ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เยือนสหราชอาณาจักร กระชับความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

ประธานาธิบดี ยุน ซุก ยอล ของเกาหลีใต้ ได้เยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20 – 23 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ในการนี้ทั้ง 2 ประเทศได้มีการประชุมทวิภาคีและลงนามความตกลงที่ครอบคลุมความร่วมมือด้านกลาโหมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองทัพอังกฤษและเกาหลีใต้ในการต่อต้านการลักลอบขนคนเข้าเมืองในทะเลจีนตะวันออก (East China Sea) รวมทั้งความร่วมมือด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเกาหลีใต้มีแผนเข้ามาลงทุนในสหราชอาณาจักรในโครงการพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหราชอาณาจักรมูลค่า 21,000 ล้านปอนด์ ซึ่งจะสร้างงานที่มีทักษะสูง (high skill) กว่า 1,500 ตำแหน่ง

ทั้งนี้สหราชอาณาจักรยังได้เริ่มการเจรจาเพื่อขยายความตกลงการค้าเสรีกับเกาหลีใต้เพื่อสนับสนุนการจ้างงานและสร้างโอกาสสำหรับการส่งออกของสหราชอาณาจักร เช่น ภาคอุตสาหกรรมอาหาร และ สินค้าฟุ่มเฟือย (luxury goods) รวมทั้งยกระดับความตกลงการค้าที่มีอยู่ให้รวมถึงการค้าดิจิทัล โดยความตกลงทางการค้าใหม่นี้พยายามที่จะทำให้กฎแหล่งกำเนิดสินค้าง่ายขึ้น และใช้ระบบดิจิทัลเพื่อลดความซับซ้อนลง อีกทั้งการลดอัตราภาษีหรือภาษีเป็นศูนย์เมื่อส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ซึ่งข้อตกลงใหม่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในสหราชอาณาจักรเกือบ 7,000 รายที่ส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีใต้ โดยร้อยละ 85 เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)

ที่มา:  Gov.UK และ Daily Mail

เกาหลีใต้มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 13 ของโลก มีผู้บริโภคชนชั้นกลางประมาณ 45 ล้านคน ทั้งนี้ เกาหลีใต้ยังเป็นผู้ผลิตสินค้าสำคัญสามอันดับแรกของโลก เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทำให้เกาหลีใต้มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าความต้องการนำเข้าสินค้าของเกาหลีใต้จะขยายตัวร้อยละ 45 ภายในปี 2578 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการสหราชอาณาจักรในการส่งออกไปยังเกาหลีใต้

สหราชอาณาจักรได้บรรลุความตกลงการค้าเสรีกับเกาหลีใต้ในปี 2562 หลังจาก Brexit ซึ่งการขยายความตกลงทางการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและเกาหลีใต้จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าสหราชอาณาจักรกับเกาหลีใต้มูลค่า 16,000 ล้านปอนด์/ปี อีกทั้งทั้งสองประเทศยังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในด้านเทคโนโลยี เช่น AI เซมิคอนดักเตอร์ และควอนตัม

ในส่วนของไทยนั้น สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญจากการที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ารายสำคัญในอาเซียนของสหราชอาณาจักร โดยขณะนี้ไทยและสหราชอาณาจักรได้มีการจัดตั้ง Joint Economic and Trade Committee: JETCO ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือเพื่อการขยายธุรกิจการค้าระหว่างกันอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน ในส่วนของผู้ประกอบการไทยนั้น ควรเตรียมความพร้อมและหาแนวทางในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันสำหรับสินค้าที่จะส่งออกมายังสหราชอาณาจักรต่อไป

thThai