ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์สถิติและข้อมูลแห่งชาติโอมาน แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้รับการกระตุ้นโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 จากภาคที่ไม่ใช่ไฮโดรคาร์บอน และกิจกรรมภาคน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ในไตรมาสแรกของปีนี้ GDP ที่แท้จริงของโอมานเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
ธนาคารกลางโอมาน (Central Bank of Oman : CBO) แถลงว่ายอดสินเชื่อคงค้างทั้งหมดที่สถาบันรับฝากเงิน อื่น (Other Depository Corporations: ODCs) (ประกอบด้วยธนาคารดั้งเดิมทั่วไป) และธนาคารอิสลามให้ไว้เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 หรือมูลค่า 78.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน โดยมีสินเชื่อของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) หรือมูลค่า 66 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ธนาคารกลางกล่าวว่าเงินฝากที่ถือไว้กับ ODCs เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 (YoY) หรือมูลค่า 71.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่เงินฝากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 8คิดเป็นมูลค่า 46.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนงบดุลรวมของธนาคารทั่วไปแสดงยอดคงค้างรวมของสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของการให้สินเชื่อแก่ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 หรือ 52.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่การลงทุนในหลักทรัพย์โดยรวม ลดลงร้อยละ 5.9 หรือ 12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ เดือนมิถุนายน 2566
การลงทุนในพันธบัตรเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลก็ลดลงร้อยละ 5.1 เป็น 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่หลักทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 90.8 เป็น 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินทรัพย์รวมของธนาคารอิสลาและหน้าต่างทางการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบเป็นรายปีหรือ 18.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และคิดเป็นร้อยละ 17.2 ของสินทรัพย์ของระบบธนาคาร ณ เดือนมิถุนายน 2566 หน่วยงาน Sharia ระบบการการเงินที่อยู่ภายใต้กรอบหลักศาสนาอิสลาม หรือ หลักชะรีอะฮ์จัดหาเงินทุน 15.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ธนาคารกลางโอมานกล่าวว่ายอดเงินฝากในธนาคารอิสลามและหน้าต่างทางการเงินขยายตัวสูงขึ้นร้อยละ 10.5 หรือ 13.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในแง่ของปริมาณเงินรวม ณ เดือนมิถุนายน 2023 ปริมาณเงินตามความหมายกว้าง (M2) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 2.8 เป็นมูลค่า 55.60 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของเงินฝากประจำและเงินฝากออมทรัพย์ของประชาชนที่ธนาคารพาณิชย์ (quasi-money) ร้อยละ 5.9% แม้ว่าปริมาณเงินตามความหมายแคบ (M1) เงินฝากกระแสรายวันทั้งหมดที่อยู่ในมือของประชาชน บริษัท ห้างร้าน และองค์กรธุรกิจอื่นๆลดลงร้อยละ 4.8
เศรษฐกิจโอมาน
ธนาคารโลกระบุในรายงานเมื่อเดือนเมษายนว่า ในปี 2566 โอมานเป็นประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศ GCC โดยคาดว่าอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4.3 รายงานชี้ให้เห็นว่าภายใต้สถานการณ์ที่การเติบโตชะลอตัวลง แต่การเติบโตที่ค่อนข้างสูงของโอมานคาดว่าจะมาจากความยั่งยืนของกำลังการผลิตไฮโดรคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งภาคการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยองค์กร International Energy Agency (IEA) ประเมินว่า โอมานมีข้อได้เปรียบทางด้านภูมิประเทศที่เอื้อต่อการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว และรัฐบาลโอมานส่งเสริมการลงทุนด้านนี้ “แม้ว่าความต้องการน้ำมันจะลดลง แต่การเติบโตที่ค่อนข้างสูงในโอมานคาดว่าจะยังคงไว้ซึ่งกำลังการผลิตไฮโดรคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยความช่วยเหลือของการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่” ธนาคารโลกกล่าว
โอมานผ่านงบประมาณปี 2566 ด้วยการขาดดุล 3.38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มีขนาดร้อยละ 3 ของ GDP ในเดือนมกราคม งบประมาณของโอมานคาดการณ์รายได้ที่ 30.39 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จาก 27.53 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และรายจ่ายที่ 33.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากปีก่อนหน้า
การค้าต่างประเทศ
เศรษฐกิจของโอมานยังคงมีความแข็งแกร่งโดยภาคน้ำมันและก๊าซ เมื่อปี 2565 โอมานสามารถผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 กำลังผลิตเฉลี่ย 1.06 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้การส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติคิดเป็นร้อยละ 60 ของการส่งออกทั้งหมด คาดว่ากำลังผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวของโอมานจะมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 10 ไปจนถึงปี 2568 ในขณะที่ภาคการผลิต/สำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) สูงถึงร้อยละ 70
ปี 2565 โอมานส่งออกสินค้ารวม 62.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซ ปิโตรเลี่ยมกลั่น ปุ๋ยไนโตรเจน และผลิตภัณฑ์เหล็ก ตลาดส่งออกได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้ และซาอุดิอาระเบีย
การนำเข้ามูลค่า 36.89 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ ปิโตรเลี่ยมกลั่น รถยนต์ เหล็ก โทรศัพท์ และทองคำ โดยนำเข้าจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย และกาตาร์ สินค้าส่งออกได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซ ปิโตรเลี่ยมกลั่น ปุ๋ยไนโตรเจน ผลิตภัณฑ์เหล็ก ตลาดส่งออกได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้อ และซาอุดิอาระเบีย
การค้าระหว่างไทยกับโอมาน
จากสถิติการค้าระหว่างไทยและโอมานล่าสุดในช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 มีการค้าขายระหว่างกันมูลค่ารวม 36,280 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 22.8) แบ่งออกเป็น
– ภาคการส่งออกสินค้า มูลค่ารวม 6,892 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 15.8) เช่น เคมีภัณฑ์ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง และตู้เย็น เป็นต้น
– ภาคการนำเข้าสินค้า มูลค่ารวม 29,387 ล้านบาท (ลดลงร้อยละ 24.3) ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ เหล็กและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เคมีภัณฑ์ และน้ำมันดิบ
——————————————————-
ที่มา : Gulf Business