ข่าวประจำสัปดาห์ สคต. ณ เมืองฮ่องกง ระหว่าง 17 – 23  กรกฎาคม 2566

 

เทรนด์ความต้องการอสังหา ฯ ของไทยจากชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกว่าเหตุวิกฤติที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนอาจจะจบลงแล้ว เห็นได้จากปริมาณยอดขายอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้น แหล่งข่าวในธุรกิจอสังหาฯ เปิดเผยว่ามีบริษัทพัฒนาอสังหา ฯ ของไทยรายหนึ่งคาดว่า ความต้องการในส่วนของนักลงทุนต่างชาติน่าจะมียอดเพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งถือเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย

 

เนื่องด้วยปัจจัยค่าครองชีพของประเทศไทยที่ถูกกว่า และรูปแบบการใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูดให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากเลือกที่จะย้ายถิ่นฐานมาประเทศไทย หรือที่เรียกว่า “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจากการผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายของการแพร่ระบาดโรคโควิด -19 ที่ส่งผลให้ยอดขายอสังหา ฯ ลดลง และมีสินค้าอสังหา ฯ คงค้างในสต๊อกเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้ปัจจัยทางด้านราคาบ้านในประเทศไทยที่อยู่ประมาณ 1 ใน 4 เมื่อเทียบกับราคาบ้านของฮ่องกง รวมถึงโอกาสสำหรับกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่สามารถเข้าศึกษาในโรงเรียนนานาชาติได้ง่ายกว่าก็เป็นปัจจัยที่มีส่วนช่วยในการตัดสินใจ อีกทั้งการที่ชาวฮ่องกงจำนวนมากได้รับประโยชน์จากนโยบายที่เอื้อให้ชาวต่างชาติเข้าอยู่อาศัยในประเทศไทยได้นานขึ้น  อาทิ โครงการให้วีซ่าแก่ชาวต่างชาติเพื่อให้สามารถพำนักอยู่ในประเทศไทยพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวได้นานขึ้น (A long-term resident visa scheme) ซึ่งโครงการดังกล่าวพยายามดึงดูดนักลงทุนที่มั่งคั่งหรือชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถจำนวน 1 ล้านคนให้เข้ามาในอาศัยในประเทศเป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ที่กำหนดก็มีสิทธิ์ทำงานในประเทศพร้อมทั้งสามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้หลายครั้ง

 

จากสถิติข้อมูลของรัฐบาลพบว่า ในปี 2561 และ 2562 มีผู้ซื้อชาวต่างชาติได้เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าถึง 158,600 ล้านบาท (4,590 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ) แต่ต่อมาในปี 2563 ถึง 2565 มียอดขายลดลงราว 1 ใน 3 รวมทั้งสิ้นกว่า 160,300 ล้านบาท โดยผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Origin Property ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ผู้ซื้อชาวฮ่องกงถือเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

 

ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็นจาก สคต.

 

จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์พบว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 1 ปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยชาวต่างชาติที่มีการทำสัญญาซื้อขายก่อนหน้าสามารถกลับมารับโอนกรรมสิทธิ์ได้เพิ่มขึ้น และยังมีชาวต่างชาติอีกส่วนหนึ่งที่ซื้อห้องชุดที่สร้างเสร็จจากผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น

 

หากประเทศไทยสามารถสามารถดึงดูดแหล่งเงินนี้เข้ามาได้ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้าประเทศจำนวนมาก รวมทั้งสามารถเป็นตลาดแรงงานของผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะช่วยต่อยอดการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า รวมไปถึงกำลังซื้อของชาวต่างชาติที่ขยายออกไปอย่างมหาศาล

 

ในฐานะของสคต. ณ เมืองฮ่องกงได้เล็งเห็นความสำคัญ และให้การสนับสนุนธุรกิจในทุกภาคส่วนรวมไปถึงธุรกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ หากมีผู้ประกอบการธุรกิจในภาคอสังหาฯ ท่านใดประสงค์จะมาทำการเปิดตัวสินค้าในฮ่องกง ทางสคต. ณ เมืองฮ่องกงยินดีให้การสนับสนุนอย่างยิ่ง ดังตัวอย่างโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Forestias) จากบริษัท Magnolia Quality Development Corporation Limited ที่จะมาดำเนินงานจัดกิจกรรมการขาย Public Event Sales ภายใต้ชื่องาน “Thailand Property for Hong Kong by MQDC” ณ Hotel Hyatt Regency Tsim Sha Tsui Hong Kong ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2566 เวลา 11.00 – 19.00 และหากสนใจรับฟังหัวข้อ Investment Property in Thailand ก็สามารถเข้ารับฟังได้ในช่วงเวลา 14.30 – 15.30 ของวันดังกล่าว

 

ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจนำสินค้ามาเสนอในฮ่องกง สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง หรือสามารถติดต่อได้ที่อีเมล์ thaicomm@netvigator.com

 

แหล่งข้อมูล : -หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม 2566

– ข้อมูล https://www.reic.or.th/Research/Index/291

 

thThai