จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ HelloFresh (บริษัทนานาชาติที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายชุดกล่อง (Kit) สูตรทำอาหารพร้อมส่งถึงบ้าน) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2567 ชาวอิตาเลียนค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับสูตรทำอาหาร ร้านอาหาร และส่วนผสมอาหารเอเชีย มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 54% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนมกราคมไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการค้นหาข้อมูลมากที่สุด ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาลเฉลิมฉลองตรุษจีน โดยพบว่าอาหารจีนถือเป็นอาหารที่ชื่นชอบและเป็นที่ต้องการรับประทานมากที่สุดของชาวอิตาเลียน ในขณะที่ ร้านอาหารเกาหลีขึ้นแท่นอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมและได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของ HelloFresh ได้จัดลำดับของการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับอาหารเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการข้อมูลของประเภทอาหาร ร้านอาหาร สูตรอาหาร และส่วนผสมที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในอิตาลี โดยอันดับ 1 อาหารจีนที่มีรสชาติเข้มข้น คิดเป็นสัดสัวน 57% ของการค้นหาข้อมูลอาหารทั้งหมด อันดับ 2 อาหารญี่ปุ่นที่มีความสมดุล คิดเป็นสัดส่วน 31% อันดับ 3 รสชาติเผ็ดร้อนของอาหารเกาหลี คิดเป็นสัดส่วน 7% และอันดับ 4 รสชาติที่จัดจ้านของอาหารไทย คิดเป็นสัดส่วน 5%
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ร้านอาหารเอเชียเติบโตเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความสนใจและการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ชาวอิตาเลียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีที่มีการค้นหาข้อมูลออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 83% ในอิตาลี หรือที่เรียกว่า “กระแสความนิยมเกาหลี” ซึ่งถือว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาคอุตสาหกรรมความงาม และอุตสาหกรรมบันเทิง หรือ Soft Power ของเกาหลีนั้นเอง ซึ่งภาคอุตสาหกรรมอาหารเกาหลีก็เช่นเดียวกันที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น และนับได้ว่าเทรนด์ของร้านอาหารเกาหลีได้แซงหน้าการค้นหาข้อมูลร้านอาหารจีนเล็กน้อย (อยู่ที่ +82%) ในขณะที่ร้านอาหารไทย มีการค้นหาข้อมูลเพิ่มขึ้น 50% และนับว่าได้แซงการค้นหาร้านอาหารญี่ปุ่นไปแล้ว (อยู่ที่ +22%) ปัจจุบัน แรงดึงดูดที่สำคัญของผู้บริโภคที่รับประทานอาหารนอกบ้าน โดยจะมุ่งเน้นไปที่อาหารที่มีการปรุงแต่งไม่มาก/ประดิษฐ์น้อยลง รวมถึงความสุขที่ได้ลองปรุงอาหารใหม่ๆ และความต้องการที่ได้ทดลองสูตรอาหารจากวัฒนธรรมเอเชียในครัวของชาวอิตาเลียนก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น
เครดิตภาพ : Jakub Kapusnak
สำหรับวัตถุดิบอาหารเอเชียที่พิชิตใจชาวอิตาเลียนมีหลากหลาย โดยเฉพาะเต้าหู้ (ซึ่งมีการค้นหาข้อมูลถึง 1,547,000 ครั้ง) ซึ่งเต้าหู้ถือเป็นส่วนผสมที่เป็นเลิศของอาหารวีแกนหรืออาหารที่มีโปรตีนสูง ในขณะที่ ปริมาณการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับซอสต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ซอสเผ็ดวาซาบิ ซอสเทอริยากิและซอสพอนสึของญี่ปุ่น ซอสเปรี้ยวหวานของจีน และซอสหอยนางรมของไทย นอกจากนี้ ในบรรดาส่วนผสมจากเอเชียที่กำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น อาทิ มิโซะ (มีการค้นหาข้อมูลมากถึง 650,000 ครั้ง) เครื่องปรุงรสของสูตรอาหารเกาหลีและญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าวสาเกที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น ขนมปังแพนโกะ เกล็ดขนมปังสูตรญี่ปุ่น เป็นต้น โดย HelloFresh มองว่าการค้นหาส่วนผสมที่พิเศษและการพยายามทำอาหารเอเชียเองที่บ้านเป็นเรื่องง่ายและใช้งานได้จริงในยุคปัจจุบัน ซึ่งในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา HelloFresh ได้เปิดตัวสูตรอาหารพรีเมียมที่คัดสรรอย่างดี “Journey to Asia” ได้แก่ อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี และอาหารไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ลองทำสูตรอาหารเอเชีย โดยสูตรเมนูอาหารไทย คือ แกงพะแนงกุ้งเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ
HelloFresh ยังได้เปิดเผยข้อมูลถึงสูตรอาหารที่มีการค้นหามากที่สุดในยุโรป 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 อาหารญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าการค้นหาเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นจะลดลง แต่ซูชิยังถือเป็นเมนูจานพิเศษที่มีการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์มากที่สุดในอิตาลี เยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร โดยเมนูซูชิถือเป็นเมนูที่ทำจากข้าว เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่น อันดับ 2 ยังคงเป็นอาหารญี่ปุ่น เมนูราเมนสปาเก็ตตี้ข้าวสาลีเสิร์ฟในน้ำซุปเนื้อหรือปลาพร้อมเครื่องปรุงเพิ่มเติม อันดับ 3 สำหรับในอิตาลี เป็นเมนูบะหมี่เส้นเหลืองของจีน สำหรับประเทศเยอรมนี สเปน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร เป็นเมนูกิมจิของเกาหลี ซึ่งเป็นสูตรอาหารที่ใช้ผักหมัก ในขณะที่ เมนูกิมจิของเกาหลีเป็นเมนูที่ค้นหาอันดับ 4 ในอิตาลี สำหรับอันดับ 4 และอันดับ 5 จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเทศ โดยเยอรมนี และสเปน อันดับ 4 เป็นอาหารไทยเมนูผัดไทย แต่ฝรั่งเศสจะเป็นเมนูข้าวยำเกาหลี อาหารจานเดียวที่เสิร์ฟในชามหินร้อน ในขณะที่ สหราชอาณาจักร ติ่มซำแบบจีนซึ่งรวมถึงอาหารนึ่งประเภทต่างๆ และอันดับ 5 ในอิตาลี และสหราชอาณาจักร คือ เมนูผัดไทย ในขณะที่ เยอรมนี คือ เมนูข้าวยำ แต่สำหรับในฝรั่งเศส และสเปน คือ เมนูติ่มซำ
เครดิตภาพ : Fernando Santos
เครดิตภาพ : Andraz Lazic
ความคิดเห็นของ สคต. ณ เมืองมิลาน
1. อาหารเอเชียได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ชาวอิตาเลียนให้ความสนใจและมีการบริโภคเพิ่มขึ้นในช่วง 3 -4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ผลักดันให้อาหารเอเชียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในอิตาลี ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศในแถบเอเชียเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติอาหารที่แท้จริง จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยในอิตาลีขยายตัวเพิ่มขึ้น การวางจำหน่ายสินค้าอาหารเอเชียในร้านค้าเอเชีย/ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกและง่ายต่อผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า และผู้บริโภคในอิตาลีมองว่าอาหารเอเชียถือเป็นอาหารที่มีความหลากหลาย มีการปรุงแต่งไม่มาก และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
2. สำหรับแนวโน้มการบริโภคอาหารไทยในอิตาลีพบว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาหารไทยได้รับการกล่าวถึงและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดให้บริการร้านอาหารไทยในเมืองต่าง ๆ ในอิตาลีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า อาหารไทยค่อย ๆ ขยายเข้าสู่ครัวเรือนของชาวอิตาเลียนแล้ว ถึงแม้จำนวนร้านอาหารไทยในอิตาลีจะมีให้บริการน้อยกว่าร้านอาหารเอเชียอื่น ๆ อาทิ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารจีน เป็นต้น แต่ก็ถือว่าอาหารไทยยังคงมีโอกาสในการเจาะตลาดอาหารในอิตาลีได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมนูผัดไทยที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด เนื่องจากเส้นผัดไทยมีความคล้ายคลึงกับเส้นพาสต้า ซึ่งชาวอิตาเลียนมีความคุ้นชินอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งแกงกะทิ ได้แก่ แกงมัสมั่น แกงพะแนง และแกงเขียวหวาน ที่มีรสชาติกลมกล่อมไม่จัดจ้านจนเกินไป ซึ่งค่อนข้างถูกปากชาวอิตาเลียน นอกจากนี้ พบว่ามีร้านอาหารไทยส่วนหนึ่งที่มีการนำเสนอเมนูอาหารไทยใหม่ ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและหาทานยากในอิตาลี เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับเมนูอาหารไทยต่าง ๆ ที่อยู่นอกเหนือเมนูอาหารไทยในร้านอาหารไทยทั่วไป ซึ่งพบว่าชาวอิตาเลียนให้ความสนใจทดลองชิมเป็นจำนวนมาก
3. ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กุมภาพันธ์) สินค้าอาหารไทยที่ส่งออกมายังอิตาลี ยังคงขยายตัวได้ดีมาก ได้แก่ ปลาหมึก มีชีวิต สด แช่เย็น แช่แข็ง (+50.75%) ข้าว (+141.70%) เครื่องดื่ม (+127.40%) เป็นต้น
4. ที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน ตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างการรับรู้ต่ออาหารไทยในอิตาลีมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ กิจกรรมส่งเสริมด้านการค้า กิจกรรมการสาธิตทำอาหารไทย และกิจกรรมการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่สำคัญในอิตาลี อาทิ งาน TUTTOFOOD และงาน CIBUS รวมถึงการเชิญชวนผู้นำเข้าสินค้าอาหารเข้าร่วมเจรจาการค้าในงานแสดงสินนานาชาติในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน มีแผนประชาสัมพันธ์อาหารไทย ภาคธุรกิจบริการร้านอาหาร Thai SELECT ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า CIBUS 2024 (กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2567) ซึ่ง สคต. ณ เมืองมิลาน มีความเห็นว่า การเข้าร่วมงานดังกล่าวจะสร้างการรับรู้ให้กับอาหารไทยและร้านอาหาร Thai SELECT ในอิตาลีและในเขตอาณาเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ สคต. ณ เมืองมิลาน ยังมีเป้าหมายขยายจำนวนร้านอาหาร Thai SELECT ในอิตาลี ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกด้วย (ปัจจุบันมี 11 ร้าน)
——————————————————————-
ที่มา: https://www.foodaffairs.it/2024/03/12/dallormai-classico-sushi-alla-korean-wave-la-cucina-asiatica-conquista-italia-ed-europa/
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
563 ถนน นนทบุรี ตำบล บางกระสอ
อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-507-7999
สายตรงการค้าระหว่างประเทศ: 1169
ผู้ใช้ที่กำลังออนไลน์ : 2 คน | จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 6230323 คน
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ