ที่มา : สำนักข่าว The Korea Herald  ฉบับวันที่ 7 ธันวาคม 2566

นายบังกีมุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า เศรษฐกิจ และพลังงาน (MOTIE) สาธารณรัฐเกาหลีแถลงว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะจ่ายเงินสนับสนุนบางส่วนในการนำเข้ายูเรีย ให้แก่ผู้ประกอบการเกาหลีที่ต้องการซื้อสารเคมีจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่จีน เพื่อที่จะลดการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต และให้เกิดการสมดุลของอุปทานในระยะยาว

นายบังกีมุน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า จากการที่จีนยกเลิกกระบวนการด้านศุลกากรในการส่งออกยูเรียมายังเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตขาดแคลนยูเรีย ซึ่งเกาหลีใต้มีการพึ่งพายูเรียจากจีนในระดับสูง และ ณ ปัจจุบัน เกาหลีใต้มียูเรียคงคลังพอที่จะใช้ได้นาน 3.7 เดือน และแม้ว่าจะหาซื้อจากประเทศที่สามได้ แต่ราคาอาจสูงกว่าของจีนประมาณ 10%

เกาหลีใต้พึ่งพาจีนเป็นอย่างมากในด้านการจัดหายูเรียเนื่องจากปัจจัยด้านราคาเป็นหลัก จากข้อมูลของรัฐบาลเกาหลีใต้พบว่า ในปีนี้เกาหลีใต้นำเข้ายูเรียที่ใช้ในอุตสาหกรรมจากจีนมากกว่าร้อยละ 90  ซึ่งเพิ่มจากปี 2565 ที่มีปริมาณนำเข้าร้อยละ 71.8 นอกจากนี้ อัตราส่วนของการนำเข้ายูเรียจากจีนเพื่อใช้ทำปุ๋ยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 18.3 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 22.5 ในปี 2566

นายบัง กล่าวอีกว่า จากการที่บริษัทเกาหลีได้มีการพึ่งพายูเรียจีนเพราะราคาที่ถูก และไม่ต้องการที่จะเพิ่มสินค้าคงคลังซึ่งจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าโกดังที่สูง ดังนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้จำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายูเรียจำนวนขั้นต่ำที่เหมาะสมในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์ซ้ำกับปี 2564 ที่เกาหลีใต้ประสบปัญหาขาดแคลนยูเรียครั้งใหญ่ หลังจากจีนระงับการส่งออกจากการขัดแย้งทางการค้ากับออสเตรเลีย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกมาตรการเพื่อรับมือกับการจำกัดการส่งออกยูเรียของจีน เช่น การเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังยูเรียของภาครัฐสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลเป็นสองเท่า และการปล่อยเงินทุนสำรองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง สาธารณรัฐเกาหลีระบุว่า อาจจะต้องใช้งบประมาณ 26,000 ล้านวอน (19.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปี เพื่อเป็นเงินสนับสนุนสำหรับการจัดซื้อยูเรียเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม

นอกเหนือจากประเทศจีน เกาหลีใต้นำเข้ายูเรียจากกาตาร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ซาอุดิอาระเบีย และมั่นใจว่าสามารถนำเข้าจากประเทศอื่นๆ กว่า 12 ประเทศ

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล พิจารณาแล้วเห็นว่า การระงับการส่งออกยูเรียของประเทศจีนทำให้เกาหลีใต้กังวลว่าจะเกิดวิกฤตขาดแคลนยูเรีย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ใช้เพื่อลดการปล่อยมลพิษในการทำอุตสาหกรรมและลดการปล่อยไอเสียจากพาหนะยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล อย่างไรก็ตาม จากการคำนวณปริมาณยูเรียที่คงเหลือของเกาหลีใต้ รัฐบาลเกาหลีใต้มั่นใจว่า ปริมาณยูเรียที่มีอยู่เพียงพอและสามารถใช้ต่อได้อีกระยะหนึ่ง แม้ประเทศจีนจะไม่สามารถส่งออกให้ได้ แต่ยังสามารถหาสารละลายยูเรียจากประเทศอื่นได้ เช่น กาตาร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และซาอุดิอาระเบีย

แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่ประเทศผู้ส่งออกยูเรีย แต่ผู้ประกอบการที่ส่งออกวัสดุเคมีภัณฑ์และผู้ประกอบส่งออกสินค้าชนิดอื่น ที่สนใจส่งสินค้ามายังเกาหลีใต้ ควรติดตามสถานการณ์การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศของเกาหลีอย่างใกล้ชิด เผื่อมีสินค้าใกล้เคียงที่สามารถทดแทนและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเกาหลีได้

thThai