กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กำลังพิจารณาขยายโครงการเงินกู้ 3 พันล้านดอลลาร์ให้แก่อียิปต์ ด้วยจำนวนเงินที่ยังไม่เปิดเผย อียิปต์กำลังเร่งดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้โครงการเงินกู้ Extended Fund Facility (EFF) ของ IMF ซึ่งได้รับการอนุมัติในเดือนธันวาคม 2565 ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเงินกู้ โครงการนี้ครอบคลุมระยะเวลา 4 ปี โดยอนุญาตให้อียิปต์เข้าถึงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ใน 8 งวด
มาตรการที่สำคัญของอียิปต์ที่ต้องดำเนินการตามแนวทางของ IMF ได้แก่ การใช้อัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว การส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชน และลดระดับหนี้และอัตราเงินเฟ้อให้เหลือเท่ากับตัวเลขก่อนเกิดสถานการณ์โรคระบาดเมื่อสิ้นสุดโครงการ
อียิปต์ต้องเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงอันเป็นผลมาจากความขัดแย้งในฉนวนกาซา ซึ่งกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างอียิปต์ เลบานอน และจอร์แดน จากการการท่องเที่ยวที่ลดลงและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงาน S&P Global Rating แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามอิสราเอลต่อการท่องเที่ยวต่างประเทศต่อประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงอียิปต์ S&P ดำเนินการสถานการณ์ต่างๆ โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของอียิปต์จะลดลง อยู่ระหว่าง 10 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่าย 4-11 เปอร์เซ็นต์ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ
อียิปต์มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงปีงบประมาณ 2022/23 โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากที่ร้อยละ 26.8 เมื่อเทียบกับตัวเลขในปีงบประมาณก่อนหน้าที่ 10.7 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของธนาคารกลางแห่งอียิปต์ (CBE) การเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนดุลการชำระเงินของอียิปต์ โดยเปลี่ยนการขาดดุล 10.5 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564/2565 ให้เป็นเกินดุล 882 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่แล้ว
ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็น
แม้ว่าอียิปต์จะมีการปฏิรูปเศรษฐกิจ การคลัง และการเงินนับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงเงินกู้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในปีที่แล้ว แต่อียิปต์ยังคงอยู่กับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศอย่างรุนแรง หนี้ที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงสกุลเงินที่สูญเสียมูลค่าไปมากกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ตกลงอนุมัติวงเงินกู้ยืมจำนวน 3 พันล้านดอลลาร์ แต่สิ่งนี้มาพร้อมกับเงื่อนไข ซึ่งสิ่งที่ยากที่สุดคือการเปลี่ยนไปใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว แม้ว่าอียิปต์จะลดค่าเงินปอนด์อียิปต์ไปถึงสามครั้งแล้วก็ตาม โดย IMF เลื่อนการทบทวนเงื่อนไขเงินกู้ครั้งแรกซึ่งมีกำหนดเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2566 เนื่องจากขาดความคืบหน้าในการแปรรูปเศรษฐกิจและการใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว ซึ่งหมายความว่าเงินกู้งวดที่สองยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณา
ผู้นำเข้าอาหารและวัตถุดิบของอียิปต์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้อียิปต์สูญเสียกลุ่มสกุลเงินที่มีความเสถียรสูง (Hard Currency) เป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามความขัดแย้งในฉนวนกาซา อาจทำให้ IMF มีมาตรการผ่อนปรนโครงการเงินกู้ให้กับทางอียิปต์ เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน จากผลกระทบของความไม่มั่นคงในภูมิภาค
ในขณะที่ประเทศกำลังเร่งการแปรรูปให้เร็วขึ้น แต่ก็ลังเลที่จะเปิดเสรีอัตราแลกเปลี่ยนของเงินปอนด์อียิปต์อย่างเต็มที่ เนื่องจากจะกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น และเพิ่มภาระให้กับประชาชน อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม 2566 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 36.8 โดยได้รับแรงหนุนจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 70 เมื่อเทียบเป็นรายปี
____________________________________
ที่มา https://english.ahram.org.eg/News/512448.aspx