ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ได้ทุ่มเงินในการพัฒนานวัตกรรมสินค้าอาหารสุนัข จากพืช (Plant Based) ได้แก่ แบรนด์ Lily’s Kitchen บริษัท Nestlé ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร Plant Based สำหรับสุนัขชื่อ Plant Power ในเดือนมกราคม 2565 เนื่องจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัท OMNI ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหาร Plant Based ได้เพิ่มการผลิตอาหาร Plant Based สำหรับสุนัขในปี 2564 โดยยอดขายในช่วงเดือนกันยายน 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 600 ซึ่งบริษัท OMNI ได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2571 ตลาดสินค้าอาหาร Plant Based สำหรับสุนัขจะขยายตัวร้อยละ 12
องค์กร Vegan Society ได้สำรวจผู้เลี้ยงสุนัขในสหราชอาณาจักรพบว่าร้อยละ 24 ของชาว สหราชอาณาจักรที่สำรวจเคยซื้อสินค้าอาหาร Plant Based สำหรับสุนัข โดยร้อยละ 45 ของชาวสหราชอาณาจักร ที่สำรวจ มีความสนใจในการเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based ทั้งนี้จากการสำรวจโดย Mintel พบว่าร้อยละ 34 ของชาวสหราชอาณาจักรเห็นว่าอาหาร Plant Based ดีต่อสุขภาพสุนัขมากกว่าอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ โดยชาวสหราชอาณาจักรกลุ่มอายุ 16 – 24 มีแนวโน้มที่จะเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based
อย่างไรก็ตามมีข้อถกเถียงถึงการเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based ว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยสมาคมสัตวแพทย์ แห่งสหราชอาณาจักร (British Veterinary Association) เห็นว่าตามทฤษฎีแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based อย่างไรก็ดีตามพระราชบัญญัติสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare Act 2006) ระบุว่าสัตว์เลี้ยงทุกตัวมีสิทธิตามกฎหมายในการได้รับ “อาหารที่เหมาะสม” ซึ่งหากเจ้าของไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจได้รับโทษปรับสูงสุด 20,000 ปอนด์ และโทษจำคุกสูงสุดหนึ่งปี ดังนั้นการเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based ควรอยู่ภายใต้การดูแลของนักโภชนาการอาหารสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่าการเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพของสุนัขหากทำอย่างถูกต้อง จากการศึกษาสุนัขกว่า 2,500 ตัว พบว่าสุนัข
ที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหาร Plant Based ที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนจะมีสุขภาพที่ดีกว่าและมีโอกาสไปหาสัตวแพทย์น้อยกว่าสุนัขที่กินเนื้อสัตว์ แม้ว่าผลการวิจัยจะสนับสนุนการเลี้ยงสุนัขด้วยอาหาร Plant Based และดึงดูดเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่รับประทานอาหาร Vegan ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1-2 ของจำนวนประชากรในสหราชอาณาจักร หรือประมาณ 700,000 คน แต่ตลาดอาหาร Plant Based สำหรับสุนัขยังเป็นตลาดขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอในการรักษาตลาดสินค้าอาหาร Plant Based สำหรับสุนัขไว้ได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตค่าครองชีพในสหราชอาณาจักรที่ได้ส่งผลให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงมีราคาสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมากมองหาสินค้าราคาถูกมากกว่าการซื้อสินค้าระดับพรีเมียมให้กับสัตว์เลี้ยง
ที่มา: The Grocer และ Plant Based News
ข้อมูลเพิ่มเติม/ ความเห็น สคต.
ตลาดสหราชอาณาจักรเป็นตลาดใหญ่สำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง โดยปัจจุบันเจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าสัตว์เลี้ยงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง “pet humanisation” เช่น ซื้อเสื้อผ้า หรือ ของใช้ให้กับสัตว์เลี้ยง หรือ เปลี่ยนให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารประเภท plant-based โดย สคต. เห็นว่าสหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการณ์ไทยมีโอกาสเข้ามาทำตลาด ซึ่งการพัฒนาสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงนอกจากจะต้องคำนึงถึงประเด็นเรื่องคุณค่าอาหารแล้ว ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงพฤติกรรมผู้บริโภคของสหราชอาณาจักรประกอบด้วย โดยในเบื้องต้นอาจพิจารณาประเด็น การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัตถุดิบจากธรรมชาติประเด็นเรื่อง Ethical ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคของสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญ และมีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออาหารและของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง