บริษัท GlobalData ได้คาดการณ์ว่ายอดขายของร้านค้าปลีกในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี 2566 นี้ จะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 อย่างไรก็ดีบริษัท GlobalData ได้คาดการณ์ว่าสินค้าอาหารและสินค้า grocery จะเป็นกลุ่มสินค้าที่จะขยายตัวมากที่สุดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยผู้บริโภคจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นในการซื้อสินค้าอาหารและ grocery ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2566 เป็นจำนวน 2,800 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ในส่วนสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าอาหาร มีการคาดการณ์ว่าสินค้าประเภทเสื้อผ้าและรองเท้าจะขยายตัวมากที่สุด
บริษัท GlobalData เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะจับจ่ายสินค้าด้วยความระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น โดยร้อยละ 50 ของชาวสหราชอาณาจักรวางแผนที่จะลดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ในการซื้อของขวัญ ของประดับตกแต่ง ไปจนถึงต้นคริสต์มาส อาหาร เครื่องดื่ม และการเดินทาง ทั้งนี้จากการวิจัยของ TopCashback UK พบว่าชาวสหราชอาณาจักรจะใช้จ่ายลดลงจากปี 2565 โดยเฉลี่ย 280 ปอนด์/คน หรือลดลงประมาณ 1,300 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับช่วงคริสต์มาสปี 2565 เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น TopCashback UK เห็นว่าผู้บริโภคสามารถลดค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสได้โดยการมองหาส่วนลด การมองหาโปรแกรมขอรับเงินคืน (cashback) หรือ โปรแกรม (loyalty) เป็นต้น
ที่มา: Grocery Gazette และ Retail Gazette
ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต.
สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (the Office for National Statistics: ONS) ได้เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อล้าสุดของเดือนกันยายน 2566 ว่ายังคงอยู่ในอัตราร้อยละ 6.7 ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น 5.1 เพนซ์/ลิตร ถึงแม้ว่าราคาสินค้าอาหาร เช่น นม ชีส ไข่ และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เริ่มลดลงแล้วก็ตาม โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ตั้งเป้าที่จะลดอัตราเงินเฟ้อให้เหลือร้อยละ 5.3 ภายในสิ้นปี 2566 นี้ อย่างไรก็ดีชาว สหราชอาณาจักรยังคงตกอยู่ภายให้แรงกดดันเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ สืบเนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น สคต. เห็นว่า ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสินค้าเพื่อให้เหมาะกับการปรับตัวต่อเศรษฐกิจของผู้บริโภคใน สหราชอาณาจักร