ ควรจะมีการนำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่หลากหลายให้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินด้วยโมบายวอลเล็ตและการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังสามารถกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับช่องทางการชำระเงินต่างๆ ได้อีกด้วย

 

 

 

thThai