งานแสดงสินค้า Free From Functional Food & Health Ingredients (FFF) เป็นงานแสดงสินค้าอาหารเฉพาะทางแบบเจาะจงที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะอาหาร Free Fromอาหาร Organic และอาหาร Plant-based มีวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อนำเสนอสินค้าอาหารที่ปราศจากส่วนผสมหรือสารปรุงแต่งต่างๆ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป และหันไปหาผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเกษตรอินทรีย์ (Organic) อาหารปราศจากสารปรุงแต่ง (Free From) อาหารฟังก์ชั่น (Functional food) รวมไปถึงเครื่องดื่มเสริมอาหาร (Better-for-You beverages) จึงทำให้เทรนด์อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นำมาสู่การเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค อาทิ อาหารวีแกน อาหารปราศจากสารกลูเตนหรือแลคโตส อาหารปราศจากน้ำมันปาล์ม หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม (NON GMO) ทำให้บริษัทผู้ผลิตอาหารขยายฐานผลิตภัณฑ์มาเป็นอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนำมาสู่โอกาสทางธุรกิจมากมาย งาน FFF นี้จึงเป็นเสมือนแพลตฟอร์มในการเปิดตัวอาหารแห่งอนาคตเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีการจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้และข้อคิดเห็นระหว่างผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัยด้านธุรกิจอาหาร กลุ่มผู้ซื้อ และบริษัทผู้ค้าปลีกทั้งรายเล็กและรายใหญ่เกี่ยวกับแนวโน้มสินค้าอาหารและนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตอย่างอาหาร Veganอาหาร Plant-based รวมถึงการวิเคราะห์ตลาด
งานแสดงสินค้า Free From Functional Food & Health Ingredients จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และสำหรับในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์จัดแสดงสินค้า RAI Amsterdam กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักของผู้เข้าชมงาน คือ บริษัทผู้ค้าปลีกชั้นนำรายใหญ่ในยุโรป เช่น Albert Heijn, Jumbo, SPAR เป็นต้น และกลุ่มผู้ค้าปลีกรายย่อย เช่น Ecoplaza หรือร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออแกนิคโดยเฉพาะ กลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กลุ่มนักการตลาด และนักวิจัยด้านเทคโนโลยีอาหาร และสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าชมงาน ผู้จัดงานยังจัดให้มีทัวร์นำชมงานแสดงสินค้า FFF ในแต่ละวันอีกด้วย
งานแสดงสินค้า Free From Functional Food & Health Ingredients มีการแบ่งโซนจัดแสดงสินค้าภายในงานออกเป็น 5 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 : Free From เป็นกลุ่มอาหารหรือสินค้าที่มีการระบุฉลากอย่างชัดเจนว่าเป็นสินค้าที่ปราศจากสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น กลูเตน แลคโตส ไข่ น้ำตาล เนื้อสัตว์ ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ และอื่นๆ อีกมากมาย เนื่องจากความต้องการอาหาร Free From กำลังได้รับความสนใจในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและกลุ่มผู้บริโภค
โซนที่ 2 : Vegan & Plant-based เป็นหมวดสินค้าอาหารที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากที่สุดในกลุ่มอาหาร Free From โดยเห็นได้ชัดจากยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วีแกนและผลิตภัณฑ์มังสวิรัติที่เพิ่มขึ้นเกือบ 500% และกำลังกลายเป็นมากกว่าแค่เทรนด์แต่เป็นกระแสหลักที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยในงาน Free From Expo เกือบ 40% ของผู้แสดงสินค้าทั้งหมดเป็นผู้ผลิตหรือผู้ค้าอาหารมังสวิรัติและวีแกน และมากกว่า 70% ของผู้เข้าชมงานระบุว่าสินค้าอาหารวีแกนเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่พวกเขาให้ความสนใจสูงสุด ปีนี้ในโซนดังกล่าวยังมีการจัดแสดงสินค้าใหม่ในงาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทดแทนเนื้อสัตว์จากประเทศกรีซที่ทำมาจากผล Olive ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักและยังให้โปรตีนสูงถึง ๒๔ กรัม
โซนที่ 3 : Organic เป็นหมวดสินค้าที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดสารเคมีทุกชนิดที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนกระบวนการเลี้ยง การปลูก ต้องมีการดูแลอย่างดี เรียกได้ว่าตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการต้องผ่านการดูแลอย่างพิถีพิถันตามหลักมาตรฐานสากล เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันใส่ใจในสุขภาพและความสำคัญกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก รวมถึงยังต้องมีการดำเนินธุรกิจการค้าที่เป็นธรรม (Fair Trade) และยั่งยืน (Sustainable) ด้วย
โซนที่ 4 : Healthy Ingredients เป็นโซนที่จัดแสดงสินค้าที่เป็นวัตถุดิบหรือส่วนผสมสำหรับอุตสาหกรรมอาหารที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตหรือมีความต้องการในตลาดปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสของนักเทคโนโลยีอาหาร เจ้าของแบรนด์สินค้า และผู้ผลิตที่ต้องการมองหานวัตกรรมใหม่ๆ ในแง่วัตถุดิบเข้าสู่ตลาดเพราะถือเป็นงานที่มีจุดเชื่อมโยงกันที่ในระยะหลังมีการนำส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาต่อยอดทางธุรกิจ
โซนที่ 5 : Functional Food เป็นโซนจัดแสดงอาหารเพื่อสุขภาพในรูปผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ อาทิ โปรตีนเสริมสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่รักการออกกำลังกาย วิตามินเพื่อสุขภาพ คอลลาเจนเพื่อความงาม รวมทั้งอาหารเสริมที่เพิ่มพลังงานโดยสามารถรับประทานควบคู่กับมื้ออาหารหลักหรือทดแทนมื้ออาหารได้ ซึ่งสินค้าอาหารฟังก์ชั่นถือได้ว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย ทำให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในปีนี้ผลิตภัณฑ์มากกว่าร้อยละ ๕๐ มักให้ความสำคัญด้านสารอาหารที่เพิ่มขึ้น อาทิ ผลิตภัณฑ์ Vegan ขนมทานเล่น Spread สำหรับทาขนมปัง หรือเครื่องดื่มที่จะเน้นจุดเด่นของสินค้าด้าน High Protein เป็นหลัก ในโซนดังกล่าวยังมีการจัดแสดงสินค้า Functional Food ใหม่ในงาน ได้แก่ Non-Alcohol เบียร์จากประเทศเบลเยี่ยมที่ให้โปรตีนสูงถึง ๑๐ กรัม
ภายในงานยังมีโซนจัดแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัล Gezonde Innovatie Award ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสินค้าที่มีความโดดเด่นจำนวนสาขาละ ๓ รางวัล ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ภายในงาน FFF อาทิ การสัมมนาหัวข้อแนวโน้มตลาดสินค้า นวัตกรรมสินค้าแห่งอนาคต และโอกาสทางธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงมีการจัดพื้นที่ Business Matching สำหรับการเจรจาธุรกิจอีกด้วย
บทวิเคราะห์และความเห็น สคต.
สินค้ากลุ่มอาหาร Free From (สินค้าอาหารกลุ่มปราศจากสารปรุงแต่ง) กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในตลาดและไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) อีกต่อไป แต่ยังรวมถึงผู้บริโภคทั่วไปที่ใส่ใจสุขภาพ และใส่ใจรายละเอียดของวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์อาหารที่บริโภค เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ขนมปังและขนมอบ เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่มีน้ำตาลน้อยหรือปราศจากน้ำตาล มีไขมันต่ำ โซเดียมต่ำ ปราศจากกลูเตน ปราศจากแลคโตส รวมทั้งผลิตภัณฑ์สินค้า Vegan และ Plant-based ที่มีโปรตีนสูงและมีไขมันต่ำ และยังให้ความสำคัญมากขึ้นในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส ด้วยความเจริญก้าวหน้าทางด้านนวัตกรรม ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ รวมถึงสินค้าจำพวกซอส เครื่องปรุง ถูกผลิตออกมาวางจำหน่ายในรูปแบบของสินค้าอาหาร Free From จำนวนมาก กระแสความนิยมอาหาร Free Form ยังส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของผู้คนเริ่มปรับเปลี่ยนไป ดังนั้นธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเป็นเทรนด์ของผู้บริโภคทั่วโลกทำให้อุตสาหกรรมนี้มีโอกาสเติบโตและสามารถขยายตลาดไปได้กว้างขึ้น
งานแสดงสินค้า Free From Functional Food & Health Ingredients (FFF) เป็นงานแสดงสินค้าอาหารเฉพาะทางแบบเจาะจงที่น่าสนใจ เป็นช่องทางในการเจาะตลาดสินค้าอาหารสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้โดยตรง ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่สามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในอนาคต
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก