ออสเตรียลงนามเอ็มโอยูนำเข้าแรงงานฟิลิปปินส์ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

คณะผู้แทนออสเตรียซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและเศรษฐกิจ และเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศออสเตรีย ได้เดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์เพื่อลงนามเอ็มโอยูเกี่ยวกับการจัดหาแรงงานในประเทศฟิลิปปินส์ให้มาทำงานในประเทศออสเตรีย สืบเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานเฉพาะทางที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเอ็มโอยูฉบับนี้เปิดกว้างให้สามารถจัดหาแรงงานเพื่อป้อนให้กับธุรกิจต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างกว้างขวาง  แตกต่างจากเอ็มโอยูฉบับก่อนหน้าที่เพิ่งมีการลงนามไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับรัฐบาลท้องถิ่นกรุงเวียนนา ซึ่งจำกัดเฉพาะแรงงานในด้านการบริการสุขภาพสำหรับโรงพยาบาลในกรุงเวียนนาเท่านั้น ทั้งนี้ ในช่วงทศวรรษที่ 1970 – 1980 ออสเตรียเคยมีการจัดหานางพยาบาลจากประเทศฟิลิปปินส์ในรูปแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง การนำเข้าแรงงานจากฟิลิปปินส์ภายใต้เอ็มโอยูนี้จะถูกดำเนินการโดยบริษัทตัวแทนจัดหาแรงงาน Recareity ในประเทศออสเตรียร่วมกับบริษัทพาร์ทเนอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคความล่าช้าของระบบราชการในกระบวนการรับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติและวุฒิการศึกษา นอกจากนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังพิจารณาจัดตั้งสำนักงานดูแลแรงงานขึ้นในประเทศออสเตรียอีกด้วย ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถนำเข้าแรงงานชุดแรกมายังออสเตรียได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงกลางปี 2567

 

ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ

ออสเตรียประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเฉพาะทางเช่นเดียวกับประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ และล่าสุดได้พยายามแก้ไขกฎระเบียบให้เอื้ออำนวยต่อการนำเข้าแรงงานจากต่างประเทศมากขึ้น แต่กระนั้น อุปสรรคสำคัญยิ่งประการหนึ่งคือผู้ที่ต้องการมาทำงานในออสเตรียจะต้องสอบผ่านทักษะภาษาเยอรมันระดับสูง ทำให้ในทางปฏิบัติยังคงไม่สามารถจัดหาแรงงานได้มากเท่าที่ต้องการ สคต. เวียนนา เคยได้เข้าพบหารือกับสภาหอการค้าออสเตรียเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมการนำเข้าแรงงานจากประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะพนักงานปรุงอาหารไทย ซึ่งขาดแคลนและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภารกิจการส่งเสริมร้านอาหารไทยในต่างประเทศ และบุคลากรในภาคการโรงแรมและการท่องเที่ยว ตลอดจนบุรุษและนางพยาบาล โดยได้เสนอแนวทาง คือ การจัดตั้งกระบวนการพัฒนาทักษะและเตรียมความพร้อมให้กับแรงงานในประเทศไทยที่ต้องการไปทำงานในประเทศออสเตรีย โดยเฉพาะทักษะทางด้านภาษาในระดับที่ออสเตรียกำหนด และจำเป็นต้องผลักดันให้มียกประเด็นนี้ขึ้นการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงกันในระดับรัฐบาลเช่นเดียวกับฟิลิปปินส์

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา

ตุลาคม 2566

thThai