เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาองค์การตลาดแห่งกรุงเวียนนาได้มีการสั่งยึดสินค้าข้าวสารซึ่งมีที่มาจากประเทศอินเดียจำนวนรวม 96 ตันจากบริษัทค้าส่งในประเทศ เนื่องจากตรวจสอบพบการปนเปื้อนของสารกำจัดศัตรูพืชอันตรายหลายชนิดซึ่งผิดกฎหมายในสหภาพยุโรป โดยก่อนหน้านี้ผู้ค้าได้มีการสำแดงเอกสารหลักฐานการตรวจรับรองมาตรฐานจากประเทศต้นทางซึ่งยืนยันว่าสินค้าดังกล่าวผ่านการตรวจสอบมาอย่างถูกต้องและมีคุณภาพผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ขององค์การตลาดแห่งกรุงเวียนนาซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้าได้เข้าตรวจสอบสินค้าดังกล่าวอีกครั้งในวันที่จะมีการกระจายสินค้าไปยังปลายทาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร และผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการระบุว่าข้าวสารดังกล่าวมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงตกค้างจำนวนมาก จึงได้สั่งระงับการจัดจำหน่ายสินค้าทั้งหมดในทันที ด้านนายอันเดรียส คุทไฮล์ (Andreas Kutheil) ผู้อำนวยการองค์การตลาดได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการควบคุมอย่างเข้มงวดเช่นนี้และให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า “เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของเราปฏิบัติงานแบบปูพรมในทุกพื้นที่อยู่ตลอดเวลาทุกวัน มีตั้งแต่ร้านอาหารหัวมุมอาคารไปจนถึงซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่ โรงงานผลิตห้องครัวเชิงพาณิชย์ หอพัก โรงพยาบาล ตลอดจนตลาดสดต่างๆ ในกรุงเวียนนา เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากภัยอันตรายอันไม่พึงประสงค์ รวมถึงมีการตอบสนองอย่างรวดเร็วในกรณีได้รับการร้องเรียน เราทุกคนมีการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทุกวัน ความปลอดภัยทางอาหารคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา การควบคุมตรวจสอบของเราจึงหมายถึงความปลอดภัยของทุกคน”
แหล่งที่มา: Kurier Zeitung
ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ
ความปลอดภัยทางอาหารเป็นมาตรฐานสูงสุดอย่างหนึ่งของออสเตรียและสหภาพยุโรป ซึ่งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดที่สุด กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าสินค้าจะหลุดรอดผ่านการนำเข้ามาได้แล้วแต่ก็ยังมีโอกาสที่ถูกตรวจสอบในภายหลังได้ด้วย ซึ่งเฉพาะในกรุงเวียนนามีการสุ่มเข้าเยี่ยมและตรวจคุณภาพโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้ากว่า 22,000 ครั้งต่อปี ความผิดพลาดเช่นนี้ไม่เพียงก่ออันตรายต่อผู้บริโภคแต่ยังทำให้ประเทศต้นทางสูญเสียความน่าเชื่อถือโดยรวม ซึ่งสามารถลุกลามไปยังสินค้าอื่นๆ อีกด้วย ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศต้นทางจึงพึงระมัดระวังอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี สถานการณ์เช่นนี้เป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการและทางการของไทยควรเร่งประชาสัมสัมพันธ์ภาพลักษณ์ด้านคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย และเร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อช่วงชิงพื้นที่ตลาดให้กับข้าวไทย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา