การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 59.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 5.06% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมปี 2565 ส่วนการนำเข้าเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 67.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 12.92% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมปี 2565
การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเมษายน – กรกฎาคม 2566 มีมูลค่ารวม 244.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 5.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน – กรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 272.41 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 11.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
- การค้าสินค้า
การส่งออก
เดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 32.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 38.34 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 25.35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 26.89 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ แร่เหล็ก กากพืชน้ำมัน เมล็ดพืชน้ำมัน เซรามิกและเครื่องแก้ว ผักและผลไม้ สินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัว ได้แก่ สินค้าปิโตรเลียมธัญพืช อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์จากปอกระเจา ถ่านหิน
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-กรกฎาคม 2566) มีมูลค่า 136.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 159.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 102.71 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 110.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
การนำเข้า
เดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 52.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 63.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 35.65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 38.55 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ เมล็ดธัญพืช วัตถุดิบผลิตสี ทองคำ กำมะถันและแร่โลหะ เคมีภัณฑ์ สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ เงิน สินค้าวิศวกรรม ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย ถ่านหิน ปุ๋ยและส่วนประกอบ
ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-กรกฎาคม 2566) มีมูลค่า 213.20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 247.31 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 136.49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 148.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ดุลการค้าสินค้า
เดือนกรกฎาคม 2566 ขาดดุลการค้า 20.67 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 25.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสะสม 4 เดือนแรกมูลค่า 76.98 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วง 4 เดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 87.99 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
- การค้าบริการ*
เดือนกรกฎาคม 2566 การส่งออกบริการมีมูลค่า 27.17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 24.26 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 14.85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 14.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 12.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 10.20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการบริการ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-กรกฎาคม 2566) มีมูลค่าเกินดุล 48.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วง 4 เดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 41.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข้อคิดเห็น
- มูลค่าการส่งออกสินค้าอินเดียในเดือนกรกฎาคม 2566 หดตัวลง 16% เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีที่แล้ว โดยสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญได้แก่ กลุ่มสินค้าปิโตรเลียม ซึ่งมูลค่าที่ลดลงมาจากราคาสินค้าที่ปรับตัวลงตามราคาโลก (การส่งออกไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักในเชิงปริมาณ) และสินค้ากลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับที่ตลาดคู่ค้าหลักของอินเดีย ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ปริมาณความต้องการสินค้าดังกล่าวลดลง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอินเดียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นไปแตะที่ระดับ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ใน 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ (เม.ย.-ก.ค. 66) และเฉพาะยอดการส่งออกโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 125% หรือคิดเป็นมูลค่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ
- อินเดียสามารถลดมูลค่าการนำเข้าจากประเทศคู่ค้าหลักอย่างจีน สหรัฐอเมริกา และสหรัฐ
อาหรับเอมิเรตได้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่มีการนำเข้าจากรัสเซียในช่วง 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญที่ระดับ 20.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทำให้รัสเซียก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ 2 ของอินเดียรองจากจีน โดยสินค้าหลักที่อินเดียนำเข้าจากรัสเซียได้แก่ น้ำมันและปุ๋ย
- อินเดียออกประกาศข้อบังคับใหม่สำหรับการนำเข้าสินค้าในหมวดคอมพิวเตอร์ 7 รายการ
อาทิ แล็ปท็อป แท็ปเล็ต คอมพิวเตอร์แบบ All in one และส่วนประกอบอื่นที่สำคัญ โดยผู้นำเข้าจะต้องมีใบอนุญาตตามที่หน่วยงาน Directorate General of Foreign Trade (DGFT) กำหนด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป ข้อบังคับใหม่ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการผลิตสินค้าหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ในประเทศ เพิ่มอัตราการจ้างงานในอุตสาหกรรมดังกล่าว และให้ผู้ผลิตในประเทศหันมาใช้สิทธิประโยชน์จากนโยบาย Production Linked Incentive (PLI) สำหรับสินค้าหมวด IT hardware มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน (อินเดียนำเข้าสินค้า 7 รายการข้างต้นจากจีนราว 70-80%) การออกประกาศข้อบังคับใหม่ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกสินค้าหมวดดังกล่าวไปยังอินเดียรวมถึงประเทศไทย โดยในช่วง ม.ค.- มิ.ย. 66 ไทยส่งออกสินค้าหมวดคอมพิวเตอร์ อุปกรณและส่วนประกอบไปยังอินเดียมูลค่ารวม 156 ล้านเหรียญสหรัฐ
———————————————–
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี
* หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนมิถุนายน 2566 ในส่วนของข้อมูลของเดือนกรกฎาคม 2566 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง:
– Ministry of Commerce and Industry, 14 August 2023, Latest Trade Figures
– India Briefing, 10 Aug 2023, India’s Import Restrictions on Laptops, Tablets, and PCs to be Implemented from Nov 1, 2023
– The Times of India, 15 Aug 2023, Goods exports decline for 6th month, down 16% in July
– ABP Live, 15 Aug 2023, India’s Imports from Russia Doubled In April-July Due To Increase In Crude Oil Imports