การค้าระหว่างประเทศของไนจีเรียเกินดุลเพิ่มขึ้น 79%

สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานการค้าระหว่างประเทศของไนจีเรียแสดงข้อมูลตัวเลขที่บันทึกไว้พบว่ามีการได้ดุลการค้าจำนวน 6.52 ล้านล้านไนร่าในไตรมาสที่ 1 และถือเป็นการได้ดุลการค้าไตรมาสที่หกติดต่อโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 79.1 จาก 3.64 ล้านล้านไนร่าในไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 20.9 พันล้านไนร่าเมื่อเทียบเป็นรายปี จากการได้ดุลการค้าของไนจีเรียพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.52 ล้านล้านไนร่าในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญดังกล่าวจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วนั้นเป็นการเติบโตที่โดดเด่นอันเป็นผลมาจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ การค้าสินค้าทั้งหมดในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของแอฟริกาอยู่ที่ 31.8 ล้านล้านไนร่าในไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 46.3 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าที่บันทึกไว้ในไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 145.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับมูลค่าที่บันทึกไว้ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยรายงานยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 60.3 ของการค้าทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 โดยมีมูลค่า 19.2 ล้านล้านไนร่าซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 51 เมื่อเทียบกับมูลค่าที่บันทึกไว้ในไตรมาสที่ 4 (12.7 ล้านล้านไนร่า) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 195.5 มากกว่ามูลค่าที่บันทึกไว้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 (6.48 ล้านล้านไนร่า)

สำหรับสินค้าส่งออกนั้น จากรายงานระบุว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 1 นำโดยการส่งออกน้ำมันดิบมูลค่า 15.4 ล้านล้านไนร่าคิดเป็นร้อยละ 80.80 ของการส่งออกทั้งหมด ในขณะที่มูลค่าของการส่งออกน้ำมันที่ไม่ใช่น้ำมันดิบอยู่ที่ 3.68 ล้านล้านไนร่า    คิดเป็นร้อยละ 19.20 ของการส่งออกทั้งหมดและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออก 1.78 ล้านล้านไนร่าหรือร้อยละ 9.28 ของการส่งออกทั้งหมด ในทางกลับกัน ส่วนแบ่งของการนำเข้าทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 39.7 ของการค้าทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 โดยมีมูลค่าการนำเข้าจำนวน 12.6 ล้านล้านไนร่าซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.6 จากมูลค่าที่บันทึกไว้ในไตรมาสที่ 4 (9.05 ล้านล้านไนร่า) และเพิ่มขึ้นร้อยละ 95.5 เมื่อเทียบกับมูลค่าที่บันทึกไว้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 (6.47 ล้านล้านไนร่า) โดยที่ประเทศจีนอยู่ในอันดับที่สูงที่สุดในบรรดาคู่ค้าชั้นนำด้านการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในไตรมาสที่ 1 ตามมาด้วยอินเดีย สหรัฐอเมริกา เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ส่วนสินค้าที่มีการซื้อขายกันมากที่สุด ได้แก่ น้ำมันรถยนต์ นํ้ามันดีเซล ข้าวสาลีดูรัม (ไม่มีเมล็ดพืช) น้ำตาลอ้อยสำหรับโรงกลั่นน้ำตาล ก๊าซปิโตรเลียมเหลวและก๊าซไฮโดรคาร์บอนอื่นๆ

อนึ่งจากรายงานดังกล่าวจะเห็นว่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างมากซึ่งเหตุผลหนึ่งอันเนื่องมาจากสกุลเงินไนร่าที่อ่อนค่าลง ดังที่คนส่วนใหญ่กล่าวว่า สกุลเงินที่อ่อนค่าทำหน้าที่เหมือนตัวส่งเสริมการส่งออกทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ซื้อทั่วโลก และเพิ่มรายได้ในสกุลเงินท้องถิ่นเมื่อแปลงสกุลเงินทำให้ไนจีเรียได้พบประโยชน์ที่ได้รับจากเงินที่อ่อนค่าลงซึ่งที่ผ่านมาในเดือนมีนาคม 2567 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1309 ไนร่าต่อ 1 ดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม 2566 อัตราแลกเปลี่ยน 907 ไนร่าต่อ 1 ดอลลาร์ และ 460 ไนร่าต่อ 1 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2566 โดยมีมูลค่าการส่งออก 14.6 พันล้านดอลลาร์ 13.4 พันล้านดอลลาร์ และ 14.1 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับซึ่งทำให้เห็นความต่างของมูลค่าการส่งออกจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่คงที่ของเงินไนร่า อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่เพิ่มขึ้นในแง่ของเงินการอ่อนค่าของเงินไนร่าทำให้เห็นถึงศักยภาพของไนจีเรียในการสร้างรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยนที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการส่งออกสินค้าหลักคือน้ำมันดิบ จากรายงานเน้นย้ำว่าการส่งออกน้ำมันดิบซึ่งคิดเป็น 80.80% ของการส่งออกทั้งหมดมีมูลค่าอยู่ที่ 15.49 ล้านล้านไนร่าซึ่งเพิ่มขึ้น 50.20% จาก 10.31 ล้านล้านไนร่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 และเพิ่มขึ้น 200.79% จากไตรมาสที่ 1 ปี 2566 (5.15 ล้านล้านไนร่า)

thThai