รัฐบาลอินโดนีเซียเลื่อนการรับรองฮาลาลภาคบังคับสำหรับ MSMEs

รัฐบาลอินโดนีเซียได้ยกเลิกเกณฑ์ที่จะบังคับใช้ใบรับรองฮาลาลสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดย่อม (MSMEs) ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเลื่อนกำหนดจากเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ไปเป็นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2569 ประธานาธิบดีโจโก “โจโกวี” วิโดโด เป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในการประชุมร่วมกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีหลายท่าน รวมถึงยากุต โชลิล คูมาส รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนา “มาตรการเชิงนโยบายในการเลื่อนการรับรองฮาลาลภาคบังคับสำหรับอาหารและเครื่องดื่มในกลุ่มผู้ผลิต SMEs โดยรัฐบาลต้องการช่วยเหลือ SMEs ที่มีหมายเลขประจำตัวธุรกิจ (NIB) สามารถยื่นขอตรารับรองฮาลาลได้จนถึงเดือนตุลาคม 2569” Yaqut กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี การรับรองฮาลาลที่จะมีผลบังคับใช้ตามระเบียบรัฐบาลฉบับที่ 39 ปี 2021 ว่าด้วยการจัดการการรับประกันผลิตภัณฑ์ฮาลาล โดยมาตรา 140 ระบุว่าสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายในอินโดนีเซียจะต้องได้รับการรับรองฮาลาลภาคบังคับระหว่างวันที่ 17 ต.ค. 2562 ถึง 17 ต.ค. 2567 “การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นเพื่อปกป้องธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ SMEs เพื่อให้พวกเขาไม่ประสบปัญหาทางกฎหมายหรือเผชิญหน้า การลงโทษทางปกครอง” รัฐมนตรีกล่าว Muhammad Aqil Irham หัวหน้าหน่วยงานรับรองฮาลาลของกระทรวง กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเดียวกันว่า หน่วยงานของเขาจะหารือเกี่ยวกับการเตรียมการทางเทคนิคของการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป เพื่อแจ้งแก่หน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และกระทรวงสหกรณ์และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

เขากล่าวว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมการจัดสรรงบประมาณเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ SMEs ในการขอการรับรองฮาลาล เนื่องจาก BPJPH ดำเนินการด้วยงบประมาณที่จำกัด โดยสามารถสนับสนุนออกใบรับรองฟรีได้เพียง 1 ล้านใบต่อปีเท่านั้น “เราได้โต้แย้งกับข้อจำกัด [งบประมาณ] นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2566 และ 2567 ซึ่งมีการขอการรับรองเกินโควต้า เนื่องจาก SMEs กระตือรือร้นที่จะได้รับการรับรองฮาลาลฟรี” Aqil กล่าว ขณะนี้ BPJPH จะแจ้งให้สาธารณชนทราบเกี่ยวกับโครงการที่จะขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป ซึ่งเสริมว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือ MSMEs ให้ได้รับการรับรองฮาลาล เช่น กำหนดค่าธรรมเนียมต่ำ การอำนวยความสะดวก SMEs ใน กระบวนการและการเสนอการส่งใบสมัครออนไลน์

รัฐบาลได้พัฒนาระบบการรับรองฮาลาลในประเทศ เช่น โดยการเพิ่มจำนวนหน่วยงานรับประกันผลิตภัณฑ์ฮาลาล (LPH) จากเพียงหนึ่งแห่งเป็น 72 แห่ง รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม 17 แห่งสำหรับการรับรอง ตามคำแถลงสมาคมอุตสาหกรรม MSME ของอินโดนีเซีย (AKUMANDIRI) ซึ่งยินดีกับการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป และแนะนำว่าไม่เพียงแต่รัฐบาลต้องให้เวลามากขึ้น แต่ต้องให้ข้อมูลและการอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมสำหรับบริษัทต่างๆ ในการรับใบรับรองฮาลาล Hermawati Setyorinni ประธาน AKUMANDIRI กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่ารัฐบาลควรวางแผนให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถได้รับใบรับรองฮาลาลฟรีเป็นอันดับแรกเนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงพันธกรณีดังกล่าวด้วยซ้ำ

“นโยบายของ [การรับรองฮาลาลภาคบังคับ] ไม่เหมาะสำหรับ [สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก] มันเร็วเกินไป. ผู้ค้าริมถนนรายย่อยบางรายไม่ยินดีรับนโยบายดังกล่าว พวกเขาไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับขั้นตอนและประโยชน์ของการมีเครื่องหมาย Halal” Hermawati กล่าวกับ Kompas.com ว่าระเบียบดังกล่าวจะเป็นภาระสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากระเบียบดังกล่าวพิ่มค่าใช้จ่าย และอาจนำไปสู่การไม่ปฏิบัติตาม จึงควรเพิ่มงบประมาณสำหรับโครงการนี้

ระเบียบรัฐบาลฉบับที่ 33 ปี 2014 ว่าด้วยการรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งเป็นระเบียบหลักกำหนดให้ผลิตภัณฑ์บริโภคทั้งหมดที่จำหน่ายในอินโดนีเซียต้องมีฉลากฮาลาล ยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ฮาลาล เช่น เนื้อหมู ซึ่งผู้ขายจะต้องติดฉลากว่าไม่ใช่ฮาลาลผ่านป้าย รูปภาพ หรือข้อความ

ความคิดเห็นของสำนักงาน

รัฐบาลอินโดนีเซียขยายเวลาการบังคับใช้ว่าระเบียบด้วยการรับรองผลิตภัณฑ์ฮาลาลที่กำหนดให้อาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายในอินโดนีเซียต้องได้รับการรับรองฮาลาลแก่ผู้ผลิต MSMEs จากเดิมกำหนดบังคับใช้ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ไปเป็นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2569 เพื่อ ให้ MSMEs มีเวลามากขึ้นในการปฏิบัติตามข้อกำหนดการรับรองภาคบังคับ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตรายใหญ่ หรือผู้ผลิตจากต่างประเทศยังคงมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2567  ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการเลื่อนเวลาบังคับใช้ออกไปแต่ระเบียบดังกล่าว ก็ยังคงเป็นปัญหาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด เนื่องจากข้อจำกัดทางการเงินหรือขาดความตระหนักรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ค้าริมถนนรายย่อยและวิสาหกิจขนาดย่อมอาจเห็นว่าการรับรองภาคบังคับเป็นภาระ ซึ่งอาจนำไปสู่การไม่ปฏิบัติตามหรือการคัดค้าน

ในส่วนของสินค้าไทยที่จำหน่ายในอินโดนีเซียอยู่แล้วส่วนให้ได้รับการรับรองตราฮาลาล หรือกำลังยื่นของตรารับรองฮาลาลอินโดนีเซีย โดยปัจจุบันสามารถยื่นขอใบรับรองโดยตรงกับ BPJPH ของอินโดนีเซีย หรือยื่นผ่านคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (CICOT)

thThai