s ภาพรวมเศรษฐกิจ s
- เศรษฐกิจของชิลีในเดือนสิงหาคม 2566 กลับมาหดตัวอีกครั้ง ที่อัตรา -0.9% เนื่องจากได้รับผลกระทบหลักจากตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนที่ลดลง อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางชิลีระบุว่าเป็นการหดตัวลงเพียงเล็กน้อยแต่ในภาพรวมถือว่ามีการปรับตัวดีขึ้น โดยตัวเลขภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่และภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีการขยายตัวที่ 1.7% และ 0.5% ตามลำดับ สำหรับในส่วนของภาคธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก และภาคบริการแม้ว่าจะยังคงติดลบแต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้นกว่าเดิม โดยหดตัวที่ -1.9% และ -1.2% ตามลำดับ
- ในส่วนของรายละเอียดในแต่ละด้านประจำเดือนสิงหาคม 2566 สคต. ณ กรุงซันติอาโก ขอสรุปรายละเอียด ดังนี้
1. การบริโภคภาคเอกชน
การบริโภคภาคเอกชนในชิลีในเดือนสิงหาคม 2566 ถือว่าอยู่ในช่วงชะลอตัว โดยตัวเลขการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้าลดลง –2.0% ปริมาณการจำหน่ายสินค้าคงทน (รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน) หดตัวลง -4.9% ปริมาณการจำหน่ายสินค้าในหมวดสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม หมวดยางรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ หมวดอาหาร หมวดเครื่องดื่มและยาสูบ และหมวดยาและเวชภัณฑ์ พบว่ามีการหดตัวที่ -13.9% , -11.9% -7.1%, 5.4% และ -5.3% ตามลำดับ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนสิงหาคม 2566 มีการปรับระดับลดลงเล็กน้อย จากเดิมซึ่งอยู่ที่ระดับ 40.2 ในเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 40.1
2.การลงทุน
บรรยากาศการลงทุนในภาคเอกชนและภาครัฐของชิลีในภาพรวมประจำเดือนสิงหาคม 2566 พบว่าอยู่ในระดับทรงตัวอีกครั้งหลังจากที่มีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยปริมาณการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับใช้ในการก่อสร้างลดลง -14.2% และตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้างในโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการอาคารสำนักงาน (คิดเป็นตารางเมตร) ลดลง -19.7%
สำหรับดัชนีของความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมในเดือนสิงหาคม 2566 มีการปรับระดับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จากที่ระดับ 41.1 มาอยู่ที่ระดับ 43.2 โดยผลจากการสำรวจพบว่าความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ระดับ 64.29 รองลงมา ได้แก่ ภาคการค้า ภาคการผลิต และภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง โดยอยู่ที่ระดับ 46.6 41.1 และ 21.4 ตามลำดับ
3. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ตัวเลขการว่างงานของประเทศชิลีในเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ 9.0% ของจำนวนผู้ใช้แรงงานทั้งหมดในประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่มีการปรับระดับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 และถือเป็นตัวเลขการว่างงานที่สูงที่สุดในรอบสองปี นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564
สภาวะเงินเฟ้อของประเทศชิลีมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ 5.3% ทั้งนี้ สินค้า 3 หมวดแรกที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 12 เดือน ได้แก่ (1) หมวดการศึกษา (2) หมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (3) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 11.2% 10.9% และ 9.2% ตามลำดับ
4. การส่งออก-นำเข้า
การส่งออกสินค้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 มีมูลค่ารวมที่ 65,713 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่
สินค้า | ม.ค.-ส.ค. (ล้านเหรียญสหรัฐ) | ขยายตัว
(65/66) |
|
ปี 2565 | ปี 2566 | ||
สินแร่ | 36,548 | 36,225 | -0.9% |
เนื้อสัตว์ | 8,431 | 8,646 | 2.6% |
เคมีภัณฑ์ | 6,006 | 7,279 | 21.2% |
ผลไม้ | 4,395 | 4,918 | 11.9% |
ปลาแซลมอน | 3,934 | 4,067 | 3.4% |
เยื่อกระดาษ | 1,831 | 1,598 | -12.7% |
ไวน์ | 1,097 | 835 | -23.9% |
การนำเข้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 มีมูลค่ารวมที่ 53,277 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -18.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่
สินค้า | ม.ค-ส.ค. (ล้านเหรียญสหรัฐ) | ขยายตัว
(65/66) |
|
ปี 2565 | ปี 2566 | ||
สินค้าหมวดพลังงาน | 38,729 | 31,004 | -19.9% |
สินค้าอุปโภคบริโภค | 20,220 | 14,660 | -27.5% |
สินค้าทุน | 13,029 | 11,781 | -9.6% |
-รถยนต์เชิงพาณิชย์ | 2,083 | 1,553 | -25.5% |
-เครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมก่อสร้าง | 805 | 953 | 18.4% |
จากการที่ตัวเลขการส่งออกของชิลีสูงกว่าตัวเลขการนำเข้า ทำให้ชิลีได้ดุลการค้า จำนวน 12,436 ล้านเหรียญสหรัฐ
5. การค้าของชิลีกับไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน
ชิลีนำเข้าสินค้าจากไทยระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 มูลค่า 372.39 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -37.72% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ซึ่งสินค้าที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
- รถยนต์และส่วนประกอบ (91 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -55.48%)
- เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (87 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -32.82%)
- ปลากระป๋อง (40 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 49.96%)
- เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า (75 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.30%)
- อัญมณีและเครื่องประดับ (18.67 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -15.82%)
สำหรับตัวเลขการนำเข้าของชิลีจากกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่
ชิลีนำเข้าจากเวียดนาม 774.33 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -18.26%)
ชิลีนำเข้าจากไทย 372.39 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -37.72%)
ชิลีนำเข้าจากอินโดนีเซีย 198.46 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -34.38%)
ชิลีนำเข้าจากมาเลเซีย 198.46 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -37.53%)
ชิลีนำเข้าจากสิงคโปร์ 52.12 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -8.26%)
ชิลีส่งออกสินค้าไปยังประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 ที่มูลค่า 434.25 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -6.25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ซึ่งสินค้าที่ส่งออกไปยังไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
- ทองแดง (83 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -16.47%)
- ปลาแซลมอนและอาหารทะเล (24 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -11.29%)
- เยื่อกระดาษ (34 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -12.00%)
- สินแร่อื่น ๆ (34.13 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 711%)
- ผลไม้และผลิตภัณฑ์จากธัญพืช (37 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.27%)
สำหรับตัวเลขการส่งออกของชิลีไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่
ชิลีส่งออกไปยังไทย 434.25 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -6.25%)
ชิลีส่งออกไปเวียดนาม 236.14 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -21.69%)
ชิลีส่งออกไปมาเลเซีย 235.50 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 9.73%)
ชิลีส่งออกไปอินโดนีเซีย 100.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -29.25%)
ชิลีส่งออกไปยังสิงคโปร์ 46.30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -72.67%)
มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-ชิลี ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 806.64 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -23.98%) โดยชิลีส่งออกสินค้าไปยังไทยมากกว่านำเข้าจากไทย จึงทำให้ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าที่ 61.86 ล้านเหรียญสหรัฐ
___________________________
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก
ตุลาคม 2566