ชาวตุรกียังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างรุนแรงที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา สถาบันสถิติของตุรกีได้ประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคม 2566 ที่ร้อยละ 64.77 และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อไป ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากดังกล่าว รัฐบาลตุรกีจึงได้คงมาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 ครั้ง ในหนึ่งปี โดยในเดือนมกราคมจะเป็นการปรับครั้งแรก และจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม ซึ่งในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำดังกล่าวนั้นจะมีแรงงานได้รับประโยชน์มากถึง 7 ล้านคน
เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานและสังคมของตุรกีได้มีการประกาศอัตราค่าแรงขั้นต่ำต่อเดือนอัตราใหม่ โดยอยู่ที่ 17,002 ลีร่าตุรกี หรือประมาณ 19,600 บาท หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49 ทั้งนี้ นายเวดัท อือชึคฮาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสังคม ได้กล่าวระหว่างการแถลงปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำว่า “เพื่อหวังจะเป็นการลดผลกระทบจากเงินเฟ้อและปัญหาการจ้างงาน โดยต้องขอขอบคุณรัฐบาลตุรกีที่ได้อนุมัติเงินสนับสนุนในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้ถึงรายละ 700 ลีร่าตุรกี หลังจากที่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนรายละ 500 ลีร่าตุรกี ทำให้สามารถปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเป็น 11,402 ลีร่าตุรกี ได้ การปรับขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49 จากการปรับขึ้นในคราวที่แล้ว และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถือว่าสูงขึ้นอีกเท่าตัวเลยทีเดียว”
เมื่อลองดูตัวเลขค่าแรงขั้นต่ำนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมานั้น จะเห็นอัตราการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว โดยในปี 2562 อยู่ที่เพียง 2,020 ลีร่าตุรกี ในปี 2563 อยู่ที่ 2,324 ลีร่าตุรกี และในปี 2564 อยู่ที่ 2,825 ลีร่าตุรกี ต่อมาในปี 2565 ได้มีการปรับขึ้นปีละ 2 รอบ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 4,253 และ 5,500 ลีร่าตุรกี ตามลำดับ ในปี 2566 ที่ผ่านมาก็มีการปรับขึ้น 2 รอบ ด้วยเช่นกัน คือ ในเดือนมกราคม 8,506 ลีร่าตุรกี และ 11,402 ลีร่าตุรกี ในเดือนกรกฎาคม 2566
อย่างไรก็ตาม นายเอรกูน อทาลาย ประธานสหภาพแรงงานของตุรกี ได้กล่าวเกี่ยวกับอัตราค่าแรงขั้นต่ำใหม่ว่า “คำขอของเราอยู่ 18,000 ลีร่าตุรกี และการเจรจาอีกปีละสองครั้ง ซึ่งจากราคาสินค้าต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ตอนนี้เราก็เห็นถึงสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วอัตราค่าแรงขั้นต่ำกลับออกมาที่ 17,000 ลีร่าตุรกี เท่านั้น และตราบใดที่เงินเฟ้อยังไม่หยุดแบบนี้ การปรับค่าแรงขั้นต่ำแค่ครั้งเดียวคงไม่สามารถทำได้”
ทั้งนี้ นอกจากอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่มีการปรับขึ้นแล้ว เงินเดือนผู้เกษียณอายุราชการ และเงินเดือนข้าราชการก็มีการปรับขึ้นด้วยเช่นกัน โดยในปี 2567 นี้ มีการปรับขึ้นเงินเดือนของให้ข้าราชการและผู้เกษียณอายุราชการเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 49.25 โดยเงินเดือนข้าราชการต่ำสุดจากที่เคยได้รับอยู่ที่ 22,000 ลีร่าตุรกีนั้น ปรับขึ้นเป็น 34,215 ลีร่าตุรกี และเงินเดือนผู้เกษียณอายุราชการต่ำสุด จาก 9,876 ลีร่าตุรกี ปรับขึ้นเป็น 14,739 ลีร่าตุรกี
ข้อคิดเห็นจากสำนักงานฯ
ถึงแม้ว่ารัฐบาลตุรกีจะเริ่มใช้มาตรการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำปีละ 2 รอบมาตั้งแต่ปี 2565 และในแต่ละครั้งเป็นการปรับแบบก้าวกระโดด แต่ในความเป็นจริงก็ยังคงไม่ทันกับอัตราเงินเฟ้อที่ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคและค่าครองชีพภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ โดยเมื่อพิจารณาตามภาคธุรกิจแล้ว ในปี 2566 ที่ผ่านมา ภาคที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ได้แก่ กลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.2 ตามมาด้วยภาคการศึกษา เพิ่มขึ้นร้อยละ 82.1 และกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 72 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นภาระรายจ่ายส่วนใหญ่ที่มีความจำเป็นที่สุดสำหรับบุคคลทั่วไป ยังไม่รวมถึงอัตราค่าเช่าที่พักซึ่งในเมืองใหญ่ๆ นั้น ค่าเช่าที่พักอาศัยปรับขึ้นสูงมากเป็นเท่าตัว จนทำให้ปัจจุบันมีการฟ้องร้องระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่าเป็นจำนวนมาก สถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศตุรกีจึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อาจจะต้องจับตาและดูแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลตุรกีต่อไป