Aleph Alpha ซึ่งเป็นบริษัท Start Up ด้าน Ai ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ได้รับการสนับสนุนด้านการค้นคว้าวิจัยขนาดใหญ่ ซึ่งอุทยานนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Ipai – Innovation Park Artificial Intelligence) ได้ออกมาประกาศว่า จะร่วมงานกับ Aleph Alpha อย่างเป็นทางการ โดยการร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ Aleph Alpha สามารถทำการวิจัยร่วมกับนักวิจัยชั้นนำของโลกได้ ทั้งนี้  Ipai ถือเป็นระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้านปัญญาประดิษฐ์ (Ai) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ภายในปี 2027 Ipai จะมีพื้นที่ถึงกว่า 30 เฮกตาร์ สำหรับใช้เป็นประโยชน์และสร้างห้องวิจัยด้าน Ai ขึ้น รวมถึงพัฒนาศูนย์ข้อมูล (Data Center) และศูนย์ Start Ups เพื่อใช้พื้นที่ร่วมกัน สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของเยอรมนีในฐานะศูนย์กลางการผลิตและเร่งพัฒนาด้าน Ai ขึ้น เพื่อให้ตามคู่แข่งให้ทันหรือป้องกันไม่ให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังมากจนเกินไปนัก เพราะทุกวันนี้ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนได้ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการผลักดันการพัฒนา Ai ในประเทศของตัวเองและรุดหน้าไปอย่างมาก

 

นาย Winfried Kretschmann ผู้ว่าการรัฐ Baden-Württemberg ในสังกัดพรรคยุค 90 พันธมิตรสีเขียว (Bündnis 90/Die Grünen) และนาย Volker Wissing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลและการขนส่งสังกัดพรรคเพื่ออิสรภาพและประชาธิปไตย (FDP – Freie Demokratische Partei) ได้ร่วมกันเปิดความร่วมมืออย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนาย Wissing กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างการเติบโตและการพัฒนาด้านนวัตกรรม  Ai ของประเทศ และความร่วมมือนี้จะมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงและศักยภาพในด้าน Ai ในระดับโลก และจะทำให้เยอรมนีกลายเป็นแหล่งนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญ” ด้านนาย Kretschmann ได้ออกมาตอกย้ำและเชิญชวนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำงานกับศูนย์นี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการมีความร่วมมือนี้และได้กล่าวว่า “ด้วยความร่วมมือระหว่าง Ipai กับ Aleph Alpha ได้พัฒนา Hup-AI ให้มีความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติมากขึ้น และจะทำให้สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้น ไปใช้งานด้าน AI ในธุรกิจระดับ SMEs ได้อีกด้วย” ซึ่งการที่ Ipai เข้าไปเป็นตัวกลางในการเชิญชวนภาคเอกชนและนักวิจัยต่าง ๆ ให้เข้ามาทำงานร่วมกัน บริษัทที่มีชื่อเสียงรายใหญ่ ๆ อย่าง Porsche, Würth และ Schunk (ผู้เชี่ยวชาญด้านโรบอท) ได้ตบเท้าเข้าร่วมกับ Ipai เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ Ipai มีพื้นที่รองรับคนได้กว่า 5,000 คน สามารถทำงานค้นคว้าและพัฒนา Ai ร่วมกัน

 

สำหรับ ผู้ลงทุนหลักของ Ipai คือ มูลนิธิ Dieter-Schwarz ซึ่งมีรายได้มาจากกำไรของมูลนิธิ Lidl และมูลนิธิ Kaufland อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการกล่าวถึงตัวเลขเงินลงทุนที่มูลนิธิ Dieter-Schwarz ได้ใช้ไป ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า เงินลงทุนน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านยูโร โดยรัฐ Baden-Württemberg เองก็ได้ร่วมลงทุนกับ Ipai จำนวน 50 ล้านยูโร ประเด็นสำคัญ Ipai จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบ Ai ด้านการปรับตัวเข้าสู่ระบบดิจิทัลในภาคการผลิต โลจิสติกส์ และ การค้า รวมถึงการประยุกต์ใช้งานด้านการบริหารของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ซึ่งการใช้งานการบริหารของหน่วยงานของรัฐนี้ เป็นเรื่องที่ Aleph Alpha จากเมือง Heidelberg ได้พัฒนามาตลอด จนทำให้บริษัทกลายเป็น Start Up ด้าน Ai ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรป โดยนาย Jonas Andrulis ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัทเองก็ได้ตั้งใจและบุกเบิกการพัฒนาธุรกิจด้านดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น ในวันนี้นาย Andrulis และทีมงานกว่า 60 ชีวิต ได้พัฒนาระบบการสื่อสารด้วยเสียง Luminous ขึ้นมา โดยระบบดังกล่าวได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล จึงสามารถประมวลผลภาษามนุษย์ และสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเอกสารได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ Aleph Alpha กลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของบริษัทคู่แข่งจากสหรัฐ ฯ OpenAI ที่ในเวลานี้เป็นผู้พัฒนาระบบการสื่อสารด้วยเสียง GPT-4 ที่เป็นผู้พัฒนาระบบ Ai ChatGPT ขึ้น จนเป็นที่ตื่นตากันในปัจจุบันไปโดยอัตโนมัติ นาย Hinrich Schütze นักภาษาศาสตร์เชิงคำนวณ (Computational Linguists) เห็นว่า ในพื้นที่ดังกล่าว Aleph Alpha มีโอกาศที่จะแข่งขันได้เป็นอย่างดี โดย Ipai และ มูลนิธิ Dieter-Schwarz ต้องการที่จะรักษาการค้นคว้าและวิจัยด้าน Ai ไว้ในยุโรปให้ได้ และต้องการที่จะให้มีการร่วมงานกันกับ Aleph Alpha มากขึ้นไปอีก นาย Reinhold Geilsdörfer ผู้บริหารมูลนิธิ Dieter-Schwarz กล่าวว่า “เราได้ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Aleph Alpha ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโอกาสในการพัฒนาตัวออกไปอย่างมหาศาล”

 

จาก Handelsblatt 25 กันยายน 2566

thThai