วิถีชีวิตแบบยั่งยืน ไม่เป็นเพียงแค่เทรนด์เท่านั้น แต่นั่นยังแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจอย่างมีสติ สำหรับโลกของเราในอนาคต โดยวิถีชีวิตแบบยั่งยืนยังถูกสะท้อนออกมาในอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรองเท้า รองเท้าวีแกนถือเป็นดาวดวงใหม่ของวงการแฟชั่น การสวมใส่รองเท้าวีแกนแสดงให้เห็นถึงการตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบทางจริยธรรม แต่ก็ยังคงซึ่งสไตล์และความสะดวกสบายในการสวมใส่
นาย Matthias Ordemeier หัวหน้าฝ่ายเสนอลูกค้าและการจัดการสินค้า แบรนด์รองเท้าTamaris กล่าวว่า พวกเราอยากนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจและตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับลูกค้ากลุ่มวีแกนของพวกเรา ในปีที่ผ่านมา อุปสงค์และอุปทานรองเท้าวีแกนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบรนด์รองเท้าต่างๆ เช่น Adidas VEJA หรือ Buffalo ต่างเริ่มนำเสนอรองเท้าวีแกนออกสู่ท้องตลาด โดย Adidas นั้น มีการนำวัสดุแบบยั่งยืนมาใช้ในการผลิตรองเท้ามาหลายปีแล้ว
ความนิยมร้องเท้าวีแกนอาจเริ่มมาจากบรรดา Influencer ที่สวมใส่รองเท้าและนำเสนอรองเท้าวีแกนในรูปแบบต่างๆ เมื่อลูกค้าเห็นก็เกิดความสนใจ โดยอุปสงค์ต่อรองเท้าวีแกนปีที่ผ่านมาในประเทศเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2567 ยอดขายรองเท้าชนิดนี้พุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นาย Thomas Reichel ผู้ก่อตั้งร้านขายรองเท้าวีแกนออนไลน์ Avesu กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรองเท้าวีแกนมักเป็นกลุ่มคนรักสัตว์และกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับการจ้างงานอย่างเป็นธรรม ลูกค้ากลุ่มนี้มีอายุระหว่าง 25-35 ปี ส่วนกลุ่มลูกค้าอายุ 40 ปีขึ้นไปก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ รองเท้าประเภทนี้อาจเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ปัจจุบันรองเท้าวีแกนถูกวางขายทั้งในร้านรองเท้าและช่องทางออนไลน์ ร้านรองเท้าหลายแห่ง เริ่มนำเสนอรองเท้าวีแกนควบคู่ไปกับรองเท้าที่ทำจากหนังสัตว์เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าของตน
วัสดุที่นำมาใช้ทำรองเท้าวีแกนส่วนใหญ่ทำมาจากหนังออร์แกนิกทางเลือกชนิดต่างๆ เช่น รองเท้าหนังแอปเปิ้ล ซึ่งทำมาจากกากแอปเปิ้ลร้อยละ 30 พลาสติก PET ที่รีไซเคิลได้ ผ้าฝ้าย และหนังยูรีเทน รองเท้าวีแกนจากไมโครไฟเบอร์ โดยไมโครไฟเบอร์สังเคราะห์เหล่านี้ บางส่วนประกอบด้วยวัสดุรีไซเคิลได้ เช่น โพลียูรีเทน โพลีเอสเตอร์ ไนลอน และเส้นใยฝ้าย รองเท้าวีแกนบางชนิดก็ทำมาจากพลาสติก PVC โดยผ่านกระบวนการผลิต และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้น้อยลง หรือทำมาจากสิ่งทอจากธรรมชาติ เช่น กัญชา ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย ไม้ก๊อก เป็นต้น หนังทางเลือกปราศจากพลาสติกที่กำลังเป็นที่พูดถึงในปัจจุบัน คือ Mirum โดยหนังทางเลือกชนิดนี้ทำมาจากน้ำยางธรรมชาติและส่วนผสมจากเส้นใยพืช เช่น เส้นใยจากมะพร้าว สาหร่าย เป็นต้น
โดยปกติแล้ว หนังทางเลือกวีแกน เป็นมิตรกับธรรมชาติมากกว่าหนังจากสัตว์ เนื่องจากใช้ทรัพยากรน้ำน้อยกว่า ต้องการพื้นที่น้อยกว่า และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า ตรงข้ามกับการเลี้ยงสัตว์ที่ต้องใช้ทรัพยากรมากกว่า พื้นที่ในการเลี้ยงอาจมีความเสื่อมโทรม หรือต้องมีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อใช้เป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ อีกทั้งการปล่อยก๊าซที่ไม่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ เช่น ก๊าซมีเทน และการขนส่งเคลื่อนย้ายสัตว์ เหล่านี้เมื่อเปรียบเทียบกัน หนังทางเลือกวีแกนจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าให้กับผู้คนที่ตระหนักถึงการเป็นมิตรกับธรรมชาติ ส่วนอายุการใช้งานของหนังทางเลือกนั้น ถ้าทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ก็จะมีอายุการใช้งานนานเป็นสิบปี การสวมใส่รองเท้าหนังทางเลือกยิ่งมีระยะเวลาการใช้งานนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความยั่งยืนให้แก่โลกของเรามากขึ้นเท่านั้น
หนังทางเลือกวีแกนมีน้ำหนักเบากว่าหนังสัตว์ การฟอกสีก็ง่ายกว่าและมีความหลากหลายของสีมากกว่า ทนต่อสภาพอากาศที่มีความชื้นมากกว่า การดูแลรักษาก็ง่ายกว่าหนังสัตว์ รองเท้าวีแกนที่มีขายตามท้องตลาดมีราคาตั้งแต่ 60 ยูโร ถึง 300 ยูโร ซึ่งขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้และความยากง่ายของการผลิต
ที่มา: Shoez