(ที่มา : สำนักข่าว The Korea Times ฉบับวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566)

กระทรวงสิ่งแวดล้อมสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประกาศว่า จะยกเลิกการห้ามใช้แก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งในร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมถึงมีแผนจะเลิกบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้หลอดพลาสติกในร้านกาแฟและถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อ

นาย ลิม ซังจูน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจากการคำนึงถึงมุมมองของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งกำลังเผชิญราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รัฐบาลไม่ควรเพิ่มภาระให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งกำลังประสบความลำบากกับราคาสินค้าที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ด้วยกฎระเบียบเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเผชิญกับปฏิกิริยาเชิงลบจากการสวนทางกับนโยบายรณงรงค์ลดใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้ง ซึ่งเป็นปัญหาร้ายแรงระดับชาติ นอกจากนั้น ยังมีเสียงโต้แย้งจากคนบางกลุ่มว่า นี่อาจเป็น “นโยบายเพื่อเรียกคะแนนเสียง” สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2568

 

กระทรวงฯออกกฎระเบียบห้ามใช้ภาชนะใช้แล้วทิ้งเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดระยะเวลาทดลองไว้ 1 ปี ซึ่งคาดว่าได้มีการเรียกเก็บเงินค่าปรับไม่เกิน 2,292 เหรียญสหรัฐในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการสนับสนุนกฎระเบียบห้ามใช้ภาชนะแก้วกระดาษ กระทรวงฯ เสนอแนะให้ใช้แก้วแบบใช้ซ้ำ (Reusable Cup) ต่อไป และรณรงค์เรื่องรีไซเคิลมากขึ้น แม้ด้านในของแก้วกระดาษจะถูกเคลือบให้มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ แต่ก็ยังสามารถแยกประเภทได้และง่ายต่อการรีไซเคิล

ในส่วนของการใช้หลอดพลาสติกและแท่งคนกาแฟพลาสติก ณ ตอนนี้ ยังห้ามใช้อยู่และคาดว่าจะกำหนดวันสิ้นสุดก็ต่อเมื่อรัฐบาลสามารถควบคุมคุณภาพและราคาของสินค้าที่จะนำมาใช้ทดแทนได้อย่างคงที่

อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้ถุงพลาสติกในร้านค้าสะดวกซื้อและร้านเบเกอรี่ได้ถูกกำหนดให้ขยายระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากข้อบังคับใช้ประสบผลสำเร็จอย่างราบรื่น โดยที่ไม่ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐบาลเกาหลีใต้คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมในประเทศ และให้ความสำคัญกับการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจึงได้ตั้งกฎระเบียบห้ามใช้ภาชนะบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้งและภาชนะพลาสติก ซึ่งยากต่อการย่อยสลายและเป็นการสร้างขยะเพิ่มให้กับประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้คำนึงถึงผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่กำลังเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา จึงมีการผ่อนปรนกฎระเบียบให้และมีแผนจะอนุญาตให้ใช้ภาชนะ เช่น แก้วกระดาษใช้ครั้งเดียวและทิ้งในธุรกิจได้ เนื่องจากภาชนะเหล่านี้มีต้นทุนที่ไม่สูงมาก ในส่วนของผู้ประกอบการไทยที่ต้องการส่งออกสินค้ามายังประเทศเกาหลี อาจจะต้องใส่ใจในส่วนของบรรจุภัณฑ์และแนวคิดของสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นจุดขายดึงดูดผู้บริโภคเกาหลีมากขึ้น

********************************************************************

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล

จัดทำโดย นางสาวกวิตา อนันต์นับ

ตรวจทานโดย นางสาวชนัญญา พรรณรักษา

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล

 

 

thThai