นโยบายพรรคแรงงานที่จะมีผลต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและเศรษฐกิจการค้า

พรรคแรงงาน (Labour) ได้ให้คำมั่นสัญญาก่อนการเลือกตั้งถึงนโยบายของพรรคที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และนโยบายเศรษฐกิจการค้า ซึ่งรัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของพรรคแรงงานมีแนวโน้มในการผลักดันนโยบาย ดังนี้

การแก้กฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาสินค้าที่เป็นอันตรายต่อเด็ก เช่น อาหารขยะ (Junk food) ขนมที่มีปริมาณน้ำตาลสูง บุหรี่ไฟฟ้า (Vaping)
การงดขายเครื่องดื่มชูกำลังให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี
การให้ความสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหาร (Food Security) ให้เป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายให้อย่างน้อยร้อยละ 50 ของอาหารที่บริโภคในสหราชอาณาจักรมาจากการผลิตในประเทศ พร้อมทั้งจัดทำแผนการจัดการที่ดินเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ประโยชน์จากที่ดินของเกษตรกร
การตั้งเพดานอัตราภาษีธุรกิจไว้ที่ร้อยละ 25 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำสุดในกลุ่มประเทศ G7
ส่งเสริมอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักรผ่านการลงทุน โดยเน้นสนับสนุนด้านนวัตกรรม
การผลักดันให้สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในด้านพลังงานสะอาด (clean energy) และมีพลังงานสะอาดราคาถูกให้กับอุตสาหกรรมและชาวสหราชอาณาจักรได้ใช้
ให้การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก โดยการลดอุปสรรคในการส่งออกสินค้าของธุรกิจขนาดเล็ก
ในด้านการค้าระหว่างประเทศกับสหภาพยุโรป พรรคแรงงานมีนโยบายในการลดอุปสรรคทางการค้า และป้องกันการตรวจสอบที่ชายแดนอันไม่จำเป็น รวมทั้ง ตรวจสอบผลกระทบที่เกิดจากความตกลงทางการค้ากับออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ที่มา: Food Navigator

ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต.

พรรคแรงงานได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยนโยบายที่พรรคแรงงานได้ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้งนั้น ผู้ประกอบการไทยควรติดตามความคืบหน้าของนโยบายที่อาจจะกระทบต่อสินค้าบางประเภทที่ส่งออกจากไทย เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง สินค้าอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เป็นต้น อย่างไรก็ดี มาตราการข้างต้นอาจส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร