ออสเตรียจัดยิ่งใหญ่ Austrian Lifestyle Week 2024 ครั้งแรก ปักหมุดกรุงเทพฯ ศูนย์กลางวัฒนธรรมของภูมิภาค โรดโชว์ซอฟต์พาวเวอร์อาหาร ไวน์ และแฟชั่น ไทยส่งดีไซเนอร์ดาวรุ่งประกบแฟชั่นโชว์ร่วมกับแบรนด์ออสเตรีย มีคนสำคัญร่วมงานคึกคัก
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมามีการจัดแฟชั่นโชว์สุดพิเศษขึ้นที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิดแฟชั่นรักษ์โลก จัดแสดงคอลเลกชั่นของนักออกแบบออสเตรีย 3 แบรนด์ ได้แก่ คอนเชส (Conches) พลูราล (Plural) และ ชาง เด โฮ (Thang de Hoo) ร่วมกับคอลเลกชั่นของนักออกแบบไทย 3 แบรนด์ ได้แก่ เมซง วันเดอร์ อนาโตมี (Maison Wonder Antomie) สิรินธรา (Sirintra) และเอก ทองประเสริฐ (Ek Thongprasert) ซึ่งทั้งหมดเป็นแบรนด์ที่เคยสร้างชื่อเสียงในงานเวียนนาแฟชั่นวีคผ่านโครงการพัฒนานักออกแบบไทยของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในปีที่ผ่านๆ มา แต่ละแบรนด์มีสไตล์การออกแบบเฉพาะตน มีความสวยงามโดดเด่น และเน้นการส่งเสริมความยั่งยืน โดยมีแขกรับเชิญเข้าชมการแสดงแฟชั่นโชว์ราว 250 คน และมีบุคคลสำคัญรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
การแสดงแฟชั่นโชว์นี้เป็นกิจกรรมไฮไลท์ของงาน Austrian Lifestyle Week 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 18 – 24 มีนาคม 2567 โดยสถานทูตออสเตรียประจำประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าออสเตรีย (Advantage Austria) ประจำประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวออสเตรียประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เพื่อเป็นสัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความยั่งยืน โดยเน้นการนำเสนอสินค้าที่ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศออสเตรีย ได้แก่ อาหาร ไวน์ และแฟชั่น สาเหตุที่ออสเตรียเลือกปักหมุดที่ประเทศไทยเนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของภูมิภาค ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งล้วนส่งเสริมซึ่งกันและกัน รวมถึงเชื่อมั่นในนโยบายการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรียและไทยที่มีมายาวนานกว่า 155 ปีและครบรอบ 70 ปีแห่งการแลกเปลี่ยนทางการทูตระหว่างกันอีกด้วย
นอกจากแฟชั่นโชว์ยังมีไฮไลท์อื่นๆ ของงาน ได้แก่ การแข่งขันการทำอาหารกระชับมิตรระหว่างเชฟชาวออสเตรีย Max Stiegl และเชฟชาวไทย มาโนช พึ่งพร้อม จัดขึ้นที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตออสเตรีย ในวันที่ 20 มีนาคม กิจกรรมชิมไวน์สุดพิเศษ ซึ่งรวบรวมไวน์ชั้นนำจากประเทศออสเตรียมากกว่า 50 ชนิด จัดขึ้นที่โรงแรม St. Regis Bangkok ในวันที่ 21 มีนาคม การเสวนาในหัวข้อแฟชั่นและซอฟต์พาวเวอร์ โดยนักออกแบบไทยและออสเตรีย จัดขี้นที่โรงแรม Le Meridien Bangkok ในวันที่ 23 มีนาคม และการออกคูหาแสดงสินค้าในงาน STYLE BANGKOK FAIR 2024 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 20 – 24 มีนาคมอีกด้วย
งานนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรหลากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ บริษัท Lenzing บริษัท Swarovski บริษัท CHAT Cosmetics โรงแรม Le Meridien Bangkok สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ และหน่วยงานรัฐของไทย ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเสมอมา
ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ
ออสเตรียและไทยมีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างกันมายาวนานกว่า 155 ปี มีการเติบโตของการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยในประเทศออสเตรียอย่างต่อเนื่อง อาทิ อาหารไทย และแฟชั่นไทย ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ให้การสนับสนุนนักออกแบบแฟชั่นไทยเข้าร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ในงานเวียนนาแฟชั่นวีคมาเป็นระยะเวลา 14 ปีติดต่อกัน จนถึงบัดนี้ออสเตรียได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของภูมิภาคซึ่งจะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของออสเตรียในภูมิภาคนี้เช่นกัน นับเป็นความก้าวหน้าและการต่อยอดความสำเร็จในการส่งเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทย ที่เริ่มต้นจากกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในเวทีสากล มาสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งหวังว่าความสัมพันธ์อันดีที่เกิดจากความร่วมมือครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการอำนวยประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศในด้านอื่นๆต่อไป อาทิ การเจรจาเขตการค้าเสรีไทย-อียู ที่กำลังมีการรื้อฟื้นและต้องการให้สำเร็จโดยเร็ว และคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-ออสเตรีย ใน 10 สาขา ซึ่งได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกันไปแล้วโดย รมว. ของทั้งสองประเทศ (ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการจัดตั้งคณะทำงานนี้กับออสเตรีย ซึ่งออสเตรียกำลังดำเนินการกับประเทศยุทธศาสตร์อื่นๆด้วยเช่นกัน) ตลอดจนการสร้างความร่วมมือด้านอื่นๆในอนาคต
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา