ธุรกิจข้ามชาติบางราย ได้ออกจากตลาดแอฟริกาใต้หรือมีแผนจะออกจากแอฟริกาใต้ ซึ่งสร้างความกังวลต่อรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ อาทิ
-ธนาคาร BNP Paribas (ธนาคารสัญชาติฝรั่งเศส ขนาดใหญ่อันดับ 6 ของโลก ได้เปิดให้บริการให้แอฟริกาใต้เมื่อปี 2555) ได้ประกาศ เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ว่าหยุดให้บริการในแอฟริกาใต้ โดยจะให้มุ่งให้ความสนใจตลาดยุโรปและเอเชีย แทนตลาดแอฟริกา
-Anglo-American (บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน) ประกาศว่า ปี 2567 มีแผนที่จะขายธุรกิจเพชร De Beers เพื่อปกป้องบริษัทจากการถูกเทคโอเวอร์โดย BHP ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สำคัญด้านธุรกิจเหมืองแร่ เนื่องจากขณะนี้ ธุรกิจเพชรกำลังเผชิญปัญหายอดจากลดลง เหตุจากปัญหาเศรษกิจตกต่ำทั่วโลก ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มหันไปเลือกซื้อเพชรจากห้องทดลอง (lab diamonds) แทนเพชรแท้
– EL AL Airline (สายการบินแห่งอิสราเอล) ได้ยุติบริการในแอฟริกาใต้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างแอฟริกาใต้และอิสราเอล โดยสายการบินได้หยุดเที่ยวบินระหว่าง เทลอาวีฟ อิสราเอลและโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ ( 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) หลังจากที่แอฟริกาใต้ได้ยื่นฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) ประเด็นอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนการซ่า
-Shell (ธุรกิจน้ำมันรายใหญ่ มีปั๊มน้ำมัน 600 แห่ง ในแอฟริกาใต้) มีแผนที่จะขายหุ้น Shell Downstream South Africa ภายในปี 2567 เนื่องจากจะไปดำเนินธุรกิจต้นน้ำ(ธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมัน)
– AngloGold Ashanti (บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่) ได้ขายสินทรัพย์ในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2563 แล้วย้ายที่ตั้งของบริษัทจากแอฟริกาใต้ไปที่สหราชอาณาจักร และหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบิร์กได้ย้ายไปยังตลาดหุ้นนิวยอร์ก เมื่อปี 2566
– Fitbit (บริษัทลูกของ Google) ได้ยกเลิกการจำหน่ายสินค้าในแอฟริกาใต้เมื่อปี 2566 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัท Google
-BP (บริษัทน้ำมันและแก๊ส มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ลอนดอน) ได้หยุดดำเนินธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการบินในแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2566 เนื่องจากเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจ
– Barclays (ธนาคารรายใหญ่จาก UK) ได้ออกจากตลาดแอฟริกาใต้เมื่อปี 2565 หลังจากขายหุ้น ที่เหลือทั้งหมดให้แก่ Absa (ธนาคารรายใหญ่ในแอฟริกาใต้) เนื่องจากภาวะวิกฤตด้านการเงิน
– Chevron (บริษัทน้ำมันรายใหญ่ แบรนด์ Caltex) ได้ออกจากตลาดแอฟริกาใต้เมื่อปี 2561 โดย Glencore (บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของแอฟริกาใต้) ได้ซื้อสินทรัพย์ของ Chevron ในแอฟริกาใต้ ขณะนี้ Caltex อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแบรนด์เป็น Astron Energy (Glencore เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่)
– GM (ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ อาทิ แบรนด์ GMC และ Chevrolet) ได้ประกาศในปี 2560 ว่า จะออกจากแอฟริกาใต้เนื่องจากการปรับโครงสร้างภายใน ต่อมา Isuzu ได้เทคโอเวอร์ GM ในแอฟริกาใต้แล้ว
ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็นของสำนักงานฯ : การลงทุนจากต่างประเทศมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจในแอฟริกาใต้ แม้ว่าที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีบริษัทข้ามชาติระหว่างประเทศรายใหญ่ได้โบกมือลาแอฟริกาใต้ด้วยเหตุผลต่างๆ แต่พบว่าแอฟริกาใต้ยังคงดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ อาทิ เมื่อเร็วๆนี้ Amazon มีแผนจะลงทุนในแอฟริกาใต้มูลค่า 30 พันล้านแรนด์ (ประมาณ 59.4 พันล้านบาท) ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ขณะนี้ Amazon ได้ลงทุนสร้างสำนักงานที่เคปทาวน์ มูลค่า 4.5 ล้านแรนด์ (ประมาณ 8.91 ล้านบาท) และได้เปิดตัว www.amazon.co.za ที่แอฟริกาใต้แล้ว นอกจากนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2567 Volkswagen ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 4 พันล้านแรนด์ (ประมาณ 7.92 พันล้านบาท) ที่โรงงานในจังหวัดอีสเทิร์นเคป เพื่อผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ที่จะผลิตสู่ตลาดในปี 2570 ในขณะที่ BP Group แอฟริกาใต้ ได้ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจ ในโอกาสก่อตั้งที่แอฟริกาใต้ครบ 100 ปี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ว่าจะเพิ่มจำนวนสาขาปั๊มน้ำมันและยกระดับการบริการ
ทั้งนี้ รายงานจาก PwC South Africa เมื่อเดือนเมษายน 2567 ระบุว่า ปี 2566 มีการลงทุนจากต่างประเทศในแอฟริกาใต้ มูลค่า 96.5 พันล้านแรนด์ (หรือประมาณ 191 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 1.4 ของ GDP นอกจากนี้ พบว่าตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกเมื่อปี 2551 เป็นต้นมา แอฟริกาใต้มีเงินลงทุนสุทธิจากต่างประเทศเป็นบวก (มูลค่าเงินลงทุนไหลเข้าสูงว่ามูลค่าการถอนการลงทุน) โดย PwC ให้ข้อมูลว่า ปัจจัยบวกที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมาที่แอฟริกาใต้ อาทิ การบริการทางการเงินและการสื่อสารระดับโลก ระบบกฎหมายที่โปร่งใส ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีจุดเด่นทางภูมิศาสตร์โดยแอฟริกาใต้เป็นประตูการค้าสู่ประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตลาดแอฟริกาใต้ยังเป็นโอกาสต่อนักลงทุนต่างชาติในสำหรับบางธุรกิจ แม้ว่ายังคงมีความท้าทายจากหลายปัจจัย
ที่มา : www businesstech.co.za และ www.sanews.gov.za
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย
พฤษภาคม 2567