ในเวลานี้บริษัท Volkswagen (VW) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันกำลังเจรจากับบริษัท SAIC พันธมิตรในจีนเกี่ยวกับการส่งมอบบริษัทลูกในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุนกูร์ ซึ่งตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของจีน โดยโฆษกของ VW ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เรากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ต่าง ๆ” ซึ่งปัจจุบันกำลังหารือ SAIC- Volkswagen บริษัท Joint Venture ถึงแนวโน้มการปฏิบัติตัวของบริษัทในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบริษัท VW ได้เผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาว่า ชาวอุยกูร์อาจถูกใช้เป็นแรงงานทาสในบริษัทลูกของ Volkswagen ที่ร่วมกันตั้งกับบริษัท SAIC ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐ ในเวลานี้บริษัท VW เปิดโรงงานผลิตรถยนต์และสนามทดสอบในเขตปกครองดังกล่าวอยู่
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีการให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ถึงรายงานข้อกล่าวหาใหม่ของบริษัท VW ในประเทศจีน โดยพนักงานของบริษัทให้ข้อมูกแก่ Handelsblatt ว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นในระหว่างการก่อสร้างสนามทดสอบ และจากการตรวจสอบของนาย Adrian Zenz นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญของมนฑลซินเจียงได้แสดงหลักฐานให้เห็นว่า มีการบังคับใช้แรงงานในการก่อสร้างสนามทดสอบในประเทศจีน เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาบริษัทก็ยังยืนยันว่า ไม่มีแผนที่จะถอนตัวจากเขตปกครองตนเองซินเจียง โดยในเดือนธันวาคม 2023 บริษัท Volkswagen ได้ออกมานำเสนอผลการสอบสวนว่าไม่พบความผิดปกติของการใช้แรงงานและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงงานผลิตรถยนต์แต่อย่างใด แต่ในช่วงที่มีการตรวจสอบนั้น บริษัท Volkswagen กลับติดต่อกับฝ่ายบริหารของบริษัท SAIC เรื่องการถอนตัวออกจาก Joint Venture ตามที่หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ได้รับทราบข้อมูลจากวงในที่เชื่อถือได้ ซึ่งการหารือนี้กระทำการอย่างรอบคอบเพื่อบ้องกันไม่ให้เกิดความขุ่นเคืองกับบริษัทคู่ค้าชาวจีน ในปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 200 คนทำงานที่โรงงาน SAIC-Volkswagen ในเมืองอุรุมชี ซึ่งถือว่ามีจำนวนถึง 1 ใน 4 ของพนักงานเป็นชาวอุยกูร์ เมื่อดูจากขนาดของโรงงานแล้วนั้น โรงงานนี้ไม่น่าจะมีผลกระทบเชิงเศรษฐกิจสำหรับ VW มากนัก ปัจจุบันในสายการผลิตมีการดำเนินการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์สำเร็จรูปเท่านั้น หลังจากที่หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานเกี่ยวกับหลักฐานใหม่ด้านการละเมิดสิทธิของแรงงานขึ้น ทำให้บริษัท VW ในรัฐ Niedersachsen ในเยอรมนีรู้สึกว่า เหมือนถูกบังคับให้ต้องแสดงความเห็นสู่สาธารณะออกมา นอกจากนี้บริษัทเคมีภัณฑ์ BASF เองก็ออกมาประกาศว่ามีความประสงค์ที่จะขายกิจการของตนในเขตปกครองตนเองซินเจียงเช่นกัน
การที่ผู้ผลิตรถยนต์ในจีนอย่าง SAIC พร้อมที่จะปล่อยบริษัท Volkswagen ออกจาก Joint Venture ก็อาจเป็นเรื่องมาจากการผลักดันทิศทางของบริษัทไปยังฝังตะวันตก ปัจจุบันบริษัท SAIC ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายใต้ยี่ห้อ MG ซึ่งเป็น EV ที่เริ่มจำหน่ายในประเทศเยอรมนีแล้ว แน่นอนที่ข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เกี่ยวกับการกดขี่ชาวอุยกูร์นั้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัท SAIC หรือรถยี่ห้อ MG ได้เช่นกัน นาย Zenz ผู้เชี่ยวชาญด้านซินเจียงออกมาเรียกร้องให้บริษัท VW ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยนาย Zenz กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ว่า “Volkswagen ไม่สามารถกระทำการแบบลังเลใจได้อีกต่อไปแล้ว” โดยปัจจุบันนาย Zenz เป็น Senior Fellow ของมูลนิธิรำลึกถึงเหยื่อที่เกิดขึ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ (Memorial Foundation for the Victims of Communism) ในกรุงวอชิงตัน และเป็นค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานทาศและค่ายกักกันในภูมิภาคนี้มานานหลายปี
สำหรับ Volkswagen ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ซึ่งปัญหาของบริษัทที่ตั้งอยู่ในซินเจียงนั่นถือเป็นความเสี่ยงต่อชื่อเสียงอันยาวนานของบริษัท โดยหลังจากการเปิดเผยล่าสุดในหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ได้ทำให้นักลงทุนและนักการเมืองสร้างแรงกดดันหนักขึ้นต่อ VW และต้องการให้บริษัทถอนตัวจากซินเจียงโดยเร็วที่สุด ซึ่งข้อกล่าวหาในวันนี้ได้สร้างมิติใหม่ของบัญหาให้กับบริษัทแล้ว โฆษกของบริษัท Union Investment กองทุนเพื่อการลงทุนกล่าวว่า “ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เราไม่สามารถร่วมลงทุนกับ VW ด้วยเงินจากกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Mutual Funds) ของเราได้อีกต่อไป” นาย Stephan Weil สังกัดพรรคสังคมนิยมเพื่อประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD – Sozialdemokratische Partei Deutschlands) ผู้ว่าการรัฐ Niedersachen กล่าวว่า “รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านการสร้างสนามทดสอบของ VW ในเมือง Turpan นั้นสร้างความกังวลใจให้เราเป็นอย่างยิ่ง” โดยรัฐ Niedersachen เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของ Volkswagen รองจากตระกูล Porsche/Piëch โดยนาง Gyde Jensen รองประธานคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่ออิสรภาพและประชาธิปไตย (FDP – Freie Demokratische Partei) ในรัฐสภาเยอรมันกล่าวกับหนังสือพิพม์ Handelsblatt ว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภูมิภาคนี้ตั้งใจกดขี่ของชาวอุยกูร์ขนาดไหน และบริษัทเยอรมันทุกรายที่ตั้งโรงงานและประกอบธุรกิจในภูมิภาคดังกล่าวต้องตระหนักถึงเรื่องนี้” นอกจากนี้นาย Reinhard Bütikofer นักการเมืองพรรคพรรคยุค 90 พันธมิตรสีเขียว (Bündnis 90/Die Grünen) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยุโรปยังได้ออกมาเรียกร้องให้ VW ถอนตัวออกจากภูมิภาคดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า “แม้จะมองข้ามความจริงมาหลายต่อหลายปี ในเวลานี้ Volkswagen ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า พวกเขาเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้แรงงานทาสในซินเจียงตามคำสั่งของผู้นำจีน”
จาก Handelsblatt 1 มีนาคม 2567