จบไปแล้ว กับงาน Alimentaria & Hostelco 2024 ณ นครบาร์เซโลนา งานแสดงสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม food service และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ hospitality ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของยุโรป ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 18 – 21 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้า Fira de Barcelona งานครั้งนี้สร้างสถิติใหม่ด้านผู้เข้าร่วมจากนานาชาติ ตอกย้ำความสำคัญในฐานะเวทีการค้าระดับโลกและพื้นที่นำเสนอเทรนด์ใหม่ของวงการ โดยเทรนด์ด้านสุขภาพ ความยั่งยืน โปรตีน และ AI มาแรงกว่าใครตลอด 4 วันของการจัดงาน
จากสถิติเบื้องต้นที่เปิดเผยโดย Fira de Barcelona พบว่าในปีนี้ มีผู้ประกอบการกว่า 3,200 รายจาก 68 ประเทศเข้าร่วมแสดงสินค้าบนพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมงาน 107,900 ราย แซงหน้าจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า Mobile World Congress ที่จัดไปก่อนหน้าเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
จากจำนวนผู้แสดงสินค้า 3,200 ราย พบว่าเป็นบริษัทต่างชาติ 900 ราย โดยเวบไซต์ทางการได้กล่าวถึงผู้แสดงสินค้าจากเอเชียว่า “พวกเขากลับมาอีกครั้ง ประกอบด้วยเจ้าเก่าอย่างจีน เกาหลีใต้ และไทย” อย่างไรก็ตาม อิตาลีเป็นผู้แสดงสินค้าจากต่างชาติที่ตบเท้าเข้าร่วมงานมากที่สุด ส่วนในด้านจำนวนผู้เยี่ยมชมงาน พบว่าร้อยละ 25 จากผู้เข้าเยี่ยมชมงานทั้งหมด หรือประมาณ 27,000 รายเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 120 ประเทศ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานหลายรายสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นผู้เยี่ยมชมงานที่มีคุณภาพ และมีอำนาจในการตัดสินใจซื้อจริง ตัวเลขเหล่านี้ทำให้งาน Alimentaria & Hostelco ก้าวสู่ความเป็นสากลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้งานกลายเป็นเวทียุทธศาสตร์ จุดตัดสำคัญในวงการอาหารและเครื่องดื่ม
ในด้านการสร้างโอกาสทางการค้า ผู้จัดงานได้เชิญผู้ซื้อ 2,200 รายจากทั่วโลก อาทิ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และ ละตินอเมริกา พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยการจัดทำนัดหมายผ่านทางออนไลน์ล่วงหน้า นำไปสู่การพบปะเจรจาธุรกิจกว่า 13,500 ครั้ง
เทรนด์สำคัญที่พบได้ตลอด 4 วันของงานแสดงสินค้า ได้แก่ functional food และ AI โดยนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ แนวโน้มความนิยมโปรตีน ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ การใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์ และการนำเสนอทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร ทรัพยากร การดูแลรักษา การบริการลูกค้า รวมถึงประเด็นด้านความยั่งยืน เป็นหัวใจสำคัญของบทสนทนาภายในงาน
หนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมที่ Alimentaria & Hostelco ดำเนินการร่วมกับอาสาสมัครจาก Food Bank Foundation คือ การขอรับบริจากอาหารและเครื่องดื่มจากผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนอาหาร
ในงานครั้งนี้ มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานทั้งหมด 11 บริษัท เป็นการเข้าร่วมผ่านโครงการ SMEs Pro-active 3 บริษัท คือบริษัท Proplan Industrial Co., Ltd แบรนด์ ChefArt บริษัท Chef’s Selection Co., Ltd แบรนด์ Khao และ บริษัท Thai Younger Farm Co., Ltd แบรนด์ Thai Younger Farm นอกเหนือจากนั้น บริษัทไทยเข้าร่วมอีก 8 ราย ประกอบด้วย Mas Choices, Sappé, if (General Beverage), Suree, KRS (J Lek), Exotic food, Ampol food, Pantainorasingh
สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในงาน ได้แก่ ซอสพริก ซอสปรุงสำเร็จ เครื่องแกงพร้อมรับประทานและเครื่องแกงพร้อมปรุง เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ได้แก่ snacks จากวัตถุดิบไทย เช่น ข้าวแต๋น กราโนลาข้าว มะพร้าวอบกรอบ เป็นต้น สำหรับสินค้าศักยภาพในอนาคต ได้แก่ สิ่งปรุงรส ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม กลุ่ม functional food รวมถึงสินค้าที่มีความโดดเด่น แตกต่าง ด้วยนวัตกรรม วัตถุดิบ กระบวนการผลิต หรือบรรจุภัณฑ์การออกแบบ
งานแสดงสินค้า Alimentaria & Hostelco ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในอีก 2 ปี ระหว่างวันที่ 23 – 26 มีนาคม 2569 ณ นครบาร์เซโลนา จึงขอเชิญผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดและบุกเจาะตลาดใหม่แถบยุโรปใต้ แอฟริกาเหนือ และละตินอเมริกา ติดต่อสอบถามขอข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าร่วมงานมาได้ที่ info@thaitradespain.com หรือ ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับโครงการ SMEs Pro-active ได้ที่ smespro@ditp.go.th
****เกี่ยวกับ SMEs Pro-active****
โครงการ SMEs Pro-active มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ไทยในตลาดโลก โดยการสนับสนุนให้ SMEs สามารถขยายช่องทางในตลาดต่างประเทศด้วยตนเองได้มากขึ้น ผู้ประกอบการสามารถเลือกกิจกรรมที่จะเข้าร่วมด้วยตนเองตามกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท ซึ่ง SMEs จะได้รับประโยชน์โดยตรงในการเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะการขยายตลาดผ่านช่องทางการค้ารูปแบบใหม่ๆ อ่านข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://smesproactive.ditp.go.th/FAQ
ข้อคิดเห็นของสคต.
- งาน Alimentaria & Hostelco เป็นงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพและนับเป็นเวทียุทธศาสตร์สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการบุกเจาะตลาดใหม่ มีจุดเด่น อาทิ ขนาดที่พอดีสามารถเดินได้ทั่วถึง ความหลากหลายของผู้เยี่ยมชมงานซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อคุณภาพไม่ต่างจาก Anuga และ SIAL ขณะเดียวกันยังมีผู้ซื้อจากแถบแอฟริกาเหนือ อาทิ โมรอคโค อัลจีเรีย และละตินอเมริกามาเข้าร่วมด้วย ส่วนความท้าทาย คือ การสื่อสารด้านภาษา และการนำเสนอสินค้าให้แก่ผู้ซื้อหรือลูกค้าที่ยังไม่คุ้นเคยกับอาหารไทยมากนัก ผู้เข้าร่วมงานจึงจะต้องมีการวางแผนและเตรียมกลยุทธ์สื่อสาร การประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้เป็นพิเศษ
- ปัจจุบันการส่งออกสินค้าอาหารไทยไปยังตลาดสเปนและโปรตุเกสยังมีไม่มากนัก เนื่องด้วยขนาดของชุมชนไทยที่ค่อนข้างเล็ก (สถิติชาวไทยในสเปนในปี 2565 มีจำนวน 2,326 คน) ประกอบกับผู้บริโภคท้องถิ่นยังไม่ค่อยรู้จักอาหารไทยอย่างกว้างขวางนัก แต่อย่างไรก็ตาม ความนิยมมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคท้องถิ่นรุ่นใหม่เปิดกว้างพร้อมทดลองรสชาติใหม่ และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่คุ้นเคยกับอาหารไทยจำนวนมาก ทำให้ผู้นำเข้าประสงค์จะแสวงหาสินค้าใหม่จากไทยมากขึ้น นับเป็นโอกาสสดใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทย ซึ่ง สคต. ได้เชิญผู้นำเข้าร่วมงานแสดงสินค้า THAIFEX Anuga 2024 ที่จะถึงนี้ พร้อมกำหนดแผนงานสร้างการรับรู้เกี่ยวกับอาหารไทย กระตุ้นกระแสความนิยมให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในตลาด โดยวางกลยุทธ์การดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่น มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าในกระแสหลักที่มีกำลังซื้อสูง มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ ควบคู่ไปกับการแนะนำสินค้าที่หลากหลายของไทยให้ตลาดได้รู้จักมากยิ่งขึ้น สอดรับนโยบายการเป็นครัวโลกและใช้ประโยชน์จากความเข้มแข็งด้าน Food Soft Power ของไทย
ที่มา : Alimentaria และ la vanguardia
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมาดริด
มีนาคม 2567
Thai 
English 
Chinese 
Japanese 
German