ที่มาภาพ: https://www.agoda.com/th-th/travel-guides/thailand/bangkok/bangkok-sightseeing-traditional-thai-neighborhoods-markets-temples/?cid=1844104
ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยจากสถิติในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมปี 2566 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 1,852,446 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด 15,391,104 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนคิดเป็นร้อยละ 12 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด
จังหวัดที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมไปเที่ยว ได้แก่
ที่มาภาพ: https://travel.kapook.com/view246249.html
กรุงเทพฯ (曼谷)
ยังคงเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากกรุงเทพเป็นเมืองหลวงของไทย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งวัด พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และมีห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ยาวค่ำคืนก็ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยว เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมได้แก่ วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ถนนข้าวสาร เยาวราช เอเชียทีค สยาม
ที่มาภาพ: https://www.traveloka.com/th-th/explore/activities/chiangmai-10-places-must-checkin-กacc/51458
เชียงใหม่ (清迈)
จุดเด่นของเชียงใหม่ที่ทำให้ชาวจีนประทับใจ ได้แก่ความสบาย ๆ ได้มาพักผ่อนแบบไม่เร่งรีบ วิวทิวทัศน์ที่แตกต่างจากจังหวัดอื่น อีกทั้งอาหารภาคเหนือก็ยังมีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากินง่าย และสามารถท่องเที่ยวได้ในราคาประหยัด
ที่มาภาพ: https://travel.mthai.com/blog/168577.html https://1000logos.net/
พระนครศรีอยุธยา (大城府)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ สามารถท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์โบราณของไทยที่มีทั้งวัด วัง โบราณสถานเก่าแก่ โดยเฉพาะวัดมหาธาตุ ที่มีเศียรพระพุทธรูปในรากไม้ที่เป็นที่พูดถึงในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน
ที่มาภาพ: https://anuraklodge.com/th/สุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี (素叻他尼府)
จังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง คือเกาะสมุยและเกาะพะงัน โดยเกาะสมุยเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวจีน มีตัวเลือกที่พักที่หลากหลาย สามาถมาเที่ยวได้ในราคาสบายกระเป๋าไปจนถึงรีสอร์ทระดับไฮเอนด์ มีร้านอาหารที่หลากหลายทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ และยังมีอาหารทะเลสด ๆ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เหมาะแก่การพักผ่อนและหลบหนีจากความวุ่นวาย
ที่มาภาพ: https://jeeor.com/?p=107
กระบี่ (甲米府)
เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวจีนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งปีนเขา พายเรือคายัค สำรวจถ้ำ ชมทะเลสาบมรกต โดยมีชายหาดที่สวยงาม และหน้าผาหินปูนสูงแตกต่างจากจังหวัดอื่น
ที่มาภาพ: https://www.traveloka.com/th-th/explore/destination/chonburi-update-popular-travel/51598
ชลบุรี (春武里)
ชลบุรีมีที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ พัทยาและเกาะเสม็ด และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พัทยาเป็นเมืองชายทะเลที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวจีน มีทั้งร้านค้าและร้านอาหารจีนที่หลากหลาย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ พัทยา เช่น ตลาดจีนชากแง้ว ตลาดน้ำสี่ภาคและสวนน้ำรามายณะ เป็นต้น เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสสวยงาม สามารถเล่นทะเล ดำน้ำตื้น
ที่มาภาพ: https://www.traveloka.com/th-th/explore/destination/top-6-unique-things-to-do-in-phuket-2/135324
ภูเก็ต (普吉市)
ภูเก็ตมีชายหาดสวยและน้ำทะเลที่ใส เป็นที่ที่เหมาะทั้งสำหรับพักผ่อน และเล่นกีฬาทางน้ำ อีกทั้งยังมีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมอันยาวนาน มีวัดวาอาราม และสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายให้เยี่ยมชม ร้านอาหารที่หลากหลายทั้งอาหารไทย และอาหารนานาชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
โดยเหตุผลที่ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้แก่
- ต้นทุนการท่องเที่ยวถูก อยู่ไม่ไกลจากประเทศจีน ค่าตั๋วเครื่องบินไม่แพง ค่าครองชีพไม่สูง
- ในฤดูหนาว ในช่วงอากาศในประเทศจีนหนาวจัด ประเทศไทยอุณหภูมิพอเหมาะกับการท่องเที่ยว ไม่หนาวและไม่ร้อนเกินไป
- ขอวีซ่าง่ายและสามารถทำ Visa on Arrival และในปัจจุบันมีการฟรีวีซ่า นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถมาเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าตั้งแต่ปัจจุบันถึงกุมภาพันธ์ 2567
- มีที่เที่ยวหลากหลายรูปแบบ มีทะเลสวยระดับโลก แสงสียามค่ำคืน ประวัติศาสตร์ ภูเขา และอาหารไทยของแต่ละท้องถิ่นก็มีเอกลักษณ์
- การบริการที่ดี ใจดีและมีความใจเย็นกับชาวต่างชาติที่สื่อสารภาษาไทยไม่ได้ มีความเปิดกว้างทางสังคม ยอมรับในเพศที่สามและความเจริญของศาสนาพุทธในเมืองไทย
ในด้านลักษณะและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน มีงานวิจัยที่ได้ศึกษานักท่องเที่ยวชชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย “การวิเคราะห์แบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนตามพฤติกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย” ในปี 2556 ถึง 2558 โดยได้ผลการวิจัย ดังนี้ ชาวจีนเป็นชาติที่ใช้จ่ายสูงในระหว่างการท่องเที่ยว โดยที่ค่าใช้จ่ายต่อวันของนักท่องเที่ยวจีนในปี 2558 เป็น 6,000 บาท/วัน และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 3.9 ต่อปี โดยครองอันดับ 2 รองจากฮ่องกงที่มีค่าใช้จ่ายต่อวันมากกว่าเล็กน้อย
และจากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวชาวจีน สามารถแบ่งนักท่องเที่ยวตามพฤติกรรมได้ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเองและกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยกับบริษัทนำเที่ยว
- กลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเอง สามารถแบบตามรูปแบบการท่องเที่ยวได้เป็น 6 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้
กลุ่มที่ 1 วิถีชีวิตและแสงสียามค่ำคืนเมืองกรุง
ลักษณะเด่นคือการเที่ยวชมวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ชมเมือง เที่ยวแสงสีความบันเทิงยามค่ำคืน โดยจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวประเภทนี้มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ มีอายุเฉลี่ยมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ คือ 29.64 ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพโสด และมีรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 720,000 บาท) เดินทางท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน มีวัตถุประสงค์หลักมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และมีวันพักเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มอื่น คือ 5.38 คืน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าต่อวัน 1,635.27 บาท และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในกาทำากิจกรรมต่อวันต่ำกว่ากลุ่มอื่น คือ 1,282.15 บาท
กลุ่มที่ 2 ประวัติศาสตร์กรุงเทพฯ – ผจญภัย
โดยจังหวัดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ได้แก่ กรุงเทพและภูเก็ต โดยกิจกรรมหลักคือการเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์ในกรุงเทพ นวด รับประทานอาหารไทย พักผ่อนในกรุงเทพ และไปเข้าร่วมกิจกรรมแนวผจญภัยที่ภูเก็ต เช่น พายเรือแคนู ไต่หน้าผา ขับรถเอทีวี เป็นต้น รวมถึงการรับประทานอาหารไทยที่จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ย 28.09 ปี ยังไม่มีลูก มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 20,000 –59,999 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000 – 2,160,000 บาท) และเดินทางมากับกลุ่มเพื่อนหรือคนรัก มาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หรือฮันนีมูน/ฉลองครบรอบ มีวันพักเฉลี่ยค่อนข้างสูง ได้แก่ 7.85 คืน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าและทำากิจกรรมต่อวัน 1,607.32 บาท และ 1,637.57 บาทตามลำดับ
กลุ่มที่ 3 กระบี่ – ภูเก็ต
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้นิยมท่องเที่ยวทะเลภาคใต้ และท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นวดและสปา แสงสีความบันเทิงยามค่ำคืน และดำน้ำตื้น กิจกรรมชายหาดและการรับประทานอาหารไทย
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ มีอายุเฉลี่ย 28.67 ปี เป็นโสดหรือแต่งงานและมีลูกแล้ว และมีรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 720,000 บาท) เดินทางมากับเพื่อนหรือครอบครัว มีวัตถุประสงค์ในการมาคือเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหรือฮันนีมูน/ฉลองครบรอบ มีวันพักเฉลี่ย 5.59 คืน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าต่อวันต่ำกว่ากลุ่มอื่น คือ 1,155.50 บาท และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการทำกิจกรรมต่อวัน 1,913.94 บาท
กลุ่มที่ 4 นิเวศในเมืองหลวง – แสงสีชลบุรี
จังหวัดที่เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ได้แก่ ในกรุงเทพและชลบุรี โดยมักเข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศในกรุงเทพ เดินชมสวนสาธารณะ สวนสัตว์ และเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ใช้บริการนวดและสปา และท่องเที่ยวแสงสีความบันเทิงยามค่ำคืน
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ มีอายุเฉลี่ย 28.82 ปี เป็นโสดหรือแต่งงานและมีลูกแล้ว มีรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 720,000 บาท) เดินทางมากับเพื่อนหรือมาท่องเที่ยวคนเดียว และมาเพื่อพักผ่อน/ติดต่อธุรกิจ มีวันพักเฉลี่ย 5.74 คืน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าต่อวันสูงกว่ากลุ่มอื่น ได้แก่ 1,716.50 บาท และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการทำกิจกรรมต่อวัน 1,803.97 บาท
กลุ่มที่ 5 ทะเลภูเก็ต – ชลบุรี
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเลทั้งภูเก็ตและชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวชายหาด ดำน้ำลึก รับประทานอาหารไทย และท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ยน้อยกว่ากลุ่มอื่น คือ 25.44 ปี เป็นโสดหรือแต่งงานแต่ยังไม่มีลูก มีรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 720,000 บาท) เดินทางมากับเพื่อนหรือคนรัก และมีจุดประสงค์มาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ มีวันพักเฉลี่ยยาวนานกว่ากลุ่มอื่นคือ 9.66 คืน ในด้านค่าใช้จ่าย มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าต่อวันอยู่ที่ 1,705.84 บาท และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการทำกิจกรรมต่อวันสูงกว่ากลุ่มอื่น 2,281.00 บาท
กลุ่มที่ 6 เชียงใหม่
นักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้จะท่องเที่ยวแค่ในเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหลายลักษณะในการท่องที่ที่จังหวัดนี้ ทั้งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นวดและสปา และแสงสีบันเทิงยามค่ำคืน
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 27.8 ปี สถานภาพโสดหรือแต่งงานและมีลูกแล้ว มีรายได้เฉลี่ยต่อปีน้อยกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 720,000 บาท) เดินทางมาท่องเที่ยวกับเพื่อนหรือครอบครัว และมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ โดยมีวันพักเฉลี่ยอยู่ที่ 6.73 คืน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าต่อวัน 1,520.02 บาท และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการท ากิจกรรมต่อวัน 1,316.00 บาท
- การแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยกับบริษัทนำเที่ยว (group tour) สามารถแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยว group tourได้ทั้งหมด 5 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 กรุงเทพฯ – ชลบุรี
นิยมท่องเที่ยวจังหวัดท่องเที่ยวหลักทั้งในภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเน้นท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์ นวดและสปา ชิมอาหาร แสงสียามค่ำคืน นันทนาการ งานเทศกาลในกรุงเทพและเดินทางไปเที่ยวทะเล เที่ยวเชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์ นวดและสปา แสงสียามค่ำคืน และดำน้ำลึกที่ชลบุรี
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้มีอายุเฉลี่ย 27.45 ปี เดินทางมากับเพื่อนหรือครอบครัว มาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหรือซื้อสินค้า มีวันพักเฉลี่ย 5.98 คืน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าและทำกิจกรรม 3,204.06 และ 1,595.25 บาทต่อวัน
กลุ่มที่ 2 ชลบุรี
นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ที่เดินทางมากับบริษัทนำเที่ยว จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต รับประทานอาหารไทย กิจกรรมนันทนาการ เที่ยวทะเล ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และเข้าร่วมงานเทศกาลในจังหวัดชลบุรี
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้มีอายุเฉลี่ย 28.11 ปี เดินทางมากับครอบครัวหรือเพื่อน เพื่อพักผ่อนหย่อนใจหรือประชุม มีวันพักเฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มอื่นเพียง 4.99 คืน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าและทำกิจกรรมต่อวันสูงกว่ากลุ่มอื่นเท่ากับ 4,300.95 บาท และ 1,717.89 บาท
กลุ่มที่ 3 กรุงเทพฯ – เชียงใหม่
มีการท่องเที่ยววิถีชีวิตในกรุงเทพร่วมกับกิจกรรมอื่นๆ และเน้นท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และรับประทานอาหารในท้องถิ่นในเชียงใหม่
ลักษณะของนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้มีอายุเฉลี่ย 29.36 ปี เดินทางมากับครอบครัวหรือเพื่อน วัตถุประสงค์หลักมาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหรือติดต่อธุรกิจ มีวันพักเฉลี่ยอยู่ที่ 5.09 คืน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการซื้อสินค้าและทำกิจกรรมต่อวันอยู่ที่ 1,868.52 และ 972.90 บาทซึ่งต่ำกว่ากลุ่มอื่น
กลุ่มที่ 4 ทะเล – อาหารภูเก็ต
เน้นกิจกรรมทางทะเลในจังหวัดภูเก็ต รับประทานอาหารท้องถิ่น และดำน้ำตื้น
กลุ่มที่ 5 ภูเก็ต – ดำน้ำกระบี่
เน้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นวดและสปา และแสงสียาค่ำคืนที่ภูเก็ต และทำกิจกรรมทางทะเล รับประทานอาหารทะเล และดำน้ำตื้นในกระบี่
ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้
นักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นหนึ่งใยนนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของประเทศไทยเนื่องจากในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีนแตกต่างกันรูปแบบการท่องเที่ยวของแต่ละบุคคล ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบรับรูปแบบความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวได้ ทั้งแหล่งช้อปปิ้งในเมืองใหญ่ ทะเล ภูเขา หรือประวัติศาสตร์
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนในปัจจุบัน แต่นักท่องเที่ยวมักไม่กลับมาท่องเที่ยวในสถานที่แห่งเดิมมากนักหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาให้แปลกใหม่ สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของไทยหรือบุคคลในท้องที่นั้นสามารถพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนของตนเองให้มีการเปลี่ยนแปลง น่าประทับใจ หรือมีรูปแบบการท่องเที่ยวที่หลากหลายเพื่อดึงดูดนั้นท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นได้ รวมถึงสามารถพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เป็นที่รู้จักให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาแหล่งที่เที่ยวที่ยังไม่เคยไปได้ หากสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ ชุมชนและบุคคลในท้องถิ่นจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นได้ โดยสามารถเริ่มต้นจากการศึกษาลักษณะและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และวางแผนเพื่อพัฒนาพื้นที่ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายของตนเองต่อไป
________________________________________________________________________________
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566
แหล่งที่มา
https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jitt/article/view/112048/87346
https://travel.kapook.com/view213445.html
https://travel.trueid.net/detail/3kj6lgpom0Pk
https://www.admissionpremium.com/hotel/news/3349
https://www.kaohoon.com/news/620375
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ/2715514