นับเป็นการเดินทางที่ยาวนานสำหรับเรือเดินสมุทรที่ชื่อ “Ever Aria” โดยเรือเดินทางออกจากท่าเรือเมือง Piraeus ของประเทศกรีก เพื่อไปยังเมืองโคลัมโบ ของประเทศศรีลังกา ในคืนที่ 2 หลังวันคริสต์มาสปี 2023 แต่แทนที่จะมุ่งหน้าไปผ่านคลองสุเอซเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา เรือสินค้าของบริษัท Evergreen Marine Corporation ของไต้หวันลำนี้ กลับก็ต้องเลี้ยวไปทางทิศตะวันตกเพื่อมุ่งหน้าไปยังยิบรอลตาร์แทน ซึ่งตามกำหนดเดิมเรือ “Ever Aria” ควรที่จะถึงโคลัมโบแล้ว แต่ทว่าล่าสุดเรือลำนี้เพิ่งจะผ่านแหลมกู๊ดโฮปไปได้ไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงทำให้เรือ “Ever Aria” ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถือสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก เรื่องนี้มิได้เกิดแก่เรือ “Ever Aria” เพียงลำเดียวเท่านั้น แต่การที่กบฏฮูตีโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการขนส่งระหว่างเอเชียกับยุโรป โดยท่าเรือที่ได้รับผลกระทบเป็นพิเศษจากสถานการณ์นี้ ก็คือ ท่าเรือเมือง Piraeus (ประเทศกรีก) ซึ่งเป็นท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยบริษัท Piraeus Port Authority (PPA) ซึ่งบริหารโดย Cosco ที่เป็นรัฐวิสหกิจด้านจิสติกส์ของจีนได้เพิ่งจะขยายท่าเรือแห่งนี้ไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อต้องการพัฒนาให้ PPA กลายเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างตะวันออกไกลกับยุโรป โดยท่าเรือ Piraeus เป็นท่าเรือแห่งแรกในยุโรป ที่ผู้ขนส่งสินค้ามาจากประเทศในแถบเอเชียใช้บริการหลังจากผ่านคลองสุเอซ และที่ท่าเรือแห่งนี้จะมีตู้คอนเทนเนอร์จะถูกถ่ายโอนจากเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ (เรือแม่) ไปยังเรือขนาดกลางหรือเล็ก (Feeder Ship) เพื่อขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือในแถบเมดิเตอร์เรเนียนต่อไป หรือขนส่งต่อไปยังรถไฟเข้าพื้นที่ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกต่อไป โดยในปี 2023 ท่าเรือ Piraeus เป็นจุดขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในยุโรป รองจากเมือง Rotterdam, Antwerpen และ Hamburg และในช่วง 9 เดือนแรกปี 2023 ท่าเรือ PPA มีผลประกอบการได้กำไรจากการดำเนินงาน (Ebitda) เพิ่มขึ้น 32.5% อยู่ที่ 99.9 ล้านยูโร แต่ถึงตอนนี้ วิกฤตในทะเลแดงกำลังคุกคามธุรกิจของท่าเรือ โดยในไตรมาสแรกของปี 2024 ผลกระทบได้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรม เรือคอนเทนเนอร์จากตะวันออกไกลมาถึงล่าช้าหลายสัปดาห์หรือไม่เข้าเทียบท่าเรือ Piraeus เลย เพราะเรือเหล่านี้ใช้เส้นทางผ่านแหลมกู๊ดโฮปและขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือของทะเลเหนือแทน อย่างบริษัทเรือเดินสมุทร AP Moller-Maersk จากประเทศเดนมาร์กได้หยุดการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดผ่านทะเลแดงจนกว่าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
กลุ่มกบฏฮูตีได้รับการสนับสนุนจากประเทศอิหร่านได้เข้าโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงหลายต่อหลายครั้ง ด้วยจรวดและโดรนมานานหลายสัปดาห์ต่อเนื่อง การกระทำดังกล่าวเพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มผู้ก่อการร้ายฮามาสในการทำสงครามกับประเทศอิสราเอล ก่อนเกิดวิกฤติดังกล่าว 30% ของการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก เดินทางผ่านทะเลแดงและคลองสุเอซ จากข้อมูลขององค์การการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMO – International Maritime Organization) แจ้งว่า ขณะนี้บริษัทขนส่งกว่า 18 บริษัท หลีกเลี่ยงที่จะใช้เส้นทางนี้ รวมถึงบริษัทอย่าง บริษัท Hapag-Lloyd ที่บริษัทเรือเดินสมุทรใหญ่ที่สุดของเยอรมนีด้วย บริษัท CMA CGM ของฝรั่งเศส บริษัท Cosco Container Lines ของจีน บริษัท Evergreen Line ของไต้หวัน และ บริษัท OOCL ของฮ่องกง พวกเขาเหล่านี้ต่างก็พร้อมใจกันยกเลิกการเข้าเทียบท่าเรือเมือง Piraeus ในเส้นทางเดินเรือระหว่างเอเชียไปยังยุโรป โดยใช้เส้นทางผ่านรอบแหลมกู๊ดโฮปไปยังยุโรปเหนือแทน โดยหากจะต้องมาท่าเรือดังกล่าวก็จะเป็นท่าเรือสุดท้าย ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางกลับไปทางแอฟริกาเหมือนกับที่เรือ “Ever Aria” ในการเดินทางกลับไปยังตะวันออกไกล สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศกรีซและประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนอื่น ๆ ประสบกับความล่าช้าในการจัดส่งสินค้าจำพวกสิ่งทอ รองเท้า เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และ รถยนต์ จากเอเชีย ส่งผลให้จีนถูกกดดันอย่างหนักให้ร่วมเข้าแก้ปัญหาดังกล่าว อีกด้านหนึ่งรัฐบาลกรุงปักกิ่งไม่ต้องการที่จะเข้าข้างฝั่งตะวันตกในความขัดแย้งในฉนวนกาซา แต่ในทางกลับกันจีนในฐานะผู้ดำเนินการท่าเรือในเมือง Piraeus และเป็นผู้จัดหาสินค้าหลายรายการที่มีการถ่ายลำที่นั่น มีต้องการให้สถานการณ์ด้านการขนส่งในทะเลแดงที่กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยจีนออกมาแสดง “ความกังวล” ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและจีนประกาศท่าทีอย่างชัดเจนที่จะต่อต้านการโจมตีเรือพลเรือน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวโดยไม่ยอมเอ่ยนามกลุ่มกบฏฮูตีว่า “ทุกฝ่ายควรแสดงจุดยืนที่ดีและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง” นักการทูตฝังตะวันตกไม่ได้ออกมาปฏิเสธว่า ปักกิ่งใช้กำลังภายในอย่างไม่เป็นทางการอย่างหนักเพื่อยุติการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี
เมื่อต้องใช้เวลาในการเดินทางนานขึ้น ความจุจึงน้อยลงโดยอัตโนมัติ ผลที่ตามมาก็คือ อัตราค่าระวางเรือจึงสูงขึ้น ตามข้อมูลของ Freightos แพลตฟอร์มการจองการขนส่งทางเรือ ค่าใช้จ่ายในการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต ในตลาดสปอต (Spot Market – เป็นตลาดเงินสด คือสถานที่ที่มีการซื้อขายสินทรัพย์เพื่อส่งมอบทันที) เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตัวหรือมากกว่ามากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2024 บริษัทขนส่งที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวก็คือ บริษัทอย่าง AP Moller-Maersk ที่หุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในระหว่างที่หุ้นของบริษัท Hapag-Lloyd เองก็เพิ่มขึ้น 51% เช่นกัน นอกจากนี้ บริษัทให้เช่าเรือเดินสมุทร Costamare Shipping ชาวกรีก ซึ่งเป็นควบคุมระวางน้ำหนัก 1 ใน 5 ของระวางน้ำหนักทั่วโลก ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ชนะวิกฤตนี้เช่นกัน เพราะบริษัทส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ดำเนินการเรือตู้คอนเทนเนอร์ด้วยตนเอง แต่มักจะเช่าเหมาลำกับบริษัทเรือเดินสมุทรแทน ทำให้หุ้นของบริษัท Costamare Shipping ที่ตั้งอยู่ในกรุงเอเธนส์ประเทศเพิ่มขึ้น 20% ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย
จาก Handelsblatt 29 มกราคม 2567