Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรก

เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท Xiaomi Group ได้จัดงานเปิดตัวสินค้าในธีม “ก้าวไปข้างหน้า” ในกรุงปักกิ่ง โดยได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 อย่างเป็นทางการ นายเหลย จุน ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ Xiaomi Group กล่าวว่า “นี่คือการปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรถยนต์ Xiaomi SU7 และยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมอีกด้วยรถยนต์ในความฝันแห่งยุคนี้ต้องมีเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัยที่สุดและประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด เราหวังที่จะผลิตรถยนต์ที่ดูดีที่สุด ขับขี่ดีที่สุด และอัจฉริยะที่สุด ภายในราคาจำหน่ายประมาณ 500,000 หยวน”

รถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 รุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี และตั้งราคาเริ่มต้นจาก 215,900 หยวน โดยรุ่นมาตรฐานมีราคา 215,900 หยวน รุ่น Pro ราคา 245,900 หยวน และรุ่น Max ราคา 299,900 ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ แอป Xiaomi Auto และ Xiaomi Auto Mini Program บน WeChat หรือช่องทางออฟไลน์ คือ ร้านค้าปลีก Xiaomi Auto ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใน 29 เมืองทั่วประเทศ

นายเหลย จุน กล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะโดยพื้นฐานแล้วคือ “รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ” ในช่วงหนึ่งทศวรรษปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมได้แก้ไขปัญหาเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว คาดว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นทศวรรษแห่งอัจฉริยะ ซึ่งด้านการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะก็นับเป็นข้อได้เปรียบของ Xiaomi ในฐานะที่เป็นบริษัทเทคโนโลยี มีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน มีความสามารถในการวิจัยและพัฒนาในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ ชิป ปัญญาประดิษฐ์ ฯลฯ โดยบริษัทมีความสามารถในด้านดังกล่าวเหนือกว่าผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมอย่างมาก

นอกเหนือจาก “ธุรกิจดั้งเดิมของ Xiaomi” ในด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะแล้ว Xiaomi ยังได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในด้านวัสดุ อุปกรณ์ และอุตสาหกรรมการผลิตสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น “เทคโนโลยีการหล่อฉีดโลหะขนาดใหญ่ (Integrated large die-casting technology)” เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีหลักที่ Xiaomi พัฒนาขึ้นด้วยตนเอง การใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตตัวถังรถยนต์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และทำให้ชิ้นส่วนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็น “จุดเด่น” ในการประยุกต์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน

Xiaomi ที่ลงทุนในเทคโนโลยีอัจฉริยะมาหลายปี ยังได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการวิจัยและพัฒนาวัสดุที่เป็นนวัตกรรมอีกด้วย มีรายงานว่า ทีมงานวิจัยและพัฒนาวัสดุของ Xiaomi ใช้การสร้างแบบจำลองปัญญาประดิษฐ์ เพื่อคัดกรองสูตรวัสดุจาก 10.16 ล้านสูตรหลายครั้ง และหลังจากการทดสอบหลายพันครั้ง ในที่สุดได้รับวัสดุ “Titan Alloy” ที่ประกอบด้วยธาตุรอง เช่น แร่ Rare Earth และเซอร์โคเนียม (Zirconium) เพื่อสร้างตัวถังรถมีความแข็งแกร่ง ทนทาน และมั่นคง

โรงงานผลิตรถยนต์อัจฉริยะ Xiaomi ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีปักกิ่ง ครอบคลุมพื้นที่ 718,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโรงงานอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์อัตโนมัติขั้นสูง โรงงานทั้งหมดมีหุ่นยนต์จำนวนมากกว่า 700 ตัว ซึ่งสามารถทำให้กระบวนการผลิตรถยนต์สำคัญๆ กลายเป็นอัตโนมัติได้ 100% เช่น การหล่อขึ้นรูปขนาดใหญ่ การเชื่อมต่อตัวถัง การพ่นสี และการประกอบขั้นสุดท้าย เป็นต้น นอกจากนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ Xiaomi ยังเป็นโรงงานสีเขียว โดยได้คำนึงถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโรงงาน เช่น ด้านบนหลังคาของโรงงานมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ (Photovoltaic : PV) ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 16.4 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี การควบคุมการปล่อยน้ำเสียและก๊าซคาร์บอนอย่างเข้มงวด โดยมีประสิทธิภาพการจัดการสูงถึง 99% ทั้งนี้ หลังจากเต็มกำลังการผลิตแล้ว โรงงานสามารถผลิต Xiaomi SU7 ได้ประมาณ 40 คันต่อชั่วโมง

ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Xiaomi พบว่า ยอดการจองรถยนต์ Xiaomi SU7 มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เปิดตัวในวันที่ 28 มีนาคม 2567  โดยมีปริมาณยอดขายเกิน 10,000 คัน ใน 4 นาที 20,000 คัน ใน 7 นาที และ 50,000 คัน ใน 27 นาที หลักจาก Xiaomi SU7 เปิดตัวเป็นเวลา 24 ชั่วโมง นายเหลย จุน ได้ประกาศบน Weibo อย่างเป็นทางด้วยว่า จำนวนการสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับ Xiaomi SU7 เกิน 88,898 คันหลังจากการเปิดตัวหนึ่งวัน ขณะเดียวกัน การทดลองขับ Xiaomi SU7 ในโชว์รูมขายรถยนต์ Xiaomi แบบออฟไลน์ก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน โชว์รูม Xiaomi หลายแห่งในนครเซี่ยงไฮ้เต็มไปด้วยผู้เข้าชมจำนวนมากมาย และมีการต่อคิวยาวที่หน้าประตู พนักงานของร้านบอกว่าจำนวนผู้เข้าชมต่อวันเกือบ 10,000 คน และการทดลองขับรถต้องต่อคิวรอนานถึงตี 2 หรือ ตี 3

ข้อมูลเพิ่มเติม/ผลกระทบ/ความเห็นของ สคต.

จากรายงาน “2024 China Automotive Consumer Insights Report” ที่เผยแพร่โดย McKinsey ระบุว่า ผู้บริโภคชาวจีนชื่นชอบแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีอัจฉริยะในการขับขี่อัตโนมัติ ที่นั่งอัจฉริยะ ฯลฯ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวจีนเลือกซื้อแบรนด์ในประเทศ รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า การให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะและการประเมินมูลค่าแบรนด์แบบดั้งเดิมอีกครั้งของผู้บริโภค กำลังผลักดันให้โครงสร้างตลาดมีการปรับใหม่อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ Xiaomi ประกาศว่าแผนการสร้างผลิตรถยนต์ บริษัท Xiaomi ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้วยความแข็งแกร่งที่ครอบคลุมหลายด้าน รวมถึงระบบการวิจัยและพัฒนา บุคลากร กระบวนการทำงาน และสารสนเทศล้วนได้รับการปรับปรุงอย่างมาก เงินสดสำรองของบริษัทเพิ่มขึ้น 3 หมื่นล้านหยวนเมื่อเทียบกับสามปีที่แล้ว เป็น 136.3 พันล้านหยวน ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการดำเนินธุรกิจรถยนต์อย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ ตามข้อมูล ณ สิ้นปี 2566 ปริมาณยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกของ Xiaomi ยังคงติดหนึ่งในสามอันดับแรกของโลกเป็นเวลา 14 ไตรมาสติดต่อกัน และมีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วโลกต่อเดือนสูงถึง 641 ล้านคน ธุรกิจของ Xiaomi ได้เข้าสู่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในเดือนสิงหาคม 2566 Xiaomi Group ได้เข้าสู่ Fortune Global 500 เป็นเวลาห้าปีติดต่อกัน โดยอยู่ในอันดับที่ 360

————————————————–

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

เมษายน 2567

แหล่งข้อมูล : https://baijiahao.baidu.com/s?id=1794826839079520360&wfr=spider&for=pc

https://baijiahao.baidu.com/s?id=1795005827580888420&wfr=spider&for=pc

https://www.beijing.gov.cn/ywdt/gzdt/202403/t20240329_3604291.html

https://kfqgw.beijing.gov.cn/zwgkkfq/yzxwkfq/202403/t20240329_3604739.html