เทรนด์เครื่องดื่ม Functional Drink

ชาวสหราชอาณาจักรจำนวนมากมีความใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยผู้บริโภคจำนวนมากเลือกที่จะหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปสูง (Ultra-Processed Foods) และเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮล์โดยปริมาตรต่ำ (Alcohol by volume: ABV) หรือไม่มีแอลกอฮอล์ จากการวิจัยล่าสุดของ Mintel ระบุว่าเทรนด์ “การเข้าสังคมแบบไม่เมา” หรือ “sober socialising” เป็นเทรนด์ที่ Gen Z ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะโอกาสพิเศษและการเลี้ยงฉลองเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (Soft Drinks) ที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่ม Functional Drink

Functional Drink คือ เครื่องดื่มที่เพิ่มเติมส่วนผสมที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น CBD สมุนไพร อะแดปโตเจน เช่น เห็ด แอล-ธีอะนีน (L-theanine) และ โสมอินเดีย (Ashwagandha) เป็นต้น เครื่องดื่ม Functional Drink เป็นตลาดเครื่องดื่มที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 42 แซงหน้าการเติบโตของตลาดน้ำอัดลม (Soft Drink) โดยรวม ที่เติบโตร้อยละ 10 ซึ่งถือเป็นโอกาสในการทำตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink ในสหราชอาณาจักร โดยรูปแบบของเครื่องดื่ม Functional Drink ที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นขวดช็อต “shots” สำหรับดื่มวันละครั้ง ซึ่งทำให้ง่ายต่อการบริโภค

สื่อ Speciality Food Magazine ได้รวบรวมเทรนด์เครื่องดื่ม Functional Drink ที่ได้รับความนิยมใน สหราชอาณาจักร ดังนี้

เครื่องดื่มอะแดปโตเจน (Adaptogen) – สมุนไพรและเห็ดที่เชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยผ่อนคลายปรับสภาพอารมณ์ ความเครียด และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
เครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อลำไส้ (Gut-friendly) ช่วยในการย่อยอาหาร และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน เช่น คอมบูชา
เครื่องดื่มช่วยให้ผ่อนคลายและการนอนหลับ – เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยทำให้ร่างกาย และจิตใจสงบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนอนหลับ เช่น เห็ดหลินจือ CBD หรือ โสมอินเดีย (Ashwagandha)
นมจากพืช (Plant-Based Milk) – ที่เพิ่มเติมวิตามิน แคลเซียม และกรดไขมันโอเมก้า 3
เครื่องดื่มชูกำลังจากธรรมชาติที่ปราศจากคาเฟอีนที่มา: Speciality Food Magazine
ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต. สคต. เห็นว่าตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink เป็นตลาดที่มีการขยายตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการขยายการส่งออกสินค้าเครื่องดื่ม Functional Drink มายังตลาดสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการควรศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเนื่องจากผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่แตกต่างกันไป รวมทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคชาวสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญ