การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนมกราคม 2567 มีมูลค่า 69.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 9.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 70.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 4.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเมษายน 2566 – มกราคม 2567 มีมูลค่า 638.37 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 0.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน 2566 – มกราคม 2567 มีมูลค่า 708.79 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 5.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
1. การค้าสินค้า
การส่งออก เดือนมกราคม 2567 มีมูลค่า 36.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 35.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและ อัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 26.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 25.48 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ แร่เหล็ก ยาสูบ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องเทศ ธัญพืชกึ่งสำเร็จรูปและสินค้าเกี่ยวเนื่อง
ภาพรวมการส่งออกสินค้าที่สำคัญในเดือนมกราคม 2567 มูลค่าการส่งออกสินค้าอินเดีย ขยายตัวร้อยละ 3.12 เทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อนหน้า โดยมีสินค้าหลักที่ขับเคลื่อนมูลค่าการส่งออกสินค้าอินเดีย ได้แก่ สินค้าปิโตรเลียม สินค้าวิศวกรรม เหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และเภสัชภัณฑ์
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน -มกราคม 2567) มีมูลค่า 353.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 372.10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 256.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 259.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวช่วง 10 เดือนแรก ได้แก่ แร่เหล็ก กากพืชน้ำมัน เครื่องใช้ไฟฟ้า แก้วและเซรามิก ผักและผลไม้
.
การนำเข้า เดือนมกราคม 2567 มีมูลค่า 54.41 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 52.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 33.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 34.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ปุ๋ยและวัตถุดิบผลิตปุ๋ย กระดาษหนังสือพิมพ์ ซัลเฟอร์และเหล็กที่ยังไม่ขึ้นรูป สินค้าด้านวิศวกรรม และน้ำมันพืชสำหรับบริโภค
ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน – มกราคม 2567) มีมูลค่า 561.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 601.47 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 354.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 367.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัวช่วง 10 เดือนแรก ได้แก่ ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย ซัลเฟอร์และเหล็กที่ยังไม่ขึ้นรูป ปุ๋ยและวัตถุดิบผลิตปุ๋ย น้ำมันพืชบริโภค และถ่านหิน
ดุลการค้าสินค้า เดือนมกราคม 2567 ขาดดุลการค้า 17.49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 17.03 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าสะสม 10 เดือนแรกมูลค่า 207.20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 229.37 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
2. การค้าบริการ*
เดือนมกราคม 2567 การส่งออกบริการมีมูลค่า 32.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 28.00 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 16.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 14.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 16.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 13.17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการบริการ 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-มกราคม 2567) มีมูลค่าเกินดุล 136.77 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วง 10 เดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 117.39 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ข้อคิดเห็น
1. เดือนมกราคม 2567 อินเดียขาดดุลการค้าน้อยลง 12% จากเดือนก่อนหน้า โดยทั้งการนำเข้าและส่งออกสินค้ามีมูลค่าน้อยลง แต่มูลการนำเข้าปรับตัวลงมากกว่า สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวมากที่สุดในเดือนนี้ ได้แก่ เหล็ก ซึ่งอินเดียส่งออกเพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 109% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และถือเป็นการส่งออกเหล็กปริมาณมากที่สุดในรอบ 18 เดือน โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เหล็กอินเดียส่งออกในปริมาณมากในขณะนี้ ได้แก่ การที่ราคาเหล็กอินเดียราคาถูกกว่าประเทศอื่น ความต้องการเหล็กที่มากขึ้นจากประเทศในสหภาพยุโรป รวมถึงการที่คู่แข่งอย่างจีนและเวียดนามอยู่ในช่วงเทศกาลสำคัญประจำปี ได้แก่ Lunar Holiday และ Tet Festival ตามลำดับ
.
2. หนึ่งในสาเหตุหลักที่การส่งออกสินค้ามีมูลค่าน้อยลงในเดือนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ทำให้การขนส่งลำเลียงสินค้าผ่านน่านน้ำทะเล Red Sea เกิดความล่าช้าและมีต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านประกันที่สูงขึ้น ซึ่งอินเดียใช้น่านน้ำดังกล่าวเป็นช่องทางการลำเลียงสินค้าส่งออกถึง 30% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อินเดียกำลังเจรจากับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอยืดระยะเวลาการให้เครดิตชำระเงินแก่ผู้ส่งออก รวมถึงการขอผ่อนผันการขึ้นราคาประกันสินค้าในการส่งออกเพื่อพยุงสถานการณ์ส่งออกของอินเดีย สาเหตุอื่นที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกอินเดีย ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลกที่ยังซบเซา และภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศคู่ค้าที่สำคัญ
.
3. ในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ การส่งออกสินค้าของอินเดียมีมูลค่าลดลง 4.8% การนำเข้ามีมูลค่าลดลง 6.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า บ่งบอกถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ ตลาดส่งออกหลักของอินเดียในช่วง 10 เดือนแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร จีน และ U.A.E. ในส่วนตลาดนำเข้าหลักของอินเดีย ได้แก่ รัสเซีย สวิสเซอร์แลนด์ จีน เกาหลี และสิงคโปร์
****************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ กรุงนิวเดลี
.
*หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนธันวาคม 2566 ในส่วนของข้อมูลของเดือนมกราคม 2567 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
.
ข้อมูลอ้างอิง:
– Ministry of Commerce and Industry, 15 Feb 2024, Latest Trade Figures
– Mint, 15 Feb 2024, Trade deficit in Jan dips as imports fall more than exports
– Deccan Herald, 25 Feb 2024, India’s steel exports hit 18-month high in January 2024
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
563 ถนน นนทบุรี ตำบล บางกระสอ
อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-507-7999
สายตรงการค้าระหว่างประเทศ: 1169
ผู้ใช้ที่กำลังออนไลน์ : 4 คน | จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 6214496 คน
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ