“Tastien” เบอร์เกอร์แบรนด์จีน คว้ารางวัล จากงานประชุมสุดยอดแบรนด์จีนโป๋อ๋าว

“Tastien” เบอร์เกอร์แบรนด์จีน คว้ารางวัล จากงานประชุมสุดยอดแบรนด์จีนโป๋อ๋าว“Tastien” เบอร์เกอร์แบรนด์จีน คว้ารางวัล จากงานประชุมสุดยอดแบรนด์จีนโป๋อ๋าว

เมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมสุดยอดแบรนด์จีนโป๋อ๋าว ครั้งที่ 8 (The 8th Chinese Brand Boao Summit)  จัดขึ้นที่มณฑลไหหลำ แบรนด์เบอร์เกอร์จีน “Tastien”  (ต่อไปจะเรียกสั้นๆ ว่า “Tastien”) ได้รับรางวัล “แบรนด์ผู้บุกเบิกเบอร์เกอร์ของจีน” ในการประชุมครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูง แขกผู้มีเกียรติ ผู้นำแบรนด์ชั้นนำ และตัวแทนสื่อจากสาขาต่างๆ มารวมตัวกันในธีม “พลังของแบรนด์ขับเคลื่อนอนาคต” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ด้านนวัตกรรมของแบรนด์ การแลกเปลี่ยนเรื่องราวการเติบโตของแบรนด์ การศึกษาช่องทางการพัฒนาแบรนด์จีนให้มีความแข็งแกร่งในอนาคต

“Tastien” เบอร์เกอร์แบรนด์จีน คว้ารางวัล จากงานประชุมสุดยอดแบรนด์จีนโป๋อ๋าว

Tastien ได้ก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี 2555 และยึดมั่นกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองมาโดยตลอด ปี 2561 บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดตัว “แป้งเบอร์เกอร์อบสดใหม่” ซึ่งเป็นการ     สืบทอดเทคนิคและทักษะการทำขนมของจีน สามารถสร้างความแตกต่างกับเบอร์เกอร์แบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด และยังเป็นความสามารถในการแข่งขันหลักของผลิตภัณฑ์อีกด้วย

เพื่อพัฒนาให้แบรนด์และสินค้ามีอัตลักษณ์ความเป็นจีน Tastien ยังคงค้นหาจุดผสมผสานระหว่างเบอร์เกอร์กับรสชาติอาหารจีนแบบดั้งเดิม โดยเปิดตัวเมนูเบอร์เกอร์สุดสร้างสรรค์ เช่น เบอร์เกอร์เป็ดปักกิ่ง เบอร์เกอร์บาร์บีคิวผักดอง เบอร์เกอร์เนื้อพะโล้ และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นกระแสนิยม ที่สามารถเป็นเบอร์เกอร์ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมและรสนิยมแบบจีน

เมื่อวันที่ 7 มิถุยายน 2567 Tastien ได้เปิดตัวเมนูใหม่ “เบอร์เกอร์รส Shanye Xunxiang”

(山野寻香) ในซีรีส์ “การค้นหารสชาติ” วัตถุประสงค์เพื่อค้นหารสชาติแบบจีนดั้งเดิม สืบทอดอาหารการกินของจีน ทั้งแบบคลาสสิคและแบบร่วมสมัย รสใหม่ครั้งนี้เป็นรสผสมผสานระหว่างมะนาวและเครื่องเทศจีนเข้าด้วยกัน นอกจากเบอร์เกอร์รสใหม่นี้แล้ว ยังมีการออกเมนูรากบัวทอดกรอบควบคู่กัน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาจากเฟรนซ์ฟรายส์ โดยคัดสรรรากบัวคุณภาพสูง หั่นเป็นเส้นแล้วทอดจนผิวเป็นสีน้ำตาลทอง แต่ยังคงกลิ่นหอมและความหวานของรากบัว โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสื่อความหมายให้กับผู้บริโภคชาวจีนว่า การรับประทานเบอร์เกอร์อร่อย เริ่มต้นจากปลายลิ้น ลิ้มรสความเป็นธรรมชาติและเข้าถึงวัฒนธรรมจีน เป็นการฟื้นฟูรสชาติตั้งเดิมจากถิ่นธรรมชาติของชุมชนอย่างแท้จริงที่ผู้คนในเมืองอาจไม่ค่อยได้สัมผัสในชีวิตประจำวัน

นอกจากนวัตกรรมด้านรสชาติเบอร์เกอร์สไตล์จีนแล้ว บรรจุภัณฑ์ของเบอร์เกอร์เมนูใหม่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมจีน โดยแบบลายบนกล่องเบอร์เกอร์ได้แรงบันดาลใจจากรูปแบบการเย็บปักร้อย และสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของชนชาติกลุ่มน้อยของชาวจีน มีการเพิ่มลวดลายเครื่องเทศ เมฆมงคล ดอกไม้ธรรมชาติ การออกแบบให้มีความเป็นธรรมชาติสไตล์จีนในทุกมิตินั้น ทำให้ผู้บริโภคเสมือนได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งได้สร้างจุดขายให้กับผู้บริโภคทันที

ในปี 2566 Tastien ได้มีการปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ (Rebranding) ซึ่งได้กำหนดสโลแกนใหม่ของบริษัทคือ “ท้องของคนจีน ฉันชอบเบอร์เกอร์สไตล์จีน” ซึ่งสามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีน และเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Tastien ที่จะเจาะลึกเบอร์เกอร์สไตล์จีน          ในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการสร้างและประกาศโลโก้ใหม่ที่เรียกว่า Tower Lion เป็นแรงบันดาลใจจากสิงโตทางภาคใต้ของจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมกังฟูยุคใหม่ โลโก้ดังกล่าวได้รับความนิยมจากชาวจีนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเป็นการเผยแพร่จิตวิญญาณแห่งชาติและวัฒนธรรมศิลปะการต่อสู้ ยังมีการสื่อความกล้าหาญและความกระตือรือร้น กล่าวได้ว่า Tower Lion ได้เพิ่มแรงจูงใจให้กับ         แบรนด์เป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่ความหลากหลายและมีมิติมากขึ้น เสริมสร้างคุณค่าของแบรนด์ และทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ Tastien นั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ในยุคการบริโภคสมัยใหม่ การสร้างแบรนด์อาจต้องเผชิญกับข้อกำหนดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ในฐานะผู้บุกเบิกเบอร์เกอร์อบสดใหม่จากจีน Tastien ได้สร้างจุดยืนของแบรนด์ในอุตสาหกรรมนี้ขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันในปัจจุบันที่นับวันรุ่นแรงมากยิ่งขึ้น บริษัทจำเป็นต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านนวัตกรรมการผลิต ด้านเทคโนโลยี รวมทั้งการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ และคุณค่าความหมายแฝงของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่อไปในอนาคต

ความคิดเห็นจาก สคต.ณ เมืองหนานหนิง

การใช้จุดแข็งของค่านิยม และอัตลักษณ์ของประเทศ กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในทุกสาขาของตลาดจีน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหาร ร้านอาหาร การแต่งกาย ของเล่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนขยายไปถึงการตกแต่ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคผ่านการมีส่วนร่วม การเข้าถึงผ่านประสบการณ์ และทำให้ผู้บริโภคนั้นเกิดแนวคิดชาตินิยม ที่ชื่นชอบและติดตามสินค้าแบรนด์จีน ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าและภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์จีน อันเป็นแนวคิดให้กับผู้ส่งออกไทยในพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมเพื่อให้สามารถแข่งขันและเจาะตลาดจีนได้ ขณะนี้การบริโภคของชาวจีนนอกเหนือจากการบริโภคตัวสินค้าผลิตภัณฑ์แล้ว ปัจจัยด้าน“ความเป็นประเทศ” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า ทั้งนี้ ความเป็นไทยที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นเป็นอีกหนึ่ง Soft Power ที่สามารถสร้างกระแสการรับรู้ อีกทั้งเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มมูลค่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ที่มาจากองค์ความรู้ต่างๆ ทรัพย์สินทางปัญญา และการวิจัย ซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม พื้นฐานทางประวัติศาสตร์การสั่งสมความรู้ของสังคม เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจ การผลิตสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจหรือคุณค่าทางสังคมอย่างได้ผล

————————————————————————————————-

ข้อมูลที่มา:

https://baijiahao.baidu.com/s?id=1800988862985544550&wfr=spider&for=pc

https://baijiahao.baidu.com/s?id=1802253895403034107&wfr=spider&for=pc

 

สคต.ณ เมืองหนานหนิง

 

 

 

 

 

 

thThai