ปัจจุบันผู้บริโภคสหรัฐฯมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าในลักษณะซื้อสินค้าที่จำเป็นเป็นการล่วงหน้าก่อนเวลาที่จำเป็นต้องใช้จริง นานมากยิ่งขึ้น พฤติกรรมนี้นี้เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2019 และดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ร้านค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯ เช่น Amazon, Target และ Walmart ตอบสนองและสนับสนุนพฤติกรรมการซื้อสินค้าในลักษณะนี้ด้วยการเริ่มวางจำหน่ายสินค้าและทำการส่งเสริมการขายเร็วกว่าที่เคยปฏิบัติในอดีต เช่น เริ่มวางจำหน่ายสินค้าสำหรับใช้ในการเรียนการศึกษาเร็วขึ้นเป็นในเดือนกรกฏาคมก่อนที่โรงเรียนจะเปิดเรียนในเดือนกันยายน เริ่มวางจำหน่ายสินค้าสำหรับเทศกาล Halloween เร็วขึ้นเป็นเดือนกันยายนก่อนเทศกาลในปลายเดือนตุลาคม และเริ่มวางจำหน่ายสินค้าเทศกาลคริสต์มาสเร็วขึ้นเป็นเดือนตุลาคม
ปัจจุบันผู้บริโภคสหรัฐฯมีแนวโน้มสูงที่จะทำการศึกษาหาข้อมูลก่อนทำการตัดสินใจซื้อสินค้า โดยแหล่งข้อมูลที่ได้รับความนิยมสุงสุดคือข้อมูลทางออนไลน์ และยังคงให้ความสำคัญสูงเป็นอันดับหนึ่งกับสินค้าลดราคา เทศกาลทุ่มลดราคาสินค้า เช่น Black Friday และ Cyber Monday ยังคงได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภค ในปี 2023 Black Friday หรือเวลาทุ่มลดราคาของร้านค้าปลีกในสหรัฐฯจะตรงกับวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2023 และ Cyber Monday หรือเวลาทุ่มลดราคาของร้านค้าปลีกในระบบออนไลน์ในสหรัฐฯจะตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2023 อย่างไรก็ดี ในปีนี้ร้านค้าปลีกบางรายในสหรัฐฯ เช่น Home Depot เริ่มลดราคา Black Friday มาแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน โดยตั้งชื่อใหม่ว่า Spring Black Friday
ที่มา: 1. National Retail Federation: “2023 holiday shopping outlook”, by Lea Grgich, October 5, 2023
2. USA Today: “Get ready, get set, get shopping! Here’s when Black Friday and Cyber Monday are in 2023” by Anna Kaufman, October
6, 2023
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น สคต ลอสแอนเจลิส
ระยะเวลาการนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ปกติมีอยู่ 4 ช่วงเวลา คือ
– ระยะเวลาที่การนำเข้าสหรัฐฯอยู่ในระดับต่ำ (slow season) คือ เดือนมกราคม ถึง มีนาคม
– ระยะเวลานำเข้าสินค้าผักผลไม้สด (produce shipping season) คือ เดือนเมษายน ถึง กรกฏาคม
– ระยะเวลาสูงสุดของการนำเข้าสหรัฐฯ (peak season) คือ ประมาณกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการนำเข้าสินค้าสำหรับการขายในช่วง Back to school การนำเข้า บรรลุจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่ผู้ค้าปลีกสหรัฐฯจะเร่งหาสินค้าเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าสำหรับเทศกาลต่างๆมาวางจำหน่าย
– ระยะเวลานำเข้าสินค้าสำหรับช่วงเทศกาล (holiday shipping season) อาจดำเนินต่อเนื่องไปในเดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม
นับตั้งแต่เกิดวิกฤต COVID-19 เป็นต้นมา ช่วงสูงสุดของการนำเข้าสหรัฐฯดูเหมือนจะขยับเลื่อนขึ้นมาเป็นเดือนกรกฏาคม พฤติกรรมการซื้อสินค้าล่วงหน้าก่อนเวลาที่จำเป็นต้องใช้ของผู้บริโภคสหรัฐฯหากยังคงดำเนินต่อไป มีโอกาสสูงที่จะนำไปสู่คำสั่งซื้อ การจองตู้สินค้าและพื้นที่บนเรือขนส่งสินค้า ที่อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเป็น
เงื่อนไขที่ไปกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดพฤติกรรมการเร่งซื้อหาสินค้าล่วงหน้าก่อนความจำเป็นต้องใช้จริงคาดว่าส่วนหนึ่งมาจาก สภาวะเงินเฟ้อ การเติบโตของอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตการ์ดที่เป็นผลมาจากการเติบโตของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และตัวแปรอื่นที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งในสหรัฐฯและในประเทศแหล่งอุปทานที่ส่งผลเป็นความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจ ระบบห่วงโซ่อุปทาน และการมีอยู่ของอุปทานของสินค้าที่ต้องการในเวลาที่ต้องการ เงื่อนไขเหล่านี้มีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบเป็นการเติบโตของราคาสินค้าและค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า การเร่งซื้อสินค้าอาจเป็นวิถีทางในการสร้างความมั่นใจและป้องกันไม่ให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่จำเป็นต้องใช้
ช่วงเวลาลดราคาสินค้าในสหรัฐฯ เป็นช่วงเวลาที่ร้านค้าปลีกต้องการเคลียร์สต๊อกเก่าเพื่อวางสินค้าใหม่ และเป็นช่วงที่ผู้บริโภคสหรัฐฯมีความต้องการสินค้าเฉพาะเจาะจงลงไปหรือซื้อเพราะถูกยั่วยวนจากราคาที่ลดต่ำลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันราคาคือเงื่อนไขสำคัญสูงสุดของการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคจำนวนมากจะเร่งซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่มีการลดราคาอย่างหนักเพื่อเก็บไว้ใช้ในภายหลัง การทยอยซื้อยังเป็นการชะลอจ่ายเงินแทนที่จะจ่ายเงินจำนวนมากในครั้งเดียว
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส | ข่าวประจำสัปดาห์ 9 – 13 ตุลาคม 2566
หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทำและนำเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นำมารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้